xs
xsm
sm
md
lg

'ฮิลลารี'ยืดอกเป็นผู้รับผิดชอบเอง กรณีสถานกงสุลUSที่ลิเบียถูกโจมตี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ – ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืดอกรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเกี่ยวกับความบกพร่องในการเตรียมรับมือและการตอบโต้เหตุการณ์กลุ่มหัวรุนแรงโจมตีสถานกงสุลอเมริกันที่เมืองเบงกาซีของลิเบียเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้ตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศนั้นเสียชีวิต นักวิเคราะห์การเมืองชี้ความเคลื่อนไหวคราวนี้เป็นความพยายามมุ่งจำกัดความเสียหาย ภายหลังพรรครีพับลิกันเร่งรณรงค์ใช้ประเด็นนี้มาโจมตีการดำเนินนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะถึงการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม พวกผู้นำรีพับลิกันยังไม่ยอมรามือ โดยออกมาแสดงความชื่นชมคลินตัน พร้อมกับแขวะทำเนียบขาวว่ายังคงพยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ
“ดิฉันขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ดิฉันเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีบุคลากรมากกว่า 60,000 คนอยู่ทั่วโลก ในสถานที่ทำการทางการทูต 275 แห่ง” คลินตันให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อวันจันทร์ (15) พร้อมสำทับว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ย่อมไม่ได้ล่วงรู้ถึงการตัดสินใจพิเศษเฉพาะต่างๆ ซึ่งกระทำโดยบุคลากรมืออาชีพด้านความมั่นคงปลอดภัย
คลินตันออกมาพูดเช่นนี้ หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐบาลโอบามา เกี่ยวกับการจัดการกับกรณีการโจมตีในเบงกาซี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน พยายามใช้ประเด็นนี้บ่อนทำคลายความน่าเชื่อถือด้านนโยบายการต่างประเทศของโอบามา ซึ่งได้รับการยกย่องจากความสำเร็จในการล่าสังหารอุสซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำอัลกออิดะห์ และการถอนทหารออกจากอิรัก ตลอดจนการมีแผนการรูปธรรมทยอยถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
พรรครีพับลิกันมุ่งโจมตีรัฐบาลโอบามาว่าให้คำอธิบายที่สับสนกลับไปกลับมาเกี่ยวกับเหตุโจมตีดังกล่าว และระหว่างการให้สัมภาษณ์ทั้งซีเอ็นเอ็นและโทรทัศน์ข่าวฟอกซ์นิวส์ในวันจันทร์ คลินตันก็พยายามกล่าวแก้ว่า ความสับสนเป็นผลจาก “หมอกควันสงคราม” โดยในช่วงชั่วโมงแรกๆ หลังเกิดการโจมตีย่อมต้องมีข้อมูลเข้ามามากมายจากฝ่ายต่างๆ จนยุ่งเหยิง จึงเป็นธรรมดาที่อาจนำไปสู่ความผิดพลาดในการสื่อสารในช่วงต้นๆ
ทั้งนี้ แรกทีเดียวรัฐบาลสหรัฐฯระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการประท้วงหนังต่อต้านอิสลามของโปรดิวเซอร์มือสมัครเล่นอเมริกัน โดยไม่มีฝ่ายใดวางแผนล่วงหน้า แต่หลังจากนั้นกลับมีความเห็นกันว่า น่าจะเป็นการลงมืออย่างจงใจของพวกหัวรุนแรงอิสลามที่โยงใยกับอัลกออิดะห์
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สำทับว่า ต้องการให้การสาดโคลนทางการเมืองในประเด็นนี้ยุติลง เนื่องจากส่งผลร้ายต่อเจ้าหน้าที่อเมริกันนับพันนับหมื่นคน ซึ่งไม่เฉพาะแต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทหารอเมริกันทั่วโลกด้วย
การโจมตีในเบงกาซีและมาตรการเตรียมพร้อมรับมือของรัฐบาลโอบามา กลายเป็นประเด็นร้อนในการเลือกตั้ง และการออกมารับผิดชอบของคลินตันครั้งนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่คู่แคนดิเดทชิงทำเนียบขาวจะเปิดการโต้วาทีนัดที่ 2
รอมนีย์นั้นกล่าวหาว่า รัฐบาลโอบามาให้การอารักขานักการทูตอเมริกันไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม แถมยังพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโจมตีที่ทำให้คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำลิเบีย และเจ้าหน้าที่อีก 3 คนเสียชีวิต
การโจมตีดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการโต้วาทีระหว่างคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดย พอล ไรอัน จากรีพับลิกัน ย้ำว่าความไม่สงบในตะวันออกกลางฟ้องว่า โอบามาจัดการกับการปฏิวัติ “อาหรับสปริง” ผิดพลาด
ด้านรองประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า ทำเนียบขาวไม่ทราบเลยว่าเจ้าหน้าที่การทูตในลิเบียร้องขอการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ถึงแม้สองวันก่อนการโต้วาทีนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศได้ไปให้ปากคำต่อรัฐสภาโดยระบุว่า คำขอเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเบงกาซีได้ถูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธ
การให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ของคลินตัน ดูจะเป็นการยืนยันคำพูดของรองประธานาธิบดี โดยเธอบอกว่า โอบามาและไบเดนไม่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจด้านความปลอดภัยของสถานกงสุลในเบงกาซี
“การตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยดำเนินการโดยบุคลากรด้านความปลอดภัยระดับมืออาชีพ แต่เราจะตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่า เรากำลังทำสิ่งที่จำเป็นในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น” เธอกล่าวพร้อมกับย้ำว่าขณะที่เธอมีหน้าที่ต้องพยายามพิทักษ์คุ้มครองพวกเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานในสนาม แต่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็จะต้องไม่ทอดทิ้งถอนตัวจากสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างเช่นลิเบีย “เราไม่สามารถที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วย” เธอบอก “เราไม่สามารถที่จะล่าถอย”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการให้สัมภาษณ์ของคลินตัน คณะวุฒิสมาชิกรีพับลิกัน 3 คนนำโดย จอห์น แมกเคน ได้ออกคำแถลงร่วมกล่าวว่า การแสดงความรับผิดชอบของคลินตันเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทำเนียบขาวที่พยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบใดๆ ก็ตาม
แต่คำแถลงร่วมสำทับว่า หากโอบามารับทราบข้อมูลมาก่อนแล้วเรื่องอาจเกิดการโจมตีในเบงกาซี เขาก็จะต้องรับผิดชอบเต็มๆ ต่อความล้มเหลวในในการรักษาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นมา
“ความปลอดภัยของเหล่าชาวอเมริกันผู้ทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติของเราในทุกหนทุกแห่งในโลก เมื่อพูดกันถึงที่สุดแล้วย่อมต้องเป็นภาระหน้าที่ของ (ประธานาธิบดีในฐานะที่เป็น) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ความรับผิดชอบนั้นสิ้นสุดลงที่ตรงนั้น” คำแถลงร่วมระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น