ช่วงนี้ชาวบ้านเห็นการระบาดติดเชื้อ “โรคเหวง” กระจายเป็นวงกว้างยิ่งกว่าน้ำท่วมทุ่ง คนดังในหลายวงการตกเป็นเหยื่อ “โรคเหวง” ไม่คิดจะหายารักษา เชื่อว่าแพทย์ยังไม่สามารถวิเคราะห์ตัวเชื้อได้ว่าเป็นไวรัส แบคทีเรีย หรือเป็น “โรคห่ากินสมอง” หรือไม่
“โรคเหวง” มีความซับซ้อนของอาการ สามารถติดเชื้อปลายประสาทได้ง่าย เช่นจากผัวสู่เมีย จากพ่อแม่สู่ลูก ข้ามสายพันธุ์ ข้ามเพศ ข้ามอาชีพ ไม่จำกัดอายุ เชื้อชาติ! มีความวิตกว่า “โรคเหวง” จะดื้อยาเหมือนโรคเอดส์ โรคเริม โรคเรื้อน รักษาไม่หาย
บางรายมีอาการของ “โรคเอ๋อ” และ “อัลไซเมอร์” แทรก! อาการเด่นชัดของความเลอะเลือน เลอะเทอะของโรคเหวงตัวแม่มีในคำพูดของสตรีสูงอายุนางหนึ่ง ส่งเสียงแหบๆ หน้าตาคล้ายนกแสก นิยมแต่งกายสีแดง ยึดติดกับความเป็นผู้นำชนบ้องตื้น
“พวกแต่งกายชุดดำถือปืนอาก้า เอ็ม 16 เดินไปมาบนถนนราชดำเนินคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้นเป็นพวกยิงนกตกปลาเท่านั้นเอง” การแหลตาไม่กะพริบของนางเฒ่าเป็นอาการ “เหวง” ขั้นคลาสสิกเรื้อรัง มีสภาวะหลงยุค เพ้อเรื่องไพร่ อำมาตย์
การวิเคราะห์เบื้องต้นเชื่อว่า “โรคเหวง” เกิดจากจิตหลงผิดในอุดมการณ์กำมะลอ พร่องในสามัญสำนึก หลงยุคสุดขั้ว! ถ้าคลุ้มคลั่งหนักผู้ป่วยคุมสติไม่อยู่ จะพร่ำเพ้อเชิงขัดแย้งในตัวเองเช่นการตะโกนต่อหน้าฝูงชน “ผมเกลียดทักษิณ ผมรักทักษิณ” เป็นต้น
กรณีต้นตอเชื้อโรคเหวงเป็นเพศชาย เชื่อว่ามีเหตุผิดหวังอย่างรุนแรงจากการถูกปฏิเสธโดยสตรีที่ตัวเองหมายปองในวัยหนุ่ม! มีแรงกดดันหนักถ้าผลสุดท้ายเสียท่าได้คู่สมรสสูงอายุกว่าหลายปี ถูกครอบงำทางความคิดต่อเนื่อง สิ้นโอกาสเป็นผู้นำครอบครัว
อาการเหวงในสตรีมีผลรุนแรงต่อคู่สมรสซึ่งเป็นแพทย์ แม้ตัวเองไม่เป็นต้นตอของโรค เป็นเหยื่อควบคู่สภาวะพาหะ ศักยภาพในการแพร่ระบาดจะมีอิทธิพลต่อสตรีอายุน้อยกว่า เช่น กรณีหญิงสาวหน้าใสบางรายจ้อเสียงจ๋อยๆ แถ-ลงเรื่องกลุ่มติดอาวุธชุดดำ
การ “เหวง” แบบหน้าใส อยู่บนพื้นฐานของจิตหลงเพ้อ หลอกตัวเองว่านายทหารซ่าครูผู้ฝึกอาวุธกองกำลังนักรบโรนิน นักรบพระเจ้าตากชุดดำ ไม่เกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธชุดดำฆ่าทหาร! ชวนให้สันนิษฐานว่าความเหวงมีอาการ “ตาบอดสี” แทรกซ้อน
ได้ “ลาภลอย” ก้อนใหญ่ 7.75 ล้านบาท จากเงินภาษีของประชาชน อาการเหวง “แถ” และ “แหล” ยังไม่ลดระดับความรุนแรง! รวมทั้งการพูดหน้าซื่อตาใส น้ำตาไหลรินเสริมบทโศกแบบละครน้ำเน่าต้องอาย! นั่งจวก คอป. ต้นตอความคิดเรื่องเงินเยียวยา
แม่เจ้าประคุณไม่ยอมรับรายงาน คอป. เด็ดขาด แต่หัวเด็ดตีนขาด ไม่คืน “ลาภลอย” เช่นกัน! สังคมอยากรู้ว่าได้แบ่งลาภลอยให้น้องชายพ่อเดียวกันต่างแม่หรือไม่?
“โรคเหวง” ยังทำให้เสี่ยงต่ออาการเหวงแบบอุปทานหมู่ โดยเชื่อว่าไม่มีคนชุดดำยิงทหาร เผาบ้านเผาเมือง ชนเผ่าเสื้อแดงตกใจวิ่งพังห้างร้านโกยสินค้าหรูย่านราชประสงค์ เมื่อโรคเหวงกำเริบ หนังผิวหน้ามีอาการเห่อหนา ด้าน ทน ไร้ความรู้สึก ปลายประสาทไม่ตอบสนองการกระตุ้นของจิตสำนึกด้านดี มุ่งแข่งกันโกงกินทำความชั่วร้าย
บางราย “โรคเหวง” มีภาวะแทรกซ้อนของความอยากพูดเชิง “โกหกสีขาว” ด้วยหน้าตาซื่อ เมื่อโดนท้วงติงจากสังคมวิญญูชน นักโกหกสีขาวจะเพิ่มความขาวในการโกหกย้ำซ้ำสองเพื่อเอาตัวรอด ใช้เทคนิคการเหวง แถ ผสมความหน้าด้านเป็นตัวช่วย
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน เหยื่อโรคเหวงอีกรายเป็นนายตำรวจคนดัง กร่างเมืองกรุง ผู้ยึดคติ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เอารูปโจรหนีคุกประดับดาวให้ตนเองโชว์หรา
เมื่อถูกสังคมไล่บี้หนัก อาการเหวงทำให้การ “แถ” ข้อกฎหมายเป็นฉากๆ บนพื้นฐานของความเลอะเทอะ อารมณ์แปรปรวน เหมือนรถ “แจ๊ส” เสียศูนย์! ต้องระดมพลสีกากีติดอาวุธไปปิดล้อมค่ายสะตอ คุกคาม ให้ลูกน้องตากหน้าสู้เสียงประณามแทน
ล่าสุด “เก้าอี้นครบาลที่พี่ให้” ออกอาการขาโยก ลั่นเอี๊ยดอ๊าด ต้องลากิจบินด่วนไปสิงคโปร์กับ “พี่เฉ-ลิม” อ้างว่าไปดูรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ชาวบ้านสงสัยว่าคงไปอ้อนบักเหลี่ยมร้ายขอรักษาเก้าอี้ หรือหาทางลงสวยๆ! ต้องรอดูว่า “เที่ยวนี้พี่ให้อะไร?” ฮ่า!
วันเดียวกัน บักเหลี่ยมร้ายเขียนจดหมายแนวโหวงเหวงสุดๆ ขอบคุณชนเผ่าเสื้อแดง ที่โดนหลอกให้มานั่งตากแดดกินข้าวกล่อง น้ำขวด เป็นเหยื่อกระสุนในเมืองกรุง
นี่ก็เป็นโรคเหวงผสมออดอ้อน แต่ชาวบ้านคนรู้ทันดูออกว่าการสื่อสารระหว่างบรรทัด ตีความได้ว่า “กูไม่จ่าย” ให้พวกเหยื่อบาดเจ็บล้มตาย! เคยหลอกพวกเสื้อแดงว่าถ้าเสียงปืนดังเมื่อไหร่ จะเดินหน้านำเหยื่อสู้กระสุน! ทุกวันนี้ยังหนีคุกเร่ร่อนไร้แผ่นดิน
เหยื่อโรคเหวงอีกรายคือ “ชายจืด” อ้างว่าคน 2 ใน 3 ของประเทศอยากให้บักเหลี่ยมร้ายกลับบ้าน คนส่วนน้อยกันท่า กลัวบักเหลี่ยมร้ายเก่งกว่า! แบบนี้วิเคราะห์ได้ง่ายว่าเกิดจากการหมกมุ่นกับแคตตาล็อกตู้เย็น ซ่อนเร้นตัวอยู่ในห้องปิดม่านทึบนานๆ
เมื่อชีวิตขาดแสงแดด หวาดผวาว่าจะมีใครแอบถ่ายวิดีโอ หลบซ่อนตัวกลางวันเหมือนผีดิบแวมไพร์ ร่างกายขาดวิตามินดี ทำให้ผิวสีซีดเผือด ยิ่งโดนข่มขู่โดย “เจ๊ ด.” รีดเค้นเอาความจริงบ่อยครั้ง ทำให้สภาวะจืดมีเชื้อ “จ๋อง” “แหย” แทรกใน “โรคเหวง”
หงอจนไม่กล้า “แข็งข้อ” หรือ “แข็งเมือง” กับเจ๊! แต่จะ “แข็งนอกบ้าน” เท่านั้น!
สัปดาห์นี้มีคนหัวขาวเหยื่อโรคเหวง เป็นผลกรรมของการปล้นธรณีสงฆ์! ก้นทากาวตราช้างติดเก้าอี้ หน้าพอกด้วยคอ-นก-รีต ไล่ก็ไม่ออก ยื้อรอกฎหมายล้างมลทิน
ฮ่า! ใครๆ ก็สู้แม่นางโพยปูโพรกเน่าในไม่ได้ รับบทหญิงมั่น เติมไอโอดินเต็มสูบ ไปเดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลังโชว์โรคเอ๋อหลายรอบที่นิวยอร์กโน่น! เตรียมปี๊บด่วน!
“โรคเหวง” มีความซับซ้อนของอาการ สามารถติดเชื้อปลายประสาทได้ง่าย เช่นจากผัวสู่เมีย จากพ่อแม่สู่ลูก ข้ามสายพันธุ์ ข้ามเพศ ข้ามอาชีพ ไม่จำกัดอายุ เชื้อชาติ! มีความวิตกว่า “โรคเหวง” จะดื้อยาเหมือนโรคเอดส์ โรคเริม โรคเรื้อน รักษาไม่หาย
บางรายมีอาการของ “โรคเอ๋อ” และ “อัลไซเมอร์” แทรก! อาการเด่นชัดของความเลอะเลือน เลอะเทอะของโรคเหวงตัวแม่มีในคำพูดของสตรีสูงอายุนางหนึ่ง ส่งเสียงแหบๆ หน้าตาคล้ายนกแสก นิยมแต่งกายสีแดง ยึดติดกับความเป็นผู้นำชนบ้องตื้น
“พวกแต่งกายชุดดำถือปืนอาก้า เอ็ม 16 เดินไปมาบนถนนราชดำเนินคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้นเป็นพวกยิงนกตกปลาเท่านั้นเอง” การแหลตาไม่กะพริบของนางเฒ่าเป็นอาการ “เหวง” ขั้นคลาสสิกเรื้อรัง มีสภาวะหลงยุค เพ้อเรื่องไพร่ อำมาตย์
การวิเคราะห์เบื้องต้นเชื่อว่า “โรคเหวง” เกิดจากจิตหลงผิดในอุดมการณ์กำมะลอ พร่องในสามัญสำนึก หลงยุคสุดขั้ว! ถ้าคลุ้มคลั่งหนักผู้ป่วยคุมสติไม่อยู่ จะพร่ำเพ้อเชิงขัดแย้งในตัวเองเช่นการตะโกนต่อหน้าฝูงชน “ผมเกลียดทักษิณ ผมรักทักษิณ” เป็นต้น
กรณีต้นตอเชื้อโรคเหวงเป็นเพศชาย เชื่อว่ามีเหตุผิดหวังอย่างรุนแรงจากการถูกปฏิเสธโดยสตรีที่ตัวเองหมายปองในวัยหนุ่ม! มีแรงกดดันหนักถ้าผลสุดท้ายเสียท่าได้คู่สมรสสูงอายุกว่าหลายปี ถูกครอบงำทางความคิดต่อเนื่อง สิ้นโอกาสเป็นผู้นำครอบครัว
อาการเหวงในสตรีมีผลรุนแรงต่อคู่สมรสซึ่งเป็นแพทย์ แม้ตัวเองไม่เป็นต้นตอของโรค เป็นเหยื่อควบคู่สภาวะพาหะ ศักยภาพในการแพร่ระบาดจะมีอิทธิพลต่อสตรีอายุน้อยกว่า เช่น กรณีหญิงสาวหน้าใสบางรายจ้อเสียงจ๋อยๆ แถ-ลงเรื่องกลุ่มติดอาวุธชุดดำ
การ “เหวง” แบบหน้าใส อยู่บนพื้นฐานของจิตหลงเพ้อ หลอกตัวเองว่านายทหารซ่าครูผู้ฝึกอาวุธกองกำลังนักรบโรนิน นักรบพระเจ้าตากชุดดำ ไม่เกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธชุดดำฆ่าทหาร! ชวนให้สันนิษฐานว่าความเหวงมีอาการ “ตาบอดสี” แทรกซ้อน
ได้ “ลาภลอย” ก้อนใหญ่ 7.75 ล้านบาท จากเงินภาษีของประชาชน อาการเหวง “แถ” และ “แหล” ยังไม่ลดระดับความรุนแรง! รวมทั้งการพูดหน้าซื่อตาใส น้ำตาไหลรินเสริมบทโศกแบบละครน้ำเน่าต้องอาย! นั่งจวก คอป. ต้นตอความคิดเรื่องเงินเยียวยา
แม่เจ้าประคุณไม่ยอมรับรายงาน คอป. เด็ดขาด แต่หัวเด็ดตีนขาด ไม่คืน “ลาภลอย” เช่นกัน! สังคมอยากรู้ว่าได้แบ่งลาภลอยให้น้องชายพ่อเดียวกันต่างแม่หรือไม่?
“โรคเหวง” ยังทำให้เสี่ยงต่ออาการเหวงแบบอุปทานหมู่ โดยเชื่อว่าไม่มีคนชุดดำยิงทหาร เผาบ้านเผาเมือง ชนเผ่าเสื้อแดงตกใจวิ่งพังห้างร้านโกยสินค้าหรูย่านราชประสงค์ เมื่อโรคเหวงกำเริบ หนังผิวหน้ามีอาการเห่อหนา ด้าน ทน ไร้ความรู้สึก ปลายประสาทไม่ตอบสนองการกระตุ้นของจิตสำนึกด้านดี มุ่งแข่งกันโกงกินทำความชั่วร้าย
บางราย “โรคเหวง” มีภาวะแทรกซ้อนของความอยากพูดเชิง “โกหกสีขาว” ด้วยหน้าตาซื่อ เมื่อโดนท้วงติงจากสังคมวิญญูชน นักโกหกสีขาวจะเพิ่มความขาวในการโกหกย้ำซ้ำสองเพื่อเอาตัวรอด ใช้เทคนิคการเหวง แถ ผสมความหน้าด้านเป็นตัวช่วย
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน เหยื่อโรคเหวงอีกรายเป็นนายตำรวจคนดัง กร่างเมืองกรุง ผู้ยึดคติ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เอารูปโจรหนีคุกประดับดาวให้ตนเองโชว์หรา
เมื่อถูกสังคมไล่บี้หนัก อาการเหวงทำให้การ “แถ” ข้อกฎหมายเป็นฉากๆ บนพื้นฐานของความเลอะเทอะ อารมณ์แปรปรวน เหมือนรถ “แจ๊ส” เสียศูนย์! ต้องระดมพลสีกากีติดอาวุธไปปิดล้อมค่ายสะตอ คุกคาม ให้ลูกน้องตากหน้าสู้เสียงประณามแทน
ล่าสุด “เก้าอี้นครบาลที่พี่ให้” ออกอาการขาโยก ลั่นเอี๊ยดอ๊าด ต้องลากิจบินด่วนไปสิงคโปร์กับ “พี่เฉ-ลิม” อ้างว่าไปดูรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ชาวบ้านสงสัยว่าคงไปอ้อนบักเหลี่ยมร้ายขอรักษาเก้าอี้ หรือหาทางลงสวยๆ! ต้องรอดูว่า “เที่ยวนี้พี่ให้อะไร?” ฮ่า!
วันเดียวกัน บักเหลี่ยมร้ายเขียนจดหมายแนวโหวงเหวงสุดๆ ขอบคุณชนเผ่าเสื้อแดง ที่โดนหลอกให้มานั่งตากแดดกินข้าวกล่อง น้ำขวด เป็นเหยื่อกระสุนในเมืองกรุง
นี่ก็เป็นโรคเหวงผสมออดอ้อน แต่ชาวบ้านคนรู้ทันดูออกว่าการสื่อสารระหว่างบรรทัด ตีความได้ว่า “กูไม่จ่าย” ให้พวกเหยื่อบาดเจ็บล้มตาย! เคยหลอกพวกเสื้อแดงว่าถ้าเสียงปืนดังเมื่อไหร่ จะเดินหน้านำเหยื่อสู้กระสุน! ทุกวันนี้ยังหนีคุกเร่ร่อนไร้แผ่นดิน
เหยื่อโรคเหวงอีกรายคือ “ชายจืด” อ้างว่าคน 2 ใน 3 ของประเทศอยากให้บักเหลี่ยมร้ายกลับบ้าน คนส่วนน้อยกันท่า กลัวบักเหลี่ยมร้ายเก่งกว่า! แบบนี้วิเคราะห์ได้ง่ายว่าเกิดจากการหมกมุ่นกับแคตตาล็อกตู้เย็น ซ่อนเร้นตัวอยู่ในห้องปิดม่านทึบนานๆ
เมื่อชีวิตขาดแสงแดด หวาดผวาว่าจะมีใครแอบถ่ายวิดีโอ หลบซ่อนตัวกลางวันเหมือนผีดิบแวมไพร์ ร่างกายขาดวิตามินดี ทำให้ผิวสีซีดเผือด ยิ่งโดนข่มขู่โดย “เจ๊ ด.” รีดเค้นเอาความจริงบ่อยครั้ง ทำให้สภาวะจืดมีเชื้อ “จ๋อง” “แหย” แทรกใน “โรคเหวง”
หงอจนไม่กล้า “แข็งข้อ” หรือ “แข็งเมือง” กับเจ๊! แต่จะ “แข็งนอกบ้าน” เท่านั้น!
สัปดาห์นี้มีคนหัวขาวเหยื่อโรคเหวง เป็นผลกรรมของการปล้นธรณีสงฆ์! ก้นทากาวตราช้างติดเก้าอี้ หน้าพอกด้วยคอ-นก-รีต ไล่ก็ไม่ออก ยื้อรอกฎหมายล้างมลทิน
ฮ่า! ใครๆ ก็สู้แม่นางโพยปูโพรกเน่าในไม่ได้ รับบทหญิงมั่น เติมไอโอดินเต็มสูบ ไปเดินแอ่นระแน้ เด้งหน้าเด้งหลังโชว์โรคเอ๋อหลายรอบที่นิวยอร์กโน่น! เตรียมปี๊บด่วน!