ตาก - พบตัวแล้ว 1 ใน 2 ชาวพม่าพยานปากสำคัญที่เคยทำงานอยู่ในไร่ "หมอสุพัฒน์" แฉหมดเปลอกทำงานอยู่ในไร่หมอมาหลายปีได้เห็นทุกอย่าง พร้อมอ้าง“หมอสุพัฒน์”ฆ่าน้าชาย ด้าน ผบช.ภ.7 เตรียมสรุปผล พร้อมจ่อแจ้งข้อหา "ฆ่าคนตาย"
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตากว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เดินทางมาติดตามตัวพยานชาวพม่า 2 คนที่กลับมาทำงานอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 1 คนและอีกคนยังไม่ทราบที่อยู่แน่นอนว่ากลับข้ามไปฝั่งพม่าหรือยังตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบตัวคนงานชาวพม่าแล้ว 1 คนส่วนอีก 1 คนยังติดตามหาตัวอยู่ โดยจะเป็นพยานปากสำคัญในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี ที่มี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว และจากการสอบปากคำพยานชาวพม่าที่เคยเป็นคนงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในเบื้องต้นพยานชาวพม่าได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
"ในวันนี้ (15) จะนำตัวพยานคนดังกล่าวที่ขอสงวนชื่อมาสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งและเมื่อสอบสวนเสร็จคณะพนักงานสอบสวนก็จะเดินทางกลับที่ จ.เพชรบุรี ทันทีโดยจะไม่นำตัวพยานกลับไปด้วย เพราะหวั่นไม่ปลอดภัย รวมทั้งต้องทำงานประจำอยู่ และสามารถติดต่อได้ หากต้องนำตัวมาเป็นพยานในครั้งต่อไป ซึ่งพยานรับปากว่าจะยังไม่หนีกลับพม่า เพราะต้องการพิสูจน์ความจริงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับชาวพม่าที่ต้องจบชีวิตไป"
ด้านพยานชาวพม่า 1 ใน 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอสงวนนามไว้ เปิดเผยว่า ตนได้ทำงานอยู่ที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาหลายปีได้พบเห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในไร่ทั้งหมด ซึ่งที่ออกมาเป็นพยานเนื่องจากน้าชายของตนเองถูกฆ่าตายในไร่
"วันนี้ ผมกล้าที่จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างภายในไร่ให้กับพนักงานสอบสวนหมดแล้ว ส่วนเพื่อนอีก 1 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบหลบหนีไปอยู่ที่ไหน"พยานชาวพม่าระบุ
ทางด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า การติดตามพยานซึ่งเป็นชาวพม่า 2 คนที่เคยทำงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลว่า คนหนึ่งเดินทางกลับพม่าแล้ว ส่วนอีกคนยังอยู่ในไทย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 สามารถติดต่อทั้ง 2 คนได้แล้ว อยู่ระหว่างการสอบปากคำคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งภายหลังตำรวจสอบปากคำพยานทั้ง 2 ปากได้แล้ว จะประชุมร่วมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ว่ามีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หรือไม่ ซึ่งหากมีหลักฐานเพียงพอก็จะไปยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับในข้อหาดังกล่าวและไปแจ้งข้อหาเพิ่มได้ทันที เพราะตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตากว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เดินทางมาติดตามตัวพยานชาวพม่า 2 คนที่กลับมาทำงานอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 1 คนและอีกคนยังไม่ทราบที่อยู่แน่นอนว่ากลับข้ามไปฝั่งพม่าหรือยังตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบตัวคนงานชาวพม่าแล้ว 1 คนส่วนอีก 1 คนยังติดตามหาตัวอยู่ โดยจะเป็นพยานปากสำคัญในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี ที่มี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว และจากการสอบปากคำพยานชาวพม่าที่เคยเป็นคนงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในเบื้องต้นพยานชาวพม่าได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
"ในวันนี้ (15) จะนำตัวพยานคนดังกล่าวที่ขอสงวนชื่อมาสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งและเมื่อสอบสวนเสร็จคณะพนักงานสอบสวนก็จะเดินทางกลับที่ จ.เพชรบุรี ทันทีโดยจะไม่นำตัวพยานกลับไปด้วย เพราะหวั่นไม่ปลอดภัย รวมทั้งต้องทำงานประจำอยู่ และสามารถติดต่อได้ หากต้องนำตัวมาเป็นพยานในครั้งต่อไป ซึ่งพยานรับปากว่าจะยังไม่หนีกลับพม่า เพราะต้องการพิสูจน์ความจริงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับชาวพม่าที่ต้องจบชีวิตไป"
ด้านพยานชาวพม่า 1 ใน 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอสงวนนามไว้ เปิดเผยว่า ตนได้ทำงานอยู่ที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาหลายปีได้พบเห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในไร่ทั้งหมด ซึ่งที่ออกมาเป็นพยานเนื่องจากน้าชายของตนเองถูกฆ่าตายในไร่
"วันนี้ ผมกล้าที่จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างภายในไร่ให้กับพนักงานสอบสวนหมดแล้ว ส่วนเพื่อนอีก 1 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบหลบหนีไปอยู่ที่ไหน"พยานชาวพม่าระบุ
ทางด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า การติดตามพยานซึ่งเป็นชาวพม่า 2 คนที่เคยทำงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลว่า คนหนึ่งเดินทางกลับพม่าแล้ว ส่วนอีกคนยังอยู่ในไทย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 สามารถติดต่อทั้ง 2 คนได้แล้ว อยู่ระหว่างการสอบปากคำคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งภายหลังตำรวจสอบปากคำพยานทั้ง 2 ปากได้แล้ว จะประชุมร่วมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ว่ามีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หรือไม่ ซึ่งหากมีหลักฐานเพียงพอก็จะไปยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับในข้อหาดังกล่าวและไปแจ้งข้อหาเพิ่มได้ทันที เพราะตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว
