วานนี้ (17ต.ค.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีความเห็นชอบร่วมกันให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ขึ้นมาพิจารณาอยู่ในลำดับที่ 8 ต่อจาก ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งกฎหมายทั้งสองฉบับ คณะกรรมาธิการวิสามัญ(กมธ.)ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญสอดคล้องกัน คือ จัดให้มีการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ก่อการร้าย การระงับการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ก่อการร้าย การกำหนดให้สถาบันการเงินระงับการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ก่อการร้าย
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า คาดว่าจะสามารถพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายได้ในการประชุมสภาฯสัปดาห์หน้าตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ และจะพิจารณากฎหมายทั้งสองฉบับไปในคราวเดียวกันเลยเนื่องจากมีสาระสำคัญและหลักการสอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าสภาฯจะสามารถให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว และส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณากลั่นกรองพร้อมกับให้ความเห็นชอบในขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศบังคับใช้ได้ทันภายในเดือนก.พ.2556 ตามที่องค์กรระหว่างประเทศได้กำหนดเอาไว้เพื่อประเทศไทยออกจากบัญชีดำด้านธุรกรรมทางการเงิน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า คาดว่าจะสามารถพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายได้ในการประชุมสภาฯสัปดาห์หน้าตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ และจะพิจารณากฎหมายทั้งสองฉบับไปในคราวเดียวกันเลยเนื่องจากมีสาระสำคัญและหลักการสอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าสภาฯจะสามารถให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว และส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณากลั่นกรองพร้อมกับให้ความเห็นชอบในขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศบังคับใช้ได้ทันภายในเดือนก.พ.2556 ตามที่องค์กรระหว่างประเทศได้กำหนดเอาไว้เพื่อประเทศไทยออกจากบัญชีดำด้านธุรกรรมทางการเงิน