xs
xsm
sm
md
lg

5แสนคนลงชื่อไล่"ปู" ปูดลงขัน6พันล้านล้มรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“องค์การพิทักษ์สยาม” นัดแถลง 10 โมงทุกวันก่อนดีเดย์ 24 พ.ย.นี้ ปัดแช่แข็งประเทศ แต่มุ่งล้างบางนักการเมือง โวคนลงชื่อเข้ารวมแล้ว 5 แสนคน “ปู”ยันจะใช้อำนาจกับกลุ่มต่อต้าน "ปลอด"ปรี๊ดแตก ไล่เข้าป่าไปตั้งประเทศใหม่ ด้านสภาผู้แทนผวาจัด สั่งทำบันไดหนีแล้ว "ประยุทธ์"ขู่อีก ห้ามทหารร่วมม็อบ ผบ.ตร.รับลูก "เหลิม" ยันมีกลุ่มทุนลงขัน 6 พันล้านล้มรัฐบาลจริง ปชป.เต้นแหยง "ศิริโชค-กรณ์"คิวต่อไปหนีทหาร

พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม เปิดเผยว่า หลังจากนี้ไป องค์การพิทักษ์สยามจะมีการแถลงข่าวทุกวันในเวลา 10.00 น. โดยยืนยันว่า แนวคิดขององค์การพิทักษ์สยาม ต้องการปฏิบัติการเมืองไทยด้วยอธิปไตยของปวงชนชาวไทย และให้ยุติขบวนการทางการเมือง พรรคการเมือง และนักการเมือง ตลอดจนข้าราชการที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน เป็นรัฐบาลหุ่นเชิด และการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งไม่ใช่การแช่แข็งประเทศ ระบบการเมืองเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขบวนการทางกฎหมาย ความสัมพันธ์ และสัตยาบรรณระหว่างประเทศที่รัฐบาลได้ทำไว้ก็ยังเหมือนเดิม และหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแล้ว เมื่อมีช่องว่างของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้มีช่องว่างทางการปกครอง ต้องมีคนเข้ามาจัดการบริหารประเทศ แต่ไม่ใช่รัฐบาลพระราชทาน

ทั้งนี้ การชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. จะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นชุมนุมตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญมาตรา 63 เป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ สันติวิธี เป็นการชุมนุมเพื่อบ่งบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงพรรคการเมืองไทย ควบคุมนักการเมือง ระเบียบวินัยที่จะป้องกันการคอร์รัปชั่น โดยต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างฉับพลัน เพื่อให้รัฐบาลยุติการบริหารงานราชการแผ่นดิน ซึ่งไม่ใช่การรัฐประหาร และยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ยืดเยื้อ แต่หากจะยืดเยื้อไปวันที่ 25 พ.ย. หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุม แต่จะไม่เคลื่อนที่ ไม่มีนโยบายหรือแผนในการยึดสถานที่ราชการใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะนี้ มีประชาชนกลุ่มรักชาติรักแผ่นดิน ลงชื่อเพื่อจะเข้าร่วมการชุมนุมแล้วกว่า 5 แสนคน รวมถึงยังมีกลุ่มอื่นที่ยังไม่ได้ลงชื่อไว้ ส่วนที่มีความกังวลว่าจะมีมือที่สาม มาก่อกวนการชุมนุมนั้น หากมีคนมาเป็นล้านคน คงไม่มีใครกล้าทำอะไร เรื่องนี้ถือเป็นการตระหนักของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ต้องการความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย หรือบาดเจ็บ โดยจะมีการจัดตั้งกลุ่มผู้ที่ชำนาญทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ผู้ที่ร่วมชุมนุม และหากไม่ยืดเยื้อ ผู้ที่จะเป็นมือที่สามจะทำงานได้ยากลำบาก

พล.อ.ท.วัชระ กล่าวว่า ได้มีการนำหนังสือของพล.อ.บุญเลิศ ส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการแจ้งวัตถุประสงค์ของการชุมนุม ตลอดจนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ขณะเดียวกันพล.อ.บุญเลิศ ได้ประสานไปยังกองปราบปราม เพื่อขอเลื่อนการเข้ามอบตัวในคดียุยงให้ประชาชนกระทำการเป็นกบฏ กรณีออกแสดงความเห็นอันเป็นการล้มรัฐบาลจากวันที่ 15 พ.ย. เป็นวันที่ 20 ธ.ค. เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพล.อ.บุญเลิศ จะสามารถอยู่ร่วมชุมนุม และไม่มีข้อหาอื่นเพิ่มเติม

**“ปู”ย้ำจะใช้อำนาจกับกลุ่มต่อต้าน

เวลา 12.30 น.ในเวลาท้องถิ่น ที่สหราชอาณาจักร ณ ห้องบอลรูม โรงแรม The Grosvenor House น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ 2013: The Year of Opportunity in Thailand” ว่า ไทยและสหราชอาณาจักรต่างยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตยและเคารพต่อสิทธิมนุษยชน พร้อมยืนยันว่าจะสร้างความมั่นคงทางการเมืองและพื้นฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป โดยยึดหลักนิติรัฐและธรรมาภิบาล ประชาชนใช้อำนาจผ่านการเลือกตั้ง และจากการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลจะดำเนินการกับอำนาจที่ต่อต้านประชาธิปไตยที่ยังมีอยู่ในประเทศไทย เพราะความมั่นคงทางการเมืองเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมการปรองดองบนพื้นฐานนิติรัฐ และการเจรจาระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อขัดแย้งทางการเมืองจะต้องแก้ปัญหาในรัฐสภา ไม่ใช่การประท้วงบนถนนและมีความรุนแรง

** "ปลอด"ปรี๊ดไล่เข้าป่าไปตั้งประเทศใหม่

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองเราขณะนี้ดีมาก ผู้นำประเทศต่างๆ มาเยือนไทย แต่มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนล้าหลังสมัยยุคหินได้รวมตัวกันและป่าวประกาศจะแช่แข็งประเทศไทย ทำตัวต่อต้านประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่คนอื่นมีแต่สนับสนุนประชาธิปไตย ไม่น่าเชื่อว่ามีคนกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีสติสัมปชัญญะบังอาจตั้งกลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยขึ้นมา และเที่ยวป่าวร้องชวนผู้คนให้ออกมาต่อต้านประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ผมอยากฝากเตือนคนเหล่านั้นว่าคุณอยากจะดังหรืออย่างไร หรือถ้าคุณคิดอยากจะดังอย่างนี้จริงๆ คุณต้องเข้าป่าและหาเหวสักแห่ง แล้วก็ประกาศประเทศของท่านเอง แล้วก็ปิด จะอยู่แบบลิง แบบค่าง แบบมด แบบปลวก ก็ว่าไปเลย แต่กรุณาอย่ามายุ่งกับประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร ผมว่าเรื่องนี้น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง เวลากินข้าวผมต้องปิดทีวี เพราะกลัวว่าเวลาเห็นหน้าแล้วจะกินข้าวไม่ลง” นายปลอดประสพกล่าว

**สภาผู้แทนต่อบันไดเตรียมหนี

ที่อาคารรัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง มาตราการรักษาความปลอดภัยภายในอาคารรัฐสภา หลังมีการประเมินว่ากลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หรือ ม็อบ "เสธ.อ้าย" ที่นัดชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ อาจจะบุกเข้ามาภายในอาคารรัฐสภาในระหว่างการประชุมรัฐสภาหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ได้มีการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยในวันจันทร์ที่ 19 พ.ย.นี้ จะเริ่มกวดขันคนและอาวุธ อีกทั้งได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยภายในอาคารรัฐสภาจำนวน 300 นาย และตั้งจุดรักษาความปอดภัยอีก 5 จุด ประกอบด้วย ลานพระบรมรูปทรงม้า สวนสัตว์เขาดิน และบริเวณรอบๆ รัฐสภาอีก 3 จุด

นอกจากนี้ ยังเตรียมบันไดสูง 3 เมตร ที่ด้านหลังและประตูทางออกฉุกเฉินด้านข้าง ซึ่งต้องประสานกับสำนักพระราชวัง หากมีม็อบบุกเข้ามาแล้วต้องอพยพคน ขณะเดียวกันจะต้องมีการเตรียมรถให้พร้อมด้วย อีกทั้งประสานให้รื้อเต้นท์บริเวณด้านหน้าแล้ว

**"ประยุทธ์"ฮึ่มห้ามทหารขัดคำสั่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีหากมีทหารคนใดฝ่าฝืนคำสั่งไปร่วมชุมนุมว่า จะต้องไปสอบสวนว่าไปเพราะอะไร ใครสั่ง สั่งเพราะอะไร ไปติดตามสถานการณ์หรือร่วมชุมนุมโดยส่วนตัว แต่ถ้าจะยกขบวนกันไป โดยผู้บังคับบัญชาสั่งการนั้น ไปไม่ได้อยู่แล้ว และที่มีข่าวว่า เอาทหารค่ายจักรพงษ์ไปเตรียมการล้อมรอบกรุงเทพฯ ไอ้นี่มันบ้า สมองมันเสื่อม การที่ทหารจะออกไปไหนไม่สามารถไปได้เป็นหมู่ หมวด กองร้อยอยู่แล้ว การเอาทหารออกนอกหน่วยต้องได้รับคำสั่งการเคลื่อนย้ายกำลัง ซึ่งอำนาจอยู่ที่ รมว.กลาโหม ผบ.สส. และผบ.ทบ. อีกทั้งอาวุธทุกชนิดอยู่ในคลังอาวุธ ทหารไม่มีอาวุธติดตัว ถ้าถืออาวุธออกมาข้างนอก ก็โดนจับเหมือนกัน ทหารจะเบิกอาวุธได้ต่อเมื่อออกมาฝึกหรือทำงานในสนาม การจะบอกว่าทหารเอาอาวุธมาไล่ยิงใครข้างนอก คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าออกมาโดยไม่มีใครสั่งถือว่าทำนอกกฎหมาย

เมื่อถามว่า หากทหารจะขอใช้สิทธิ์ส่วนตัวในเวลานอกราชการไปร่วมชุมนุมได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเขาขี่มอเตอร์ไซต์ไป ตนจะไปห้ามอะไรได้ แต่ถ้ามีเรื่องมา ก็เดือดร้อน ทำไมจะต้องไป ไปให้มีเรื่องเสี่ยงทำไม ถ้าคิดว่า มันใจจะขาดก็มาบอกผู้บังคับบัญชา ถามว่า ใจจะขาดไหม ถ้าไม่ได้ไป ถ้าทหารไป คงจะเป็นหน่วยข่าว เจ้าหน้าที่ไปติดตามสถานการณ์ ต้องดูว่า ที่เขาไปนั้น ไปทำอะไร และที่เขาไป เพราะเมียบังคับไปหรือไม่ เพราะทหารส่วนใหญ่ เมื่อภรรยาสั่งให้ไปก็ไป ส่วนใหญ่ไปกับภรรยาทั้งนั้น เพราะอยากไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น คนไทยแปลก มีอะไรมุงกันอยู่ชอบไปดู พอมีปัญหาเจ็บก็เดือดร้อนอีก ดังนั้น ถ้าเสี่ยงก็อย่าไป แต่ถ้าคิดว่า สนุกและอยากไปก็เชิญ แต่ในส่วนทหารตนห้ามไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม คิดว่า คงมีพวกแอบๆ ไป อยากรู้อยากเห็น แต่อย่าใช้คำว่า สั่งทหารไปร่วมชุมนุม เพราะตนไม่ได้สั่ง ถ้าจะพูดต้องบอกว่า จ.ส.อ. คนใดคนหนึ่งไป แล้วถ้ามีต้องสอบสวนว่า ไปได้อย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 5 และรุ่น 10 ออกมาต่อต้านการเคลื่อนไหวของเสธ.อ้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครที่ยังอยู่ในหน้าที่ราชการต้องเป็นอย่างที่ตนเป็น แต่ถ้าเกษียณไปแล้ว อยากจะแสดงความเห็นอะไรก็เป็นเรื่องของท่าน

**เฉลิมไม่ใช้กม.พิเศษคุมม็อบ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจะใช้วิธีการละมุนละม่อม ไม่ลงมาเกี่ยวข้องในการควบคุมม็อบ แต่มอบให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบ ทางรัฐบาลจะบูรณาการกฎหมายให้ ผบ.ตร. สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และเชิญองค์กรอิสระ สหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มาเป็นสักขีพยานว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ยึดหลักสากล ทั้งนี้ ยังห่วงเรื่องมือที่สาม เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นมา ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนใช้ดุลยพินิจให้ดีว่ายังที่จะทำตามที่องค์การพิทักษ์สยามคิดหรือไม่

**สันติบาลรายงานกลุ่มทุน 85 ราย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีกลุ่มทุน 85 รายที่สนับสนุนการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามนั้น ทางสันติบาลรายงานว่า บางกลุ่มมีจำนวนมาก บางกลุ่มมีจำนวนน้อย แต่ตั้งตนเองเป็นกลุ่ม ส่วนนายทุนตนได้ประสานไปแล้ว 4 กลุ่ม ซึ่งเขาก็ได้อธิบายความให้ฟังว่าใครมาติดต่อเขาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ให้ ยังมีบ่อนเล็กๆ น้อยๆ อย่างบ่อนบางนา เตาปูน ส่วนแหล่งยาเสพติดยังไม่ชัด

**ผบ.ตร.ไม่ห่วงม็อบชนม็อบ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมว่า ตนมองว่าจำเป็นที่ต้องนำพ.ร.บ.ความมั่นคงฯมาใช้ เพราะเราไม่มีกฎหมายอื่น

เมื่อถามถึงกรณี ที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลการชุมนุมถึง 50,000 คน ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นการเตรียมกำลังไว้ตามลำดับขั้น ไม่ได้ใช้กำลัง 50,000 นาย ในคราวเดียว ใช้กำลังตำรวจนครบาลเป็นหลัก หากไม่พอจะระดมกำลังจากกองบัญชาการ (บช.) ใกล้ๆเช่น บช.ภ. 1 2 7 และตำรวจตระเวนชายแดนมาเสริม โดยการชุมนุมไม่น่าห่วง ห่วงการมีอาวุธ หรือการแฝงมาของมือที่ 3 ส่วนการดูแลการชุมนุมครั้งนี้ มีแผนกรกฎ 52 เป็นแผนหลักแผนใหญ่ แต่ตำรวจจะออกแผนพิเศษเป็นการเฉพาะ

**ปูดอีก6พันล้านล้มรัฐบาล

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ยังยอมรับถึงกระแสข่าวที่มีการระบุว่า กลุ่มทุนกลุ่มหนึ่ง มีการลงขันด้วยเงินจำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อล้มล้างรัฐบาล สอดคล้องกับกระแสข่าวของสันติบาล แต่ยังไม่ขอเปิดเผย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีการระดมทุนของกลุ่มที่เคยล้มรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 รวมทั้งกลุ่มทุนใหม่ที่เสียประโยชน์ ได้ทราบข้อมูลจากประชาชนในภาคใต้ว่ามีการส่งคนไปชักชวนประชาชน 11จังหวัดภาคใต้ให้มาร่วมชุมนุม โดยให้ค่าตอบแทน 1500บาทต่อวัน ตั้งเป้าจังหวัดละ 7000-10000 คน และยังทราบอีกว่าในกทม.และปริมณฑล ก็มีลักษณะเกณฑ์คนคล้ายๆ กัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าไปสอบสวน

**มท.คาดโทษผู้ว่า-นอภ.ปล่อยม็อบ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยต้องจับตามองเป็นพิเศษ และได้สั่งกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทุกพื้นที่ เพราะประชาชนที่จะเข้าชุมนุมคงไม่อาจห้ามได้ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองก็ควรทราบข้อมูลไว้บ้าง ว่ามีการโยงใยอะไรหรือไม่ ในวันนี้ต้องจับตาดูทั้ง 76 จังหวัดรวมถึง กทม. เพราะถ้าคนมาในลักษณะที่รู้กัน ก็ต้องรายงานมา ถ้าไม่ทำถือว่าบกพร่อง ส่วนเรื่องเสื้อแดงจะเตรียมชุมนุมปกป้องสถานที่ราชการ ก็เป็นเรื่องของเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยไม่สามารถชี้นำได้

**ผู้ว่าฯนครปฐมรับลูกป้องรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวกับมวลชนในพื้นที่อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล โดยขอให้ชาวนครปฐม เปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานเพื่อประเทศชาติก่อน ขอให้อยู่ในพื้นที่ อย่าไปร่วมชุมนุม เพราะยังไม่ถึงเวลา ต้องให้เวลารัฐบาลทำงานให้ครบเทอม อย่าเข้าไปเพิ่มปัญหาให้กับรัฐบาล โดยขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นได้ไตร่ตรองถึงผลดีผลเสีย เพราะหากไปร่วมชุมนุมจะเกิดผลกระทบมาก

**เสื้อแดงออกงานต้านเสธ.อ้าย

นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความชมรมผู้รักความเป็นธรรม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขอให้ตรวจสอบ กรณีกระทำการอันเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จึงขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้พล.อ.บุญเลิศยุติการกระทำดังกล่าว

ส่วนที่รัฐสภา นายธนิก มาสีพิทักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะเชิญพล.อ.บุญเลิศ มาชี้แจงต่อกมธ.ในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย

ที่ห้องประชุม ร.ร.ต้นคูน กลุ่มสมาพันธ์หมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งประเทศไทย นายอรรถชัย อนันตเมฆ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับเสธ.อ้าย เพราะถือว่าเป็นกบฏ ส่วนการชุมนุมของคนเสื้อแดงในนามสมาพันธ์หมู่บ้านคนเสื้อแดง คิดว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน โดยจะมีการหารือระหว่างสมาชิกของหมู่บ้านทั้ง 16,600 แห่งก่อน ในสัปดาห์หน้า แต่จะไม่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มของนายขวัญชัย ไพรพนา

นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ กล่าวว่า ทราบว่ามวลชนส่วนใหญ่จะมาจากภาคใต้ โดยมีบางพรรคจัดเตรียมไว้ให้ ในส่วนของคนเสื้อแดง ตนจะเรียกประชุมแกนนำเสื้อแดงภาคอีสาน20จังหวัดเตรียมความพร้อม ทั้งนี้ ในวันที่ 23พ.ย. คนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมแสดงพลังที่ ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี และจะไม่เคลื่อนพลมายังกทม.แน่นอน เพราะเราไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้า

**ท้า"อาโอ๋"สอบ ส.ส.ทั้งสภา

อีกด้านกรณีคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมชุดตรวจสอบการใช้เอกสารเข้ารับราชการของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับหนังสือร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบการเข้ารับการตรวจเลือกทหารของนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดว่าทั้งสองรายนี้ยังไม่ได้เข้ารับการตรวจลือกทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร)

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นการขัดขวางการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน โดยนำเรื่องการคัดเลือกทหารมาเป็นเครื่องมือ ตั้งแต่การกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ว่าใช้เอกสารเท็จในการสมัครรับราชการทหาร จนล่าสุดมีความพยายามตรวจสอบว่านายกรณ์ และตน ไม่ได้รับการการตรวจเลือกทหาร เรื่องนี้ขอยืนยันว่า ตนได้ทำการคัดเลือกทหารอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ที่ จ.สงขลา แต่เป็นเขตปทุมวัน เพราะเกิดที่กรุงเทพมหานคร โดยได้เข้าตรวจเลือกเกณฑ์ทหารแล้ว และมีใบสด. 43 ยืนยันชัดเจน

"การดำเนินการดังกล่าว รัฐบาลมีความพยายามดิสเครดิส ส.ส.ฝ่ายค้าน เพื่อไม่ให้ทำการอภิปรายอย่างเต็มที่ แต่หากจะทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง กระทรวงกลาโหมก็ควรมีการตรวจสอบ ส.ส. ทั้งสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เลือกปฏิบัติเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง"

**'ปชป.เปิดศึกดีเอสไอตั้งทีมจับผิด

อีกด้านที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ดำเนินการในหลายเรื่องโดยไม่ให้ความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหา โดยล่าสุดอ้างว่ามีการร้องเรียนขอเรียกตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับเงินบริจาคของพรรคทั้งหมดย้อนหลัง 6 ปี คือ 2550-55 ซึ่งทุกกรณียินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ โดยเอกสารทั้งหมดมีจำนวนมากถึง 1 ตู้คอนเทนเนอร์ จึงแจ้งขอขยายเวลาเป็นวันที่ 7 ธ.ค. แต่ดีเอสไอให้เวลาเพียง 10 วัน ให้ส่งเอกสารทั้งหมดภายในวันที่ 8 พ.ย.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นความพยายามที่จะใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้ามต่างๆ โดยเฉพาะ การตั้งคดีว่าผู้ให้บริจาคทำผิด มีการเรียกเอกสารจากพรรคแบบไม่สมเหตุสมผล

**วิปรัฐยอมซักฟอก 3 วัน 25-27 พ.ย.

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับวิปฝ่ายค้าน ร่วม 2 ชั่วโมง ว่า ในการประชุม ทางวิปฝ่ายค้าน ได้เสนอขอให้เพิ่มวันอภิปราย จากเดิมที่กำหนดให้อภิปรายวันที่ 25-26 พ.ย. และลงมติ วันที่ 27 พ.ย. เป็น อภิปรายวันที่ 25-27 พ.ย. โดยเริ่มเวลา 09.30 น. ถึงเวลาไม่เกินเที่ยงคืน และให้มีการลงมติในญัตติวันที่ 28 พ.ย. เวลา 09.00 น. โดยรวมเวลาที่ใช้ในการประชุมดังกล่าวทั้งสิ้น 42 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้านอภิปราย 30 ชั่วโมง และรัฐบาล จำนวน 12 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ 3 ชั่วโมง และรัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่วางใจ อีกคนละ 3 ชั่วโมง เบื้องต้นเวลาดังกล่าวยังไม่รวมเวลาของการประท้วง

ส่วนการอภิปรายโดยไม่ลงมติของวุฒิสภา ประเด็นนี้ วิปรัฐบาลได้หยิบยกมาหารือแล้ว แต่ทางวิปฝ่ายค้านมองว่าไม่อยากให้นำมาปนกับการอภิปรายของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่ ส.ว.จะมีการอภิปราย คือ หลังจากการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 28 พ.ย. ส่วนที่ ส.ว.เสนอขอให้เปิด วันที่ 23-24 พ.ย.นั้น ตนมองว่าคงเป็นไปได้ยาก เพราะรัฐบาลมีภารกิจที่ต้องดำเนินการ
กำลังโหลดความคิดเห็น