หุ้นไทยปรับขึ้น 10 จุด ตามความคาดหวังนักลงทุนต่อผลประชุมธนาคารกลางยุโรป ในแก้ออกมาตรการแก้ไขหนี้ยูโรโซน โบรกฯเตือนจับตาอย่างใกล้ ย้ำปัญหายังไม่จบ ต้องติดตามผลตัดสินของศาลเยอรมนีต่อ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(6ก.ย.) ปรับอยู่ในแดนบวกตามตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังจะได้รับข่าวดีจากการประชุมธนาคารกลลางยุโรป โดยปิดที่ระดับ 1,243.92 จุด เพิ่มขึ้น 10.08 จุด หรือ 0.82%มูลค่าการซื้อขาย 29,322.38 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,246.98 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,237.23 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 366 หลักทรัพย์ ลดลง 218 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 201 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,944.17 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,694.82 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,317.66 ล้านบาท ปิดที่ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท และ PTT มูลค่าการซื้อขาย 988.73 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท ลดลง 2.00 บาท BLAND มูลค่าการซื้อขาย 810.66 ล้านบาท ปิดที่ 1.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามทิสทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่รอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ECB จะมีมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของอิตาลี และสเปน ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นพอสมควร เช่นเดียวกับสินทร้พย์เสี่ยงทั่วโลกที่ปรับขึ้น ได้แก่ หุ้น ทองคำ น้ำมัน ที่เก็งกำไร รวมทั้ง การประมูลพันธบัตรสเปนก็ขายหมด
“นักลงทุนควรติดตามผลกาประชุม ECB ว่าจะมีรายละเอียดมาตรการอย่างไร ที่จะออกมาสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด direction ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่รายละเอียดของแผน จะเข้าซื้อไม่จำกัดจำนวนหรือเปล่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะตอบรับเช่นไร”
อย่างไรก็ตาม เตือนนักลงทุนว่า การแก้ปัญหาของกลุ่มยูโรโซนยังไม่จบ และต่อไปก็ต้องติดตามผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีจะมีคำวินิจฉัยในการับรองกองทุน ESM หรือไม่ และ สเปน จะยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน หรือไม่ โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,247 จุด หากทะลุ ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,266 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,232 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(6ก.ย.) ปรับอยู่ในแดนบวกตามตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังจะได้รับข่าวดีจากการประชุมธนาคารกลลางยุโรป โดยปิดที่ระดับ 1,243.92 จุด เพิ่มขึ้น 10.08 จุด หรือ 0.82%มูลค่าการซื้อขาย 29,322.38 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,246.98 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,237.23 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 366 หลักทรัพย์ ลดลง 218 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 201 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,944.17 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,694.82 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,317.66 ล้านบาท ปิดที่ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท และ PTT มูลค่าการซื้อขาย 988.73 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท ลดลง 2.00 บาท BLAND มูลค่าการซื้อขาย 810.66 ล้านบาท ปิดที่ 1.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามทิสทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่รอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ECB จะมีมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของอิตาลี และสเปน ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นพอสมควร เช่นเดียวกับสินทร้พย์เสี่ยงทั่วโลกที่ปรับขึ้น ได้แก่ หุ้น ทองคำ น้ำมัน ที่เก็งกำไร รวมทั้ง การประมูลพันธบัตรสเปนก็ขายหมด
“นักลงทุนควรติดตามผลกาประชุม ECB ว่าจะมีรายละเอียดมาตรการอย่างไร ที่จะออกมาสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากน้อยเพียงใด direction ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่รายละเอียดของแผน จะเข้าซื้อไม่จำกัดจำนวนหรือเปล่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะตอบรับเช่นไร”
อย่างไรก็ตาม เตือนนักลงทุนว่า การแก้ปัญหาของกลุ่มยูโรโซนยังไม่จบ และต่อไปก็ต้องติดตามผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีจะมีคำวินิจฉัยในการับรองกองทุน ESM หรือไม่ และ สเปน จะยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน หรือไม่ โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,247 จุด หากทะลุ ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,266 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,232 จุด