“เหลี่ยม” กับพวกชอบโฆษณาชวนเชื่อว่า การเมืองปัจจุบันดีกว่าระบอบอื่น เพราะประชาชนได้เลือก ส.ส. -นายกรัฐมนตรี-รัฐบาล-ด้วยตัวประชาชนเอง!
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นระบอบคณา-ธนา-โจราธิปไตย ของนายทุนสามานย์ที่ชื่อ “เหลี่ยม” ต่างหาก!
เพราะ “เหลี่ยม” เห็นช่องโหว่ของระบบเลือกตั้งไทยว่า สามารถใช้เงินที่ร่ำรวยมาโดยไม่โปร่งใสของตนซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง เพื่อเข้าไปยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือนั่นเอง
“เหลี่ยม” ยังรู้ว่า คนไทยในชนบทนั้นยากจน และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลเถื่อนของบรรดา ส.ส.ที่มีทั้งพระเดชพระคุณอีกด้วย ดังนั้น อยากได้อำนาจรัฐ..ก็ต้องกว้านซื้อตัว ส.ส.จอมอิทธิพลทั่วประเทศ มาไว้ในกำมือก่อนเป็นอันดับแรก
ก่อน “เหลี่ยม” จะเล่นการเมืองนั้น พรรคการเมืองต่างๆ ซื้อตัว ส.ส.เกรดเอ ด้วยเงินประมาณ 10-15 ล้านบาทต่อคน เพราะการซื้อเสียงคนในชนบทยุคนั้น ส.ส.บางคนใช้เงินแค่ 3-5-7 ล้านบาทเท่านั้น เงินเหลือจากการซื้อเสียง..ส.ส.จะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองครับ
แต่ “เหลี่ยม” ใช้เงินซื้อตัว ส.ส.ส่วนใหญ่ 30 ล้านบาทต่อคน ซื้อ ส.ส.ยกจังหวัด 6 คน ด้วยเงินถึง 250 ล้านบาท ซื้อ ส.ส.แบบยกพรรคด้วยเงินนับพันล้านบาท เพื่อให้ส.ส.ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านั้น นำเงินไปซื้อเสียงประชาชนอีกทอดหนึ่ง
นอกจากนั้น “เหลี่ยม” ยังซื้อหน่วยงานที่ดูแลการเลือกตั้งด้วยเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้สมัคร ส.ส.ของตนว่า หากถูกจับเรื่องซื้อเสียงหรือโกงการเลือกตั้ง ก็จะไม่โดนใบแดงหรือใบเหลืองหรือโดนลงโทษน้อยที่สุดอีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ “เหลี่ยม” กับพวกจะชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง ได้จำนวน ส.ส.เข้าสภามากกว่าคู่แข่งจนบางครั้ง “เหลี่ยม” ยังได้ ส.ส.เข้าสภาเกินกึ่งหนึ่งด้วยซ้ำไป
เมื่อได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งแล้ว “เหลี่ยม” ก็บงการให้ ส.ส.ขี้ข้าทาสน้ำเงินเหล่านั้น ใช้มือลงมติตั้ง “เหลี่ยม” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกฯ “เหลี่ยม” ก็ลงมือตั้งรัฐมนตรี เพื่อใช้กลไกรัฐหรือใช้ข้าราชการชั่วบางคน ทำการคอร์รัปชันให้ตนกับพวกพ้อง เพื่อจะได้สะสมเงินไว้ซื้อเสียงเลือกตั้งในครั้งต่อไป จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ในสังคมไทยยามนี้ไปแล้ว
จึงสรุปได้ว่า..วันนี้ชาติไทยไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดัง “เหลี่ยม” กับพวกโกหก หากแต่ชาติไทยกำลังถูกปกครอง ด้วยระบอบการเมืองที่ชั่วช้าของทุนนิยมสามานย์ ซึ่งเห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-บ้าอำนาจ-โกงชาติบ้านเมืองกันอย่างตะกละตะกลามสุดๆ ต่างหาก..
การเมืองชั่วช้าแบบนี้แหละ ที่ทำให้ ประชาชนคนไทยเจ้าของประเทศจนลงทุกวี่วัน แต่นักการเมืองชั่วๆอย่าง“เหลี่ยม”กับพวก ร่ำรวยเงินทองชั่วพริบตาอย่างไร้เหตุไร้ผล เพราะโกงเงินงบประมาณแผ่นดินจากภาษีอากร ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศกว่า 3-500,00 ล้านบาทต่อปีมาโดยตลอด
จึงไม่น่าแปลกใจที่การเมืองไทยวันนี้ มีนักธุรกิจการเมืองเดินยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เพราะ “เหลี่ยม” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การลงทุนซื้อตัว ส.ส.และซื้อเสียงด้วยเงินแค่ 1-2 หมื่นบ้านบาท แต่จะได้เงินคืนในเวลาเพียงแค่ 4 ปี มากถึง 4-500,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีธุรกิจใดที่จะทำกำไรได้มากถึง 30-50% ต่อปีเลย
ถนนการเมืองของ “เหลี่ยม” และพวก จึงมุ่งสร้างแต่อำนาจทางการเมืองให้“เหลี่ยม” และมุ่งทำลายล้างอริทางการเมือง ไม่เว้นแม้กระทั่งสถาบันสำคัญที่เห็นต่างจาก “เหลี่ยม” นักการเมืองขี้ข้าน้ำเงินจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อ “เหลี่ยม” เท่านั้น โดยมิได้สนใจไยดีกับการทำเพื่อชาติและประชาชน
การเมืองสกปรกที่ประชาชนถูก ส.ส.ใช้เงินซื้อ และใช้อิทธิพลบงการให้ลงคะแนนเลือก ส.ส. อีกทั้งประชาชนก็ไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีแม้แต่น้อย หากแต่เป็น ส.ส.ทาสน้ำเงินกว่าครึ่งสภาต่างหาก ที่ใช้มือลงมติเลือกนายกฯ โดยไม่พิจารณาว่าควรหรือเหมาะไหม? เป็นการลงมติเลือกเพราะ “เหลี่ยม” เป็นผู้ให้เงิน และเป็นเจ้าของพรรคเท่านั้นครับ
ครม.ในรัฐบาลประชาชนยิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะ “เหลี่ยม” เท่านั้นที่เป็นผู้เลือกรัฐมนตรี ไว้สำหรับโกงชาติบ้านเมืองให้กับตนเอง!
ต้องบอกว่า..ไม่มีประชาชนคนใด ต้องการ ส.ส.-นายกรัฐมนตรี-รัฐบาลชั่วที่เอาแต่โกงชาติบ้านเมืองหรอกครับ..จริงไหม?
ส่วนการเมืองระบอบไหนจะดีหรือจะเลวกว่ากันนั้น ต้องดูที่ผลงานว่า..ผู้ปกครองทำเพื่อชาติและประชาชนหรือเปล่า? ทว่าที่สำคัญ คือ คน หากคนดีระบบยังไม่ดี..คนดีก็จะทำดี และทำให้ระบบที่ไม่ดี-ดีได้ แต่หากคนเลวได้ครองเมือง ระบบดีก็จะถูกคนเลวทำลาย หรือสร้างระบบเลวๆ ขึ้นมารับใช้การทำชั่วของตนและพวกพ้องได้เสมอ
ทั้งหมดจึงมาลงท้ายตรงที่ ถึงเวลาที่คนไทยต้องทำทุกวิถีทาง ให้คนดีๆ ได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และต้องกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ เพื่อสร้างความเจริญและความสงบสุขให้แก่ชาติและประชาชนครับ
ประชาธิปไตยแบบ “โกงกินได้” ของ “เหลี่ยม” และพวก ทำให้ “เหลี่ยม” และพวกรวย แต่ประชาชนต้องจมอยู่กับความยากจน เงินงบประมาณแผ่นดินอย่างมหาศาลถูกผลาญไปกับการหาเสียงด้วยโครงการประชานิยม ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชาติต้องพบกับวิบากกรรมในด้านลบ จนยากจะแก้ไขเยียวยาได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต..
บนวาทกรรม “เหลี่ยม” และพวกพ้องที่โกหกต้มตุ๋นคนไทยเสียสุกว่า เลือกตั้ง(ซื้อเสียงและโกงได้) คือ ระบอบประชาธิปไตยไงล่ะครับ!!!
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเป็นระบอบคณา-ธนา-โจราธิปไตย ของนายทุนสามานย์ที่ชื่อ “เหลี่ยม” ต่างหาก!
เพราะ “เหลี่ยม” เห็นช่องโหว่ของระบบเลือกตั้งไทยว่า สามารถใช้เงินที่ร่ำรวยมาโดยไม่โปร่งใสของตนซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง เพื่อเข้าไปยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือนั่นเอง
“เหลี่ยม” ยังรู้ว่า คนไทยในชนบทนั้นยากจน และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลเถื่อนของบรรดา ส.ส.ที่มีทั้งพระเดชพระคุณอีกด้วย ดังนั้น อยากได้อำนาจรัฐ..ก็ต้องกว้านซื้อตัว ส.ส.จอมอิทธิพลทั่วประเทศ มาไว้ในกำมือก่อนเป็นอันดับแรก
ก่อน “เหลี่ยม” จะเล่นการเมืองนั้น พรรคการเมืองต่างๆ ซื้อตัว ส.ส.เกรดเอ ด้วยเงินประมาณ 10-15 ล้านบาทต่อคน เพราะการซื้อเสียงคนในชนบทยุคนั้น ส.ส.บางคนใช้เงินแค่ 3-5-7 ล้านบาทเท่านั้น เงินเหลือจากการซื้อเสียง..ส.ส.จะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองครับ
แต่ “เหลี่ยม” ใช้เงินซื้อตัว ส.ส.ส่วนใหญ่ 30 ล้านบาทต่อคน ซื้อ ส.ส.ยกจังหวัด 6 คน ด้วยเงินถึง 250 ล้านบาท ซื้อ ส.ส.แบบยกพรรคด้วยเงินนับพันล้านบาท เพื่อให้ส.ส.ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านั้น นำเงินไปซื้อเสียงประชาชนอีกทอดหนึ่ง
นอกจากนั้น “เหลี่ยม” ยังซื้อหน่วยงานที่ดูแลการเลือกตั้งด้วยเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้สมัคร ส.ส.ของตนว่า หากถูกจับเรื่องซื้อเสียงหรือโกงการเลือกตั้ง ก็จะไม่โดนใบแดงหรือใบเหลืองหรือโดนลงโทษน้อยที่สุดอีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ “เหลี่ยม” กับพวกจะชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง ได้จำนวน ส.ส.เข้าสภามากกว่าคู่แข่งจนบางครั้ง “เหลี่ยม” ยังได้ ส.ส.เข้าสภาเกินกึ่งหนึ่งด้วยซ้ำไป
เมื่อได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งแล้ว “เหลี่ยม” ก็บงการให้ ส.ส.ขี้ข้าทาสน้ำเงินเหล่านั้น ใช้มือลงมติตั้ง “เหลี่ยม” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกฯ “เหลี่ยม” ก็ลงมือตั้งรัฐมนตรี เพื่อใช้กลไกรัฐหรือใช้ข้าราชการชั่วบางคน ทำการคอร์รัปชันให้ตนกับพวกพ้อง เพื่อจะได้สะสมเงินไว้ซื้อเสียงเลือกตั้งในครั้งต่อไป จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ในสังคมไทยยามนี้ไปแล้ว
จึงสรุปได้ว่า..วันนี้ชาติไทยไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดัง “เหลี่ยม” กับพวกโกหก หากแต่ชาติไทยกำลังถูกปกครอง ด้วยระบอบการเมืองที่ชั่วช้าของทุนนิยมสามานย์ ซึ่งเห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-บ้าอำนาจ-โกงชาติบ้านเมืองกันอย่างตะกละตะกลามสุดๆ ต่างหาก..
การเมืองชั่วช้าแบบนี้แหละ ที่ทำให้ ประชาชนคนไทยเจ้าของประเทศจนลงทุกวี่วัน แต่นักการเมืองชั่วๆอย่าง“เหลี่ยม”กับพวก ร่ำรวยเงินทองชั่วพริบตาอย่างไร้เหตุไร้ผล เพราะโกงเงินงบประมาณแผ่นดินจากภาษีอากร ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศกว่า 3-500,00 ล้านบาทต่อปีมาโดยตลอด
จึงไม่น่าแปลกใจที่การเมืองไทยวันนี้ มีนักธุรกิจการเมืองเดินยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เพราะ “เหลี่ยม” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การลงทุนซื้อตัว ส.ส.และซื้อเสียงด้วยเงินแค่ 1-2 หมื่นบ้านบาท แต่จะได้เงินคืนในเวลาเพียงแค่ 4 ปี มากถึง 4-500,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีธุรกิจใดที่จะทำกำไรได้มากถึง 30-50% ต่อปีเลย
ถนนการเมืองของ “เหลี่ยม” และพวก จึงมุ่งสร้างแต่อำนาจทางการเมืองให้“เหลี่ยม” และมุ่งทำลายล้างอริทางการเมือง ไม่เว้นแม้กระทั่งสถาบันสำคัญที่เห็นต่างจาก “เหลี่ยม” นักการเมืองขี้ข้าน้ำเงินจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อ “เหลี่ยม” เท่านั้น โดยมิได้สนใจไยดีกับการทำเพื่อชาติและประชาชน
การเมืองสกปรกที่ประชาชนถูก ส.ส.ใช้เงินซื้อ และใช้อิทธิพลบงการให้ลงคะแนนเลือก ส.ส. อีกทั้งประชาชนก็ไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีแม้แต่น้อย หากแต่เป็น ส.ส.ทาสน้ำเงินกว่าครึ่งสภาต่างหาก ที่ใช้มือลงมติเลือกนายกฯ โดยไม่พิจารณาว่าควรหรือเหมาะไหม? เป็นการลงมติเลือกเพราะ “เหลี่ยม” เป็นผู้ให้เงิน และเป็นเจ้าของพรรคเท่านั้นครับ
ครม.ในรัฐบาลประชาชนยิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะ “เหลี่ยม” เท่านั้นที่เป็นผู้เลือกรัฐมนตรี ไว้สำหรับโกงชาติบ้านเมืองให้กับตนเอง!
ต้องบอกว่า..ไม่มีประชาชนคนใด ต้องการ ส.ส.-นายกรัฐมนตรี-รัฐบาลชั่วที่เอาแต่โกงชาติบ้านเมืองหรอกครับ..จริงไหม?
ส่วนการเมืองระบอบไหนจะดีหรือจะเลวกว่ากันนั้น ต้องดูที่ผลงานว่า..ผู้ปกครองทำเพื่อชาติและประชาชนหรือเปล่า? ทว่าที่สำคัญ คือ คน หากคนดีระบบยังไม่ดี..คนดีก็จะทำดี และทำให้ระบบที่ไม่ดี-ดีได้ แต่หากคนเลวได้ครองเมือง ระบบดีก็จะถูกคนเลวทำลาย หรือสร้างระบบเลวๆ ขึ้นมารับใช้การทำชั่วของตนและพวกพ้องได้เสมอ
ทั้งหมดจึงมาลงท้ายตรงที่ ถึงเวลาที่คนไทยต้องทำทุกวิถีทาง ให้คนดีๆ ได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และต้องกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ เพื่อสร้างความเจริญและความสงบสุขให้แก่ชาติและประชาชนครับ
ประชาธิปไตยแบบ “โกงกินได้” ของ “เหลี่ยม” และพวก ทำให้ “เหลี่ยม” และพวกรวย แต่ประชาชนต้องจมอยู่กับความยากจน เงินงบประมาณแผ่นดินอย่างมหาศาลถูกผลาญไปกับการหาเสียงด้วยโครงการประชานิยม ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชาติต้องพบกับวิบากกรรมในด้านลบ จนยากจะแก้ไขเยียวยาได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต..
บนวาทกรรม “เหลี่ยม” และพวกพ้องที่โกหกต้มตุ๋นคนไทยเสียสุกว่า เลือกตั้ง(ซื้อเสียงและโกงได้) คือ ระบอบประชาธิปไตยไงล่ะครับ!!!