xs
xsm
sm
md
lg

กรณีอื้อฉาวอดีตผอ.CIA 'บานปลาย' ผบ.ทหารสูงสุดในอัฟกันติดร่างแห

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ – กรณีฉาวโฉ่ผู้อำนวยการซีไอเอ เดวิด เพเทรอัส ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อตอนเป็นผู้บังคับบัญชาหารทหารอเมริกันในอิรักและอัฟกานิสถาน ยื่นใบลาออกอย่างกะทันหันเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังถูกสอบสวนเรื่องความสัมพันธ์นอกสมรส กำลังบานปลายออกไปอีก โดยเจ้าหน้าที่หลายรายเปิดเผยในวันอังคาร(13) ว่า จากหลักฐานที่ค้นพบเพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่า พล.อ.จอห์น แอลเลน ผู้นำทหารสหรัฐฯและนาโต้ในอัฟกานิสถานปัจจุบัน อีกทั้งยังกำลังจะโยกย้ายไปเป็น ผบ.สูงสุดขององค์การนาโต้ ก็พัวพันเรื่องชู้สาวนี้ด้วยเช่นกัน
เพเทรอัสลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (9) หรือเพียง 3 วันหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งได้ครองทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 การอำลาตำแหน่งอย่างฉับพลันของอดีตนายพลสี่ดาวซึ่งผู้สังเกตการณ์ไม่น้อยเคยคาดการณ์ว่ามีอนาคตไกลอาจก้าวถึงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันในอนาคตได้ทีเดียว สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ทั้งทำเนียบขาวและพวกสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ทางรัฐสภามีกำหนดที่จะเปิดการสอบสวนของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันอังคาร(13)
สื่ออเมริกาขุดคุ้ยเจาะลึกว่า เพเทรอัสลาออก ภายหลังการสืบสวนของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ได้พบอีเมลจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า เขามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ พอลลา บรอดเวลล์ ผู้ร่วมเขียนหนังสือชีวประวัติของเขา โดยที่เขาและเธอต่างก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ทั้งนี้ในเบื้องต้นทีเดียว เอฟบีไอเพียงได้รับการร้องเรียนจากสาวสังคมซึ่งสนิทสนมกับพวกทหารคนหนึ่งเรื่องที่ได้รับอีเมลข่มขู่ ทว่าเมื่อสืบสาวไปเอฟบีไอก็พบว่าผู้ส่งอีเมลดังกล่าวคือ บรอดเวลล์ ซึ่งตกอยู่ในความหวั่นเกรงว่า สาวสังคมผู้มีนามว่า จิลล์ เคลลี วัย 37 ปีผู้นี้ จะมาแย่งเพเทรอัสไปจากเธอ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กลาโหมผู้หนึ่งได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนอีกว่า พวกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่สืบสวนเรื่องนี้ ยังได้พบจดหมายติดต่อที่ส่วนใหญ่อยู่ในรูปอีเมล รวมแล้วมีความยาวประมาณ 20,000 – 30,000 หน้า ระหว่าง พล.อ.แอลเลน ผู้บัญชาการทหารสูงที่สุดของสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน ตลอดจนเป็นผู้บัญชาการกองกำลังนานาชาติขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ในอัฟกานิสถานด้วย กับ สาวสังคมเคลลี โดยที่อีเมลหลายฉบับมีข้อความ “ไม่เหมาะสม”
เพเทรอัสนั้นเข้าไปบริหารองค์การซีไอเอเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว หลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพทหารตั้งแต่เป็นผู้นำกองพลพลร่ม 101, กองทหารอเมริกันทั้งหมดในอิรัก, กองกำลังอเมริกันและนานาชาติในอัฟกานิสถาน แต่ภายหลังออกจากกองทัพแล้ว เขาได้เริ่มคบหากับ บรอดเวลล์ อดีตนายทหารที่อายุอ่อนกว่า 20 ปี ซึ่งเคยร่วมเดินทางไปในอัฟกานิสถานระหว่างเก็บข้อมูลเพื่อเขียนหนังสือชีวประวัติของเขา
พันเอกสตีฟ บอยแลน อดีตโฆษกและเป็นผู้ใกล้ชิดกับเพเทรอัส เผยว่า เพเทรอัสเสียใจมากกับการตัดสินใจอย่างผิดพลาดและขาดวินัยของตนเอง และได้เตือนภรรยาที่อยู่กินกันมา 38 ปีก่อนที่พฤติกรรมการนอกใจของตนจะกลายเป็นข่าวครึกโครม
บอยแลนสำทับว่า เพเทรอัสยุติสัมพันธ์กับบรอดเวลล์ตั้งแต่เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว
รายงานของสื่อหลายแหล่งระบุตรงกันว่า หลังจากเอฟบีไอตรวจพบอีเมลระบุสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างบรอดเวลล์กับเพเทรอัส ทางเพเทรอัสได้ยอมรับเรื่องนี้ และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้แยกกันสอบปากคำคนทั้งคู่ตอนช่วงปลายเดือนที่แล้วและต้นเดือนนี้ แต่แม้มีรายงานว่า พบบรอดเวลล์มีเอกสารลับจำนวนหนึ่งในครอบครอง ทว่า ไม่มีการตั้งข้อหาคดีอาญากับคนทั้งคู่แต่อย่างใด
รายงานระบุว่า บรอดเวลล์อาจเปิดเผยข้อมูลลับด้วยการกล่าวอ้างในงานประชุมแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วว่า ซีไอเอควบคุมตัวสมาชิกกลุ่มกองโจรลิเบียและการกระทำดังกล่าวอาจเป็นชนวนการโจมตีสถานกงสุลอเมริกันในเบงกาซีเมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งทำให้เอกอัครราชทูตคริส สตีเวนส์ และอดีตเจ้าหน้าที่ซีลจากหน่วยนาวิกโยธิน 2 คนที่ทำงานให้ซีไอเอเสียชีวิต
ทว่า ซีไอเอปฏิเสธแข็งขันว่า ไม่ได้คุมขังนักโทษในเบงกาซีแต่อย่างใด
รัฐสภาอเมริกันนั้นกำลังไต่สวนกรณีการโจมตีที่เบงกาซี และข้อร้องเรียนว่า เหยื่อ 4 รายจากการโจมตีดังกล่าวไม่ได้รับการคุ้มครองเพียงพอ เนื่องจากความสับสนระหว่างผู้นำซีไอเอกับกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับความรับผิดชอบด้านความปลอดภัย
ล่าสุดคองเกรสยังต้องการรู้ว่า เหตุใดเอฟบีไอและกระทรวงยุติธรรมจึงไม่แจ้งให้รัฐสภาหรือทำเนียบขาวล่วงรู้เกี่ยวกับข่าวคาวของเพเทรอัสจนกระทั่งปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอดีตนายใหญ่ซีไอเอลาออกกะทันหันและแถลงความรับผิดชอบต่อสาธารณชนแล้ว
ทางด้าน เลียน เพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวในวันอังคารระหว่างอยู่บนเครื่องบินเดินทางมุ่งสู่ออสเตรเลีย ว่าการที่เพเทรอัสลาออก นับเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว
ส่วนเรื่องของ พล.อ.แอลเลน ซึ่งก็เป็นผู้ที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วเช่นกัน เพเนตตาบอกว่า ได้ส่งเรื่องให้จเรใหญ่ของกระทรวงกลาโหมสอบสวนแล้ว รวมทั้งยังขอให้วุฒิสภาสหรัฐฯชะลอการอนุมัติแต่งตั้งแอลเลนขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองกองกำลังนาโต้ออกไปก่อน
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ (12) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เอฟบีไอราว 10 คนยังเข้าค้นบ้านพักของบรอดเวลล์ในนอร์ทแคโรไลนา และขนคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง กล่อง ถุง และภาพจำนวนมากกลับไปตรวจสอบ ทั้งนี้ ไม่มีผู้พบเห็นบรอดเวลล์อยู่ที่บ้านนับตั้งแต่ที่เพเทรอัสลาออก
กรณีฉาวโฉ่เรื่องนี้ดูยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก โดยมีรายงานในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลฉบับวันอังคารระบุว่า เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่เคลลีไปปรึกษาและนำเรื่องไปเผยแพร่ในหมู่สมาชิกรัฐสภาสังกัดรีพับลิกันนั้น ถูกถอดออกจากการสอบสวนคดีนี้ หลังจากพบว่าเขา "หมกมุ่น” กับคดีเกินไป และยังเคยส่งภาพถ่ายไม่สวมเสื้อไปให้เคลลีอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น