ASTVผู้จัดการรายวัน-“ชัชชาติ”เรียกกรมการบินพลเรือน ถกปัญหาพีซีแอร์ ชี้ทำผิดเงื่อนไขยกเลิกใบอนุญาตทันที คาดโทษไม่ต่ออายุให้หลังครบ 31 ต.ค.นี้ พร้อมยอมรับเป็นเรื่องใหญ่เหตุกระทบเชื่อมั่น สั่งหามาตรการเพิ่มเพื่อดูแลผู้โดยสาร ขณะที่ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปรามเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสีย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่สายการบินพีซีแอร์มีปัญหาและทำให้ผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเกี่ยวกับสวัสดิภาพของผู้โดยสาร ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวผิดเงื่อนไขหรือไม่ พร้อมทั้งดูว่านอกจากหนี้ค่าน้ำมันแล้วยังมีการติดค้าหนี้ในส่วนอื่นๆ กับสนามบินอีกหรือไม่ เช่น ค่าขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing &Parking) ค่าครัวการบิน เป็นต้น ซึ่งในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ได้ให้นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดี บพ.มาชี้แจงรายละเอียดและหารือถึงปัญหาของสายการบินพีซีแอร์
ทั้งนี้ พีซีแอร์ได้รับอนุญาตจาก บพ.ให้ทำการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เป็นเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-30 ตุลาคม 2555 หากทำผิดเงื่อนไขสามารถยกเลิกใบอนุญาตได้ และวันที่ 31 ตุลาคมซึ่งใบอนุญาตจะหมดอายุ ก็จะต้องประเมินว่าจะต่ออายุให้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้โดยสาร ซึ่งล่าสุดทางบพ.รายงานว่า ยังไม่ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ พีบีแอร์แต่อย่างใด โดยพีบีแอร์จะนำผู้โดยสารที่ตกค้างชุดสุดท้าย ประมาณ 170 คน กลับถึงประเทศไทยในคืนนี้ (18 ต.ค.) เวลา 22.00 น.
นายชัชชาติยืนยันว่า หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตให้สายการบินนั้น มีกระบวนการและขั้นตอนที่เข้มงวดอยู่แล้ว เช่น ต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ต้องเสนอแผนธุรกิจ ซึ่งในส่วนของพีบีแอร์ถือว่าได้ผ่านกระบวนการพิจารณามาแล้วระดับหนึ่งจึงได้รับใบอนุญาตการบินแบบเช่าเหมาลำ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นต้องพิจารณาใน 2 ปัจจัยประกอบกัน คือ เรื่องความเชื่อมั่นของผู้โดยสารที่ต้องได้รับการดูแล และในขณะเดียวกันต้องพิจารณาเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศด้วย ต้องหาจุดที่เหมาะสม
“ปัญหานี้ไม่ได้พบบ่อยช่วง 7-8 เดือนที่ผมเป็นรมช.คมนาคมไม่เคยเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือการดูแลผู้โดยสาร เพื่อความไม่ประมาทจากนี้ไป จำเป็นต้องออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในกรณีดังกล่าวให้มากกว่ากว่านี้ เช่น การประสานกับสถานทูตและบริษัทการบินไทย เพื่อเข้าไปดูแล ส่วนกรณีที่ผู้บริหารสายการบินพีซีแอร์ ออกมาระบุว่าทางสายการบินได้ทำการจ่ายค่าน้ำมันให้สนามบินไปแล้ว โดยไม่มีการติดค้างเป็น เวลา 3 เดือนตามที่เป็นข่าวนั้น ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งว่าจริงเท็จจอย่างไร ” นายชัชชาติ กล่าว
นายวรเดช กล่าวว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม สายการบินพีซีแอร์ ได้นำผู้โดยสารคนไทยที่ติดค้างในเกาหลีใต้ประมาณ 220 คน กลับมาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว ยังเหลืออีกประมาณ 170-180 คน โดยพีซีแอร์ ได้บินกลับไปรับในเวลา 07.00น.ของวันเดียวกัน ถึงเกาหลีใต้เวลาประมาณ 14.00-15.00 น. หลังจากนั้นจะบินออกจากเกาหลีใต้เวลาประมาณ18.00 น. มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลาประมาณ 22.00 น.โดยเครื่องบินของพีซีแอร์ เป็นเครื่องแอบัส เอ 320 ขนาด 228 ที่นั่ง เป็นชั้นประหยัดทั้งหมด
ส่วนการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดและเรียกร้องค่าเสียหายจากพีซีแอร์ นั้น เป็นสิทธิ์และหน้าที่ของผู้โดยสารแต่ละคนหรือบริษัทนำเที่ยวจะดำเนินการเอง ส่วน บพ.นั้น เบื้องต้นได้ทำหนังสือตักเตือนไปยังสายการบินแล้ว หากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จะยกเลิกใบอนุญาตการบินทันที
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ บพ.จะมีการตรวจสอบข้อมูลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นของสายการบินพีซี แอร์ ทั้งในและต่างประเทศ รวบถึงการขอข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา หากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของทางสายการบินอย่างชัดเจน ก็สามารถยกเลิกใบอนุญาตได้เช่นเดียวกัน
ผู้เสียหายร้องตำรวจกองปรามปราบ
เมื่อวานนี้ (18 ต.ค. )เวลา 09.30 น. ผู้ที่ซื้อบริการท่องเที่ยวเกาหลีใต้และจะโดยสารด้วยสายการบินพีซีแอร์ จำนวน 32 คนที่ยังไม่ได้เดินทางไป พร้อมด้วยบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ที่ใช้บริการของสายการบินพีซีแอร์ซึ่งมีลูกค้าเป็นผู้เสียหายที่เดินทางไปแล้วติดค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติอินชอน จำนวน 8 บริษัท เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจช่วยเป็นคนกลางประสานงานกับทางสายการบินในการชดใช้ค่าเสียหาย หลังเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 400 คนตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีเป็นเวลานานกว่า 25 ชั่วโมง และมีบางส่วน ประมาณ 200 คนสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้แล้วโดยมาถึงสนามบินดอนเมืองเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา
หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล กล่าวว่า ซื้อทัวร์ท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์แห่งหนึ่งซึ่งจัดโปรแกรมท่องเที่ยวเกาหลีใต้เป็นเวลา 5 วันนับรวมวันเดินทาง ในราคา 21,900 บาท โดยกำหนดเดินทางในคืนวันที่ 16 ตุลาคม ที่สนามบินดอนเมือง แต่สายการบินพีซีแอร์เกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว และมาทราบภายหลังว่าสายการบินนี้มีเครื่องบินเพียงลำเดียว เมื่อไม่สามารถเดินทางไปได้จึงต้องเดินทางกลับออกจากสนามบิน หากใครมาจากต่างจังหวัด บริษัททัวร์ก็ช่วยหาที่พักให้ จากนั้นก็ปรึกษาหารือกันก่อนรวมตัวมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ บก.ป. เบื้องต้นทราบว่าตัวแทนบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ และตัวแทนจากสายการบินพีซีแอร์จะมาร่วมปรึกษาแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผกก.1 บก.ป. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. สอบสวนรายละเอียดเบื้องต้นจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังช่วยประสานงานกับบริษัทสายการบินพีซีแอร์ให้ส่งตัวแทนมาร่วมกันเปิดโต๊ะเจรจาหาแก้ไขหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรอการหารืออย่างเป็นทางการนั้น บริษัททัวร์ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวไทย 32 คนที่ยังไม่ได้เดินทางไปเกาหลีใต้ได้แจ้งให้ลูกค้าทั้งหมดทราบว่าหากใครไม่ต้องการเดินทางไปแล้วก็จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่หากผู้ใดยังต้องการท่องเที่ยวตามที่ซื้อบริการไว้ก็จะพยายามหาสายการบินอื่นเพื่อให้เดินทางไปได้แต่โปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากต้องการเดินทางด้วยสายการบินพีซีแอร์ต้องเลื่อนการเดินทางออกไปเป็นหลังวันที่ 3 พฤศจิกายนทำให้มีลูกค้าบางส่วนแสดงความไม่พอใจโดยให้เหตุผลว่า พวกเขาซื้อบริการและชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เหตุสายการบินจึงไปให้บริการลูกค้าที่มาทีหลังพวกเขาก่อน อย่างไรก็ตามในการพูดคุยครั้งนี้ได้มีลูกค้าที่ซื้อบริการทัวร์ท่องเที่ยว 9 ที่นั่งได้แจ้งยกเลิกบริการและขอรับเงินคืนแล้ว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่สายการบินพีซีแอร์มีปัญหาและทำให้ผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเกี่ยวกับสวัสดิภาพของผู้โดยสาร ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวผิดเงื่อนไขหรือไม่ พร้อมทั้งดูว่านอกจากหนี้ค่าน้ำมันแล้วยังมีการติดค้าหนี้ในส่วนอื่นๆ กับสนามบินอีกหรือไม่ เช่น ค่าขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing &Parking) ค่าครัวการบิน เป็นต้น ซึ่งในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ได้ให้นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดี บพ.มาชี้แจงรายละเอียดและหารือถึงปัญหาของสายการบินพีซีแอร์
ทั้งนี้ พีซีแอร์ได้รับอนุญาตจาก บพ.ให้ทำการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เป็นเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-30 ตุลาคม 2555 หากทำผิดเงื่อนไขสามารถยกเลิกใบอนุญาตได้ และวันที่ 31 ตุลาคมซึ่งใบอนุญาตจะหมดอายุ ก็จะต้องประเมินว่าจะต่ออายุให้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้โดยสาร ซึ่งล่าสุดทางบพ.รายงานว่า ยังไม่ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ พีบีแอร์แต่อย่างใด โดยพีบีแอร์จะนำผู้โดยสารที่ตกค้างชุดสุดท้าย ประมาณ 170 คน กลับถึงประเทศไทยในคืนนี้ (18 ต.ค.) เวลา 22.00 น.
นายชัชชาติยืนยันว่า หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตให้สายการบินนั้น มีกระบวนการและขั้นตอนที่เข้มงวดอยู่แล้ว เช่น ต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ต้องเสนอแผนธุรกิจ ซึ่งในส่วนของพีบีแอร์ถือว่าได้ผ่านกระบวนการพิจารณามาแล้วระดับหนึ่งจึงได้รับใบอนุญาตการบินแบบเช่าเหมาลำ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นต้องพิจารณาใน 2 ปัจจัยประกอบกัน คือ เรื่องความเชื่อมั่นของผู้โดยสารที่ต้องได้รับการดูแล และในขณะเดียวกันต้องพิจารณาเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศด้วย ต้องหาจุดที่เหมาะสม
“ปัญหานี้ไม่ได้พบบ่อยช่วง 7-8 เดือนที่ผมเป็นรมช.คมนาคมไม่เคยเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือการดูแลผู้โดยสาร เพื่อความไม่ประมาทจากนี้ไป จำเป็นต้องออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในกรณีดังกล่าวให้มากกว่ากว่านี้ เช่น การประสานกับสถานทูตและบริษัทการบินไทย เพื่อเข้าไปดูแล ส่วนกรณีที่ผู้บริหารสายการบินพีซีแอร์ ออกมาระบุว่าทางสายการบินได้ทำการจ่ายค่าน้ำมันให้สนามบินไปแล้ว โดยไม่มีการติดค้างเป็น เวลา 3 เดือนตามที่เป็นข่าวนั้น ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งว่าจริงเท็จจอย่างไร ” นายชัชชาติ กล่าว
นายวรเดช กล่าวว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม สายการบินพีซีแอร์ ได้นำผู้โดยสารคนไทยที่ติดค้างในเกาหลีใต้ประมาณ 220 คน กลับมาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว ยังเหลืออีกประมาณ 170-180 คน โดยพีซีแอร์ ได้บินกลับไปรับในเวลา 07.00น.ของวันเดียวกัน ถึงเกาหลีใต้เวลาประมาณ 14.00-15.00 น. หลังจากนั้นจะบินออกจากเกาหลีใต้เวลาประมาณ18.00 น. มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลาประมาณ 22.00 น.โดยเครื่องบินของพีซีแอร์ เป็นเครื่องแอบัส เอ 320 ขนาด 228 ที่นั่ง เป็นชั้นประหยัดทั้งหมด
ส่วนการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดและเรียกร้องค่าเสียหายจากพีซีแอร์ นั้น เป็นสิทธิ์และหน้าที่ของผู้โดยสารแต่ละคนหรือบริษัทนำเที่ยวจะดำเนินการเอง ส่วน บพ.นั้น เบื้องต้นได้ทำหนังสือตักเตือนไปยังสายการบินแล้ว หากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จะยกเลิกใบอนุญาตการบินทันที
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ บพ.จะมีการตรวจสอบข้อมูลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นของสายการบินพีซี แอร์ ทั้งในและต่างประเทศ รวบถึงการขอข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา หากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของทางสายการบินอย่างชัดเจน ก็สามารถยกเลิกใบอนุญาตได้เช่นเดียวกัน
ผู้เสียหายร้องตำรวจกองปรามปราบ
เมื่อวานนี้ (18 ต.ค. )เวลา 09.30 น. ผู้ที่ซื้อบริการท่องเที่ยวเกาหลีใต้และจะโดยสารด้วยสายการบินพีซีแอร์ จำนวน 32 คนที่ยังไม่ได้เดินทางไป พร้อมด้วยบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ที่ใช้บริการของสายการบินพีซีแอร์ซึ่งมีลูกค้าเป็นผู้เสียหายที่เดินทางไปแล้วติดค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติอินชอน จำนวน 8 บริษัท เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจช่วยเป็นคนกลางประสานงานกับทางสายการบินในการชดใช้ค่าเสียหาย หลังเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 400 คนตกค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีเป็นเวลานานกว่า 25 ชั่วโมง และมีบางส่วน ประมาณ 200 คนสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้แล้วโดยมาถึงสนามบินดอนเมืองเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา
หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล กล่าวว่า ซื้อทัวร์ท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์แห่งหนึ่งซึ่งจัดโปรแกรมท่องเที่ยวเกาหลีใต้เป็นเวลา 5 วันนับรวมวันเดินทาง ในราคา 21,900 บาท โดยกำหนดเดินทางในคืนวันที่ 16 ตุลาคม ที่สนามบินดอนเมือง แต่สายการบินพีซีแอร์เกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว และมาทราบภายหลังว่าสายการบินนี้มีเครื่องบินเพียงลำเดียว เมื่อไม่สามารถเดินทางไปได้จึงต้องเดินทางกลับออกจากสนามบิน หากใครมาจากต่างจังหวัด บริษัททัวร์ก็ช่วยหาที่พักให้ จากนั้นก็ปรึกษาหารือกันก่อนรวมตัวมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ บก.ป. เบื้องต้นทราบว่าตัวแทนบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ และตัวแทนจากสายการบินพีซีแอร์จะมาร่วมปรึกษาแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผกก.1 บก.ป. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. สอบสวนรายละเอียดเบื้องต้นจากกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งบริษัทนายหน้าจัดทัวร์ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังช่วยประสานงานกับบริษัทสายการบินพีซีแอร์ให้ส่งตัวแทนมาร่วมกันเปิดโต๊ะเจรจาหาแก้ไขหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรอการหารืออย่างเป็นทางการนั้น บริษัททัวร์ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวไทย 32 คนที่ยังไม่ได้เดินทางไปเกาหลีใต้ได้แจ้งให้ลูกค้าทั้งหมดทราบว่าหากใครไม่ต้องการเดินทางไปแล้วก็จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่หากผู้ใดยังต้องการท่องเที่ยวตามที่ซื้อบริการไว้ก็จะพยายามหาสายการบินอื่นเพื่อให้เดินทางไปได้แต่โปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากต้องการเดินทางด้วยสายการบินพีซีแอร์ต้องเลื่อนการเดินทางออกไปเป็นหลังวันที่ 3 พฤศจิกายนทำให้มีลูกค้าบางส่วนแสดงความไม่พอใจโดยให้เหตุผลว่า พวกเขาซื้อบริการและชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เหตุสายการบินจึงไปให้บริการลูกค้าที่มาทีหลังพวกเขาก่อน อย่างไรก็ตามในการพูดคุยครั้งนี้ได้มีลูกค้าที่ซื้อบริการทัวร์ท่องเที่ยว 9 ที่นั่งได้แจ้งยกเลิกบริการและขอรับเงินคืนแล้ว