xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ปชช.เบื่อผู้ว่าฯกทม.-กบอ.ทะเลาะแก้น้ำท่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขู่ กทม.ไม่เอากระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำใน 7 วัน จะยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบ ขณะที่ สวนดุสิตโพล ระบุ ประชาชน เบื่อ “"สุขุมพันธ์-ปลอดประสพ” ทะเลาะกัน อยากเห็น 2 ฝ่ายทำงานเพื่อบ้านเมือง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเข้าหารือเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของกรุงเทพมหานคร และ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ระหว่าง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะ ประธาน กบอ. กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า เป็นเรื่องที่ดี สามารถสร้างความมั่นใจให้คนกรุงเทพฯและประชาชนได้ แต่เรื่องการตรวจสอบของตน ก็จะเดินหน้าต่อไป ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพของอุโมงค์ยักษ์ งบขุดลอกคูคลอง ที่อาจมีการทุจริต รวมทั้งการลอกท่อระบายน้ำ 50 เขต
ส่วนกรณีที่นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การตรวจสอบทุจริตขุดลอกท่อ หากมีการดำเนินการอาจเจอตอ ที่เป็น สก. และ สข. พวกเดียวกันเองกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนก็อยากเจอ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงผู้บริหารกทม. ที่กำลังเบี่ยงเบนประเด็น เป็นประเด็นการเมืองแล้วไปอ้างเทคนิค ดังนั้นถ้ากทม. ไม่เอากระสอบทรายออกใน 7 วัน ตนจะไปยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ ฐานละเว้นการปฏบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องของการตรวจสอบนั้นไม่มีใครสามารถห้ามตนได้ เพราะเป็นการตรวจสอบในฐานะกรรมมาธิการของสภาฯ

ขณะที่วานนี้ (14 ต.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดประชาชน ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 1,143 คน ระหว่างวันที่ 9-13 ตุลาคม 2555 เรื่องควันหลงน้ำท่วม กรณีวิวาทะระหว่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาธิปัตย์ กับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่องถุงทราย พบว่า ร้อยละ 54.20 ไม่อยากเห็นทั้งสองฝ่ายต้องมาถกเถียงกัน อยากให้ร่วมมือกันทำงานเพื่อบ้านเมืองจะดีกว่า
ขณะที่ประชาชนร้อยละ 61.64 ไม่เชื่อเหตุผลของทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นเกมการเมือง และเป็นการทำงานที่ต่างขั้วกัน ร้อยละ 43.33 มองว่าการวิวาทะดังกล่าว สร้างผลเสียให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำงาน และร้อยละ 49.55 มองว่า ส่งผลต่อคะแนนนิยมและฐานเสียงสำคัญใน กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์

นอกจากนี้ ร้อยละ 42.71 มองว่า นายปลอดประสพ แทรกแซงการทำงาน และจ้องจับผิดมากเกินไป ขณะร้อยละ 45.46 มองว่าเป็นผลดี ที่พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านทำงานร่วมกัน ส่วนร้อยละ 53.92 มองว่าเกิดผลเสียต่อประชาชน เพราะไม่รู้จะเชื่อใคร หรือหันหน้าไปพึ่งใครได้ ร้อยละ 54.66 คิดว่า ความขัดแย้งไม่เกิดผลดีต่อทั้งสองฝ่าย มีแต่สร้างความเบื่อหน่ายและไม่ไว้ใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น