ธ.ก.ส.ยันจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวตามใบประทวนที่เกษตรกรยื่น พร้อมให้ความร่วมมือดีเอสไอตรวจสอบเต็มที่ พร้อมคาดวงเงินจำนำข้าวรอบใหม่อาจเกิน 4.1 แสนล้านบาทได้ หากรับจำนำทุกเม็ด ขณะที่ดีเอสไอบุกตรวจข้าวคลังสินค้า"อยุธยา" แต่ยังไม่พบความผิดปกติของการับจำนำ
นายวินัย เครือประดิษฐ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการทุจริตการรับจำนำข้าว ซึ่งพบมีหลายกระบวนการการรวมทั้งการออกใบประทวนปลอมด้วยว่าที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ทำหน้าที่ในการจ่ายเงินตามใบประทวนที่ออกและรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับใบประทวนว่าปลอมหรือไม่ก็สามารถตรวจสอบไปยังต้นทางหรือผู้ออกได้ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินให้เกษตรกร ซึ่งทีผ่านมาส่วนใหญ่ใบประทวนที่นำมาขึ้นเงินก็มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ขั้นตอนการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำนั้นเบื้องต้นทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะทำหน้าที่ในการออกใบรับรองให้กับเกษตรกรว่าปลูกข้าวจริงหรือไม่และมีจำนวนเท่าในแต่ละปี จากนั้นเมื่อได้ผลผลิตเกษตรกรจะนำข้าวมาจำนำกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยผ่านโรงสี เพื่อรับฝากข้าวไว้และอคส.จะเป็นผู้รับรองออกใบประทวนให้ โดยยอมรับว่าเกษตรสามารถมีใบประทวนหลายใบต่อรายได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะนำข้าวไปจำนำช่วงใด
ส่วนจะมีการสวมสิทธิ์หรือว่ามีใบประทวนปลอมเป็นเรืองที่จะต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ทางดีเอสไอได้ขอข้อมูลของลูกค้าทุกรายที่เข้าโครงการเข้ามาที่สาขาของธ.ก.ส. ซึ่งธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินผ่านใบประทวนไปแล้วล่าสุด 1.46 แสนล้านบาทสำหรับข้าวฤดูการผลิต54/55 ปริมาณข้าว 9.6 ล้านตัน จากเป้าหมาย 9.89 ล้านตัน เป็นเงิน 1.467 แสนล้านบาท โดยอีก1 เดือนที่เหลือซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ก.ย.นี้ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย
สำหรับแนวทางการเปิดรับจำนำข้าวนาปรังรอบพิเศษนั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ไปแล้วรอเพียงเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาซึ่งจะมีปริมาณข้าวเข้ามาอีก 2 ล้านตัน ใช้เงิน 2 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่า การรับจำนำฤดูการผลิต 55/56 ที่จำเริ่มเดือน ต.ค.นี้ตามที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจะใช้เงินประมาณ 2.6 แสนล้านบาท สำหรับรับจำนำเข้าวนาปีและนาปรัง จำนวน 35 ล้านตันนั้น ในส่วนนี้ถือเป็นการใช้เงินกู้ทั้งหมดโดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาให้ ที่เหลืออีกประมาณแสนกว่าล้านบาทนั้นจะเป็นเงินที่มาจากการขายข้าวในสต็อกรัฐบาลซึ่งกระทรวงพาณิชย์ปากจะขายข้าวได้ตามกำหนดอย่างแน่นอน เนื่องจากรวมแล้วคาดว่าจะต้องใช้เงินในการรับจำนำข้าวรอบใหม่ถึง 4.1 แสนล้านบาท หากจะต้องรับจำนำทุกเม็ด โดยในเรื่องนี้ยังมีการถกเถียงกันอยู่ก่อนที่จะนำเสนอเข้าครม.คาดว่าอาจเป็นวันที่ 21 ส.ค.นี้.
**DSIบุกตรวจข้าวคลังสินค้า**
วานนี้(16 ส.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลังสินค้ากลาง บจก.พี พี แอนด์ พี อินสเปคเตอร์ ริมถนนพหลโยธิน กม.75 เลขที่ 88 ม.1 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับ หัวหน้าสถานีตำรวจที่มีพื้นที่รับจำนำข้าว ร่วมกับพ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบช.สำนักคดีความมั่นคงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) พร้อมด้วยผู้เชี่ยชาญเฉพาะด้าน และผู้สื่อข่าวกว่า 200 คนได้เข้าตรวจคลังกลางเก็บข้าวสาร โดยมีเจ้าหน้าที่อคส. คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด กรมการค้าภายใน และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวนำตรวจ
เมื่อไปถึงโกดังคลังสินค้า ซึ่งมีขนาดใหญ่แบ่งเป็นโกดัง 5 โกดัง โดยเริ่มทำการตรวจที่โกดังหลังที่ 5 พบว่าประตูโกดังปิดอย่างสนิท ภายในโกดังทั้ง5 ได้เก็บข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554-2555 และการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2555 โดยแยกข้าวเปลือกนาปีเอาไว้ในโกดังที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 รวมข้าวสาร 316,000 กระสอบ ข้าวเปลือกนาปรัง เก็บไว้ที่โกดังที่ 1A ที่5 รวมข้าวสาร 317,686 กระสอบ
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันตรวจคลังกลางเก็บข้าวสารที่คลังนี้เป็นจุดแรก
สำหรับที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีโกดังที่เก็บข้าวสารอยู่ 3 แห่ง ที่ อ.วังน้อย อ.ภาชี และ อ.บางไทร ซึ่งจะต้องมีการไปตรวจสอบ ส่วนการตรวจวันนี้เท่าที่ดูขบวนการเก็บข้าวสาร การเรียงกระสอบ การแยกคุณภาพข้าวสาร เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังพบว่ามีระบบป้องกันการถูกสัตว์เข้ากินข้าวสาร เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ
นายวินัย เครือประดิษฐ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบการทุจริตการรับจำนำข้าว ซึ่งพบมีหลายกระบวนการการรวมทั้งการออกใบประทวนปลอมด้วยว่าที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ทำหน้าที่ในการจ่ายเงินตามใบประทวนที่ออกและรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับใบประทวนว่าปลอมหรือไม่ก็สามารถตรวจสอบไปยังต้นทางหรือผู้ออกได้ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินให้เกษตรกร ซึ่งทีผ่านมาส่วนใหญ่ใบประทวนที่นำมาขึ้นเงินก็มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ขั้นตอนการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำนั้นเบื้องต้นทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะทำหน้าที่ในการออกใบรับรองให้กับเกษตรกรว่าปลูกข้าวจริงหรือไม่และมีจำนวนเท่าในแต่ละปี จากนั้นเมื่อได้ผลผลิตเกษตรกรจะนำข้าวมาจำนำกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยผ่านโรงสี เพื่อรับฝากข้าวไว้และอคส.จะเป็นผู้รับรองออกใบประทวนให้ โดยยอมรับว่าเกษตรสามารถมีใบประทวนหลายใบต่อรายได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะนำข้าวไปจำนำช่วงใด
ส่วนจะมีการสวมสิทธิ์หรือว่ามีใบประทวนปลอมเป็นเรืองที่จะต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ทางดีเอสไอได้ขอข้อมูลของลูกค้าทุกรายที่เข้าโครงการเข้ามาที่สาขาของธ.ก.ส. ซึ่งธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินผ่านใบประทวนไปแล้วล่าสุด 1.46 แสนล้านบาทสำหรับข้าวฤดูการผลิต54/55 ปริมาณข้าว 9.6 ล้านตัน จากเป้าหมาย 9.89 ล้านตัน เป็นเงิน 1.467 แสนล้านบาท โดยอีก1 เดือนที่เหลือซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ก.ย.นี้ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย
สำหรับแนวทางการเปิดรับจำนำข้าวนาปรังรอบพิเศษนั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ไปแล้วรอเพียงเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาซึ่งจะมีปริมาณข้าวเข้ามาอีก 2 ล้านตัน ใช้เงิน 2 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่า การรับจำนำฤดูการผลิต 55/56 ที่จำเริ่มเดือน ต.ค.นี้ตามที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจะใช้เงินประมาณ 2.6 แสนล้านบาท สำหรับรับจำนำเข้าวนาปีและนาปรัง จำนวน 35 ล้านตันนั้น ในส่วนนี้ถือเป็นการใช้เงินกู้ทั้งหมดโดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาให้ ที่เหลืออีกประมาณแสนกว่าล้านบาทนั้นจะเป็นเงินที่มาจากการขายข้าวในสต็อกรัฐบาลซึ่งกระทรวงพาณิชย์ปากจะขายข้าวได้ตามกำหนดอย่างแน่นอน เนื่องจากรวมแล้วคาดว่าจะต้องใช้เงินในการรับจำนำข้าวรอบใหม่ถึง 4.1 แสนล้านบาท หากจะต้องรับจำนำทุกเม็ด โดยในเรื่องนี้ยังมีการถกเถียงกันอยู่ก่อนที่จะนำเสนอเข้าครม.คาดว่าอาจเป็นวันที่ 21 ส.ค.นี้.
**DSIบุกตรวจข้าวคลังสินค้า**
วานนี้(16 ส.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลังสินค้ากลาง บจก.พี พี แอนด์ พี อินสเปคเตอร์ ริมถนนพหลโยธิน กม.75 เลขที่ 88 ม.1 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับ หัวหน้าสถานีตำรวจที่มีพื้นที่รับจำนำข้าว ร่วมกับพ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบช.สำนักคดีความมั่นคงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) พร้อมด้วยผู้เชี่ยชาญเฉพาะด้าน และผู้สื่อข่าวกว่า 200 คนได้เข้าตรวจคลังกลางเก็บข้าวสาร โดยมีเจ้าหน้าที่อคส. คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด กรมการค้าภายใน และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวนำตรวจ
เมื่อไปถึงโกดังคลังสินค้า ซึ่งมีขนาดใหญ่แบ่งเป็นโกดัง 5 โกดัง โดยเริ่มทำการตรวจที่โกดังหลังที่ 5 พบว่าประตูโกดังปิดอย่างสนิท ภายในโกดังทั้ง5 ได้เก็บข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554-2555 และการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2555 โดยแยกข้าวเปลือกนาปีเอาไว้ในโกดังที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 รวมข้าวสาร 316,000 กระสอบ ข้าวเปลือกนาปรัง เก็บไว้ที่โกดังที่ 1A ที่5 รวมข้าวสาร 317,686 กระสอบ
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันตรวจคลังกลางเก็บข้าวสารที่คลังนี้เป็นจุดแรก
สำหรับที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีโกดังที่เก็บข้าวสารอยู่ 3 แห่ง ที่ อ.วังน้อย อ.ภาชี และ อ.บางไทร ซึ่งจะต้องมีการไปตรวจสอบ ส่วนการตรวจวันนี้เท่าที่ดูขบวนการเก็บข้าวสาร การเรียงกระสอบ การแยกคุณภาพข้าวสาร เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังพบว่ามีระบบป้องกันการถูกสัตว์เข้ากินข้าวสาร เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ