ร่างม้าทรงประทับเทพหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย พลาดตกบันไดมีด 36 ขั้นดับ ขณะขึ้นไปเอาธงชัยบนยอดบันไดมีด 39 ขั้น ในพิธีถือศีลกินผักคืนแรกที่ระนอง ชาวระนองลือตั้งแต่พิธียกเสาจีก๋ง หรือเสาเทวดาได้เกิดลำไผ่แตกช่วงท่อนบน สร้างความตะลึงและตกใจแก่ประชาชนที่มาร่วมพิธี ต่างพูดกันว่าเหมือนเป็นลางบอกเหตุน่าจะเกิดเหตุร้ายหรือสิ่งไม่ดีกับพิธีกินเจในคราวนี้ จนกระทั่งม้าทรงหล่นบันไดมีดดับ
เมื่อเวลา 00.30 น.ของวานนี้ (16 ต.ค.) ร.ต.อ.ปรีชา กรรมแต่ง ร้อยเวรพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตพลัดตกจากที่สูงในขณะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ปีนบันไดมีดที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย ชุมชนซอย 1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ตึกอุบัติเหตุ รพ.ระนอง พบผู้เสียชีวิตคือ นายธวัชชัย หรือต้น กุชะนันท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.คืนที่ผ่านมา (15 ต.ค.) ที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย ชุมชนซอย 1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ผู้เสียชีวิต คือ นายธวัชชัย หรือ ต้น ได้เป็นม้าทรง มีเทพหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยประทับร่าง (เป็นพี่ใหญ่ 5 ทหารเอกของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ถัง) ได้มีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยการปีนบันไดมีด ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีร่างม้าทรงคนอื่นๆ จำนวน 3 องค์ ได้ปีนขึ้นไปก่อนและทำพิธีโปรยฮู้ หรือโปรยยันต์ศักดิ์สิทธิ์แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาร่วมพิธี
จนกระทั่งถึงคิวของม้าทรงนายธวัชชัย หรือ ต้น ได้ปืนขึ้นบันไดมีด โดยบันไดมีดทั้งหมดมี 39 ขั้น แต่ขณะปีนไปถึงขั้นที่ 36 เหลืออีกเพียง 3 ขั้น ม้าทรงก็พลาดหงายหลังตกลงมาเอาหลังกระแทกกับพื้นปูน ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงแจ้งให้ศูนย์นเรนทร และอาสาสมัครกู้ชีพ มูลนิธิระนองสงเคราะห์ ได้มารับตัวม้าทรงนายธวัชชัย ส่งโรงพยาบาลระนองโดยทันที แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
ส่วนที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย สถานที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเพื่อนม้าทรงด้วยกัน มีการจับกลุ่มคุยและวิจารณ์เหตุการณ์ในครั้งนี้ถึงลางบอกเหตุ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ในขณะพิธีเปิดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ที่ลานหน้าเทศบาลเมืองระนอง ได้มีพิธียกเสาจีก๋ง หรือเสาเทวดา ซึ่งปีนี้ใช้ต้นไผ่ที่สูงเกือบ 50 เมตร ขณะกำลังยกเสาเทวดาได้เกิดลำไผ่แตกช่วงท่อนบน สร้างความตะลึงและตกใจแก่ประชาชนที่มาร่วมพิธี แต่ได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยนำเหล็กยาวไปดามประกบเข้ากับลำไผ่และใช้เชือกมัด พร้อมนำรถเครนมาช่วยยกเสาจีก๋ง และอัญเชิญตะเกียงไฟศักดิ์สิทธิ์ 1 ดวงขึ้นสู่ยอดเสา แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีต่างพูดถึงและบอกกล่าวกันว่าเหมือนเป็นลางบอกเหตุน่าจะเกิดเหตุร้าย หรือสิ่งไม่ดีกับพิธีกินเจในคราวนี้อย่างแน่นอน
จนกระทั่งม้าทรงนายธวัชชัย ที่ประทับร่างทรงของหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยได้หล่นจากที่สูง ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเชื่อกันว่า เทพเจ้าได้ออกจากร่างม้าทรงกะทันหันจึงทำให้ม้าทรงวูบหมดสติก่อนตกลงมา
ส่วนศพนายธวัชชัย กุชะนันท์ ภายหลังจากได้มีการชันสูตรพลิกศพ มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ พนักงานสอยสวนได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ญาติๆ ไม่ติดใจในคดีความจึงขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเช้าวานนี้ (16 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ในประเพณีถือศีลกินผักได้มีการประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองเป็นวันแรก โดยศาลเจ้าฮุนจงอาม จ้อสู่ก้ง (นาคา) ซึ่งทางศาลเจ้าฮุนจงอาม จ้อสู่ก้ง (นาคา) ได้ประกอบพิธีเพื่อมาอัญเชิญควันธูป ควันเทียนที่ทางผู้รู้ได้นำมาจากเมืองกังไส ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ปฏิบัติกันมากว่า 200 ปี โดยทางศาลเจ้าได้จัดขบวนแห่พระมาจากศาลเจ้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนดาวรุ่งตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผ่านตลาดนัดเจ้าฟ้าวาไรตี้ (ท้ายรถ) สี่แยกโรงฆ่าสัตว์ หน้าโรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต หน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ไปสุดปลายแหลมสะพานหิน หลังจากนั้นขบวนได้วกกลับเข้ามายังวงเวียนสุรินทร์ (วงเวียนหอนาฬิกา) ผ่านไปยังวงเวียนสุริยะเดชและกลับไปยังศาลเจ้าเพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูป ควันเทียนกลับไปยังศาลเจ้า
โดยในขบวนแห่พระมีม้าทรงทั้งชายและหญิงร่วมขบวนแห่ และยังคงมีการใช้วัสดุต่างๆ ที่มีในตำนาน และนอกตำนาน เช่น กิ่งไม้ โคมไฟ เป็นต้น ทิ่มแทงตามร่างกาย ด้วยมีความเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่านยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติรอชมขบวนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการตั้งโต๊ะบูชา และจุดประทัดดังสนั่นไปทั่วเมือง
ส่วนในวันที่ 17 ต.ค.นี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต โดยทางศาลกวนเต้กุ้น (สะปำ) ประกอบพิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระรอบตัวเมืองภูเก็ต)
เมื่อเวลา 00.30 น.ของวานนี้ (16 ต.ค.) ร.ต.อ.ปรีชา กรรมแต่ง ร้อยเวรพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตพลัดตกจากที่สูงในขณะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ปีนบันไดมีดที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย ชุมชนซอย 1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ตึกอุบัติเหตุ รพ.ระนอง พบผู้เสียชีวิตคือ นายธวัชชัย หรือต้น กุชะนันท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.คืนที่ผ่านมา (15 ต.ค.) ที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย ชุมชนซอย 1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ผู้เสียชีวิต คือ นายธวัชชัย หรือ ต้น ได้เป็นม้าทรง มีเทพหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยประทับร่าง (เป็นพี่ใหญ่ 5 ทหารเอกของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ถัง) ได้มีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยการปีนบันไดมีด ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีร่างม้าทรงคนอื่นๆ จำนวน 3 องค์ ได้ปีนขึ้นไปก่อนและทำพิธีโปรยฮู้ หรือโปรยยันต์ศักดิ์สิทธิ์แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาร่วมพิธี
จนกระทั่งถึงคิวของม้าทรงนายธวัชชัย หรือ ต้น ได้ปืนขึ้นบันไดมีด โดยบันไดมีดทั้งหมดมี 39 ขั้น แต่ขณะปีนไปถึงขั้นที่ 36 เหลืออีกเพียง 3 ขั้น ม้าทรงก็พลาดหงายหลังตกลงมาเอาหลังกระแทกกับพื้นปูน ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงแจ้งให้ศูนย์นเรนทร และอาสาสมัครกู้ชีพ มูลนิธิระนองสงเคราะห์ ได้มารับตัวม้าทรงนายธวัชชัย ส่งโรงพยาบาลระนองโดยทันที แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
ส่วนที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย สถานที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเพื่อนม้าทรงด้วยกัน มีการจับกลุ่มคุยและวิจารณ์เหตุการณ์ในครั้งนี้ถึงลางบอกเหตุ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ในขณะพิธีเปิดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ที่ลานหน้าเทศบาลเมืองระนอง ได้มีพิธียกเสาจีก๋ง หรือเสาเทวดา ซึ่งปีนี้ใช้ต้นไผ่ที่สูงเกือบ 50 เมตร ขณะกำลังยกเสาเทวดาได้เกิดลำไผ่แตกช่วงท่อนบน สร้างความตะลึงและตกใจแก่ประชาชนที่มาร่วมพิธี แต่ได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยนำเหล็กยาวไปดามประกบเข้ากับลำไผ่และใช้เชือกมัด พร้อมนำรถเครนมาช่วยยกเสาจีก๋ง และอัญเชิญตะเกียงไฟศักดิ์สิทธิ์ 1 ดวงขึ้นสู่ยอดเสา แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีต่างพูดถึงและบอกกล่าวกันว่าเหมือนเป็นลางบอกเหตุน่าจะเกิดเหตุร้าย หรือสิ่งไม่ดีกับพิธีกินเจในคราวนี้อย่างแน่นอน
จนกระทั่งม้าทรงนายธวัชชัย ที่ประทับร่างทรงของหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยได้หล่นจากที่สูง ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเชื่อกันว่า เทพเจ้าได้ออกจากร่างม้าทรงกะทันหันจึงทำให้ม้าทรงวูบหมดสติก่อนตกลงมา
ส่วนศพนายธวัชชัย กุชะนันท์ ภายหลังจากได้มีการชันสูตรพลิกศพ มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ พนักงานสอยสวนได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ญาติๆ ไม่ติดใจในคดีความจึงขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเช้าวานนี้ (16 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ในประเพณีถือศีลกินผักได้มีการประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองเป็นวันแรก โดยศาลเจ้าฮุนจงอาม จ้อสู่ก้ง (นาคา) ซึ่งทางศาลเจ้าฮุนจงอาม จ้อสู่ก้ง (นาคา) ได้ประกอบพิธีเพื่อมาอัญเชิญควันธูป ควันเทียนที่ทางผู้รู้ได้นำมาจากเมืองกังไส ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ปฏิบัติกันมากว่า 200 ปี โดยทางศาลเจ้าได้จัดขบวนแห่พระมาจากศาลเจ้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนดาวรุ่งตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผ่านตลาดนัดเจ้าฟ้าวาไรตี้ (ท้ายรถ) สี่แยกโรงฆ่าสัตว์ หน้าโรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต หน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ไปสุดปลายแหลมสะพานหิน หลังจากนั้นขบวนได้วกกลับเข้ามายังวงเวียนสุรินทร์ (วงเวียนหอนาฬิกา) ผ่านไปยังวงเวียนสุริยะเดชและกลับไปยังศาลเจ้าเพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูป ควันเทียนกลับไปยังศาลเจ้า
โดยในขบวนแห่พระมีม้าทรงทั้งชายและหญิงร่วมขบวนแห่ และยังคงมีการใช้วัสดุต่างๆ ที่มีในตำนาน และนอกตำนาน เช่น กิ่งไม้ โคมไฟ เป็นต้น ทิ่มแทงตามร่างกาย ด้วยมีความเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่านยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติรอชมขบวนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการตั้งโต๊ะบูชา และจุดประทัดดังสนั่นไปทั่วเมือง
ส่วนในวันที่ 17 ต.ค.นี้ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต โดยทางศาลกวนเต้กุ้น (สะปำ) ประกอบพิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระรอบตัวเมืองภูเก็ต)
