ASTVผู้จัดการรายวัน - ชาวพุทธหลั่งไหลทำบุญตักบาตรวันอาสาฬหบูชา ปภ.แนะ 3 พฤติกรรมลดเสี่ยงอุบัติเหตุวันหยุดเข้าพรรษา เตือน ผู้ขับขี่งดขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ ขณะที่เทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษาโคราช “พิมาย”เริ่มแล้ว โชว์ความวิจิตรงดงมของต้นเทียนพรรษา
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธรรมคติ วันอาสาฬหบูชา พ.ศ.2555 ความว่า เทศกาลอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา เป็นสองอภิลักขิตกาลทางพระพุทธศาสนาต่อเนื่องกัน คือ วันแสดงปฐมนิเทศของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และวันเข้าพรรษา คือ การหยุดยั้งอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ระหว่างกาลฝนของพระสงฆ์ เรียกว่า อยู่จำพรรษา
ในความสำคัญของปฐมเทศนา ที่เรียกว่า “ธรรมจักกัปปวัตนสูตร” ก็คือ ทางแสดงหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทาและอริยสัจสี่ พร้อมด้วยญาณ 3 และกิจ 4 ในอริยสัจสี่การอยู่จำพรรษา นอกจากจะพักอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือนแห่งฤดูฝนแล้ว ยังเป็นโอกาสให้พระภิกษุสามเณร ได้มีเวลาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม หรือฟังคำสอนของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา ก็ควรที่จะปฏิบัติตนตามแนวของพระสงฆ์ คือ ควรอยู่ในธรรมตลอด 3 เดือน ดุจการอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์ โดยดำรงตนอยู่ในการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามความสามารถ ก็จะสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมามกะหรือพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม ประสบสันติสุขทั่วกัน ขออำนวยพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าพุทธศาสนิกชนต่างพากันร่วมใจทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เนื่องในอาสาฬหบูชา รวมถึงวันเข้าพรรษา โดยที่บรรยากาศวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตร กันอย่างเนืองแน่น
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ขับขี่เดินทางไกลช่วงวันหยุดเข้าพรรษาเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ดังนี้ "ขับรถเร็ว "เมาแล้วขับ" และ "ง่วงแล้วขับ" โดยแนะนำหลักปฏิบัติ ดังนี้ 1.ไม่ขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. และใช้ความเร็วให้เหมาะกับสภาพถนนและสัมพันธ์กับระยะในการมองเห็นเส้นทาง 2.หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรขับรถด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด และ 3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน
โคราชคึกคัก!โชว์ความงามต้นเทียน
ขณะที่เทศกาลงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดนครราชสีมาเริ่มขึ้นแล้ว วานนี้ (2 ส.ค.) โดยในแต่ละอำเภอยกเว้นอ.เมืองนครราชสีมา ต่างได้จัดประเพณีแห่เทียนพรรษาขึ้นอย่างคึกคัก ก่อนนำขบวนต้นเทียนจากวัดต่างๆของแต่ละอำเภอ เดินทางเข้าร่วมประกวดในงานประเพณีเทียนเข้าพรรษา จ.นครราชสีมา ประจำปี 2555 ที่ทางทางเทศบาลนครนครราชสีมา จัดขึ้นที่บริเวณรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมาในวันที่ 3-4 ส.ค. นี้
โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายวิจิตร สายเชื้อ นายอำเภอพิมาย ได้เป็นประธานเปิดงาน ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2555 อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่บริเวณลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยมีนาย ดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย พร้อมประชาชนชาวอำเภอพิมายและใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานจำนวนมาก ก่อนแห่ขบวนต้นเทียนไปรอบเมืองพิมาย เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามอย่างใกล้ชิด
สำหรับการประกวดต้นเทียนแบ่งเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย เทียนพรรษาประเภท ก. มีวัดส่งเข้าประกวด 3แห่ง ได้แก่ วัดสระเพลง , วัดบูรพาพิมล , วัดเดิม และ เทียนพรรษาประเภท ข. มีวัดส่งต้นเทียนเข้าประกวด 2 แห่งคือ วัดเก่าประตูชัย และ ชุมชนสระสามัคคี โดยต้นเทียนพรรษาที่ช่างเทียนร่วมกันประดิษฐ์ตกแต่ง ส่วนใหญ่เน้นถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวพุทธประวัติ คำสั่งสอนพระพุทธเจ้าที่พุทธศาสนิกชนได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาทั้งนี้ งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของ อ.พิมาย ได้จัดขึ้นเพียงวันเดียว
อีกด้าน นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานเสริมบุญสร้างบารมีแห่เทียนโคราช 2555 ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
แต่สิ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวภายในงานมากที่สุดก็คือ เทียนพรรษารูปบุคคลดังต่างๆ เช่น อารามบอย ส่วนเทียนพรรษาล้อการเมือง ชุด ไทยทานิคที่เคยแกะสลักเป็นรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านยืนด้านหลังกอดเอว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้นล่าสุดได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบมีเพียงรูปนางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนกางแขนอยู่บนหัวเรือเพียงคนเดียวเท่านั้น
โดยวันที่ 3 ส.ค. 55 เวลา 09.00 น. จะมีการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆไปตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นระยะทางรวมกว่า 7 กิโลเมตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามอลังการกว่า 70 ต้น และมีขบวนแห่เข้าร่วมประกวดกว่า 10 ขบวน ซึ่งขบวนเทียนที่ชนะเลิศในประเภท ก. และประเภท ข. จะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธรรมคติ วันอาสาฬหบูชา พ.ศ.2555 ความว่า เทศกาลอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา เป็นสองอภิลักขิตกาลทางพระพุทธศาสนาต่อเนื่องกัน คือ วันแสดงปฐมนิเทศของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และวันเข้าพรรษา คือ การหยุดยั้งอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ระหว่างกาลฝนของพระสงฆ์ เรียกว่า อยู่จำพรรษา
ในความสำคัญของปฐมเทศนา ที่เรียกว่า “ธรรมจักกัปปวัตนสูตร” ก็คือ ทางแสดงหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทาและอริยสัจสี่ พร้อมด้วยญาณ 3 และกิจ 4 ในอริยสัจสี่การอยู่จำพรรษา นอกจากจะพักอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือนแห่งฤดูฝนแล้ว ยังเป็นโอกาสให้พระภิกษุสามเณร ได้มีเวลาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม หรือฟังคำสอนของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา ก็ควรที่จะปฏิบัติตนตามแนวของพระสงฆ์ คือ ควรอยู่ในธรรมตลอด 3 เดือน ดุจการอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์ โดยดำรงตนอยู่ในการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามความสามารถ ก็จะสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมามกะหรือพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม ประสบสันติสุขทั่วกัน ขออำนวยพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าพุทธศาสนิกชนต่างพากันร่วมใจทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เนื่องในอาสาฬหบูชา รวมถึงวันเข้าพรรษา โดยที่บรรยากาศวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตร กันอย่างเนืองแน่น
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ขับขี่เดินทางไกลช่วงวันหยุดเข้าพรรษาเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ดังนี้ "ขับรถเร็ว "เมาแล้วขับ" และ "ง่วงแล้วขับ" โดยแนะนำหลักปฏิบัติ ดังนี้ 1.ไม่ขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. และใช้ความเร็วให้เหมาะกับสภาพถนนและสัมพันธ์กับระยะในการมองเห็นเส้นทาง 2.หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรขับรถด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด และ 3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน
โคราชคึกคัก!โชว์ความงามต้นเทียน
ขณะที่เทศกาลงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดนครราชสีมาเริ่มขึ้นแล้ว วานนี้ (2 ส.ค.) โดยในแต่ละอำเภอยกเว้นอ.เมืองนครราชสีมา ต่างได้จัดประเพณีแห่เทียนพรรษาขึ้นอย่างคึกคัก ก่อนนำขบวนต้นเทียนจากวัดต่างๆของแต่ละอำเภอ เดินทางเข้าร่วมประกวดในงานประเพณีเทียนเข้าพรรษา จ.นครราชสีมา ประจำปี 2555 ที่ทางทางเทศบาลนครนครราชสีมา จัดขึ้นที่บริเวณรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมาในวันที่ 3-4 ส.ค. นี้
โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายวิจิตร สายเชื้อ นายอำเภอพิมาย ได้เป็นประธานเปิดงาน ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2555 อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่บริเวณลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยมีนาย ดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย พร้อมประชาชนชาวอำเภอพิมายและใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานจำนวนมาก ก่อนแห่ขบวนต้นเทียนไปรอบเมืองพิมาย เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามอย่างใกล้ชิด
สำหรับการประกวดต้นเทียนแบ่งเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย เทียนพรรษาประเภท ก. มีวัดส่งเข้าประกวด 3แห่ง ได้แก่ วัดสระเพลง , วัดบูรพาพิมล , วัดเดิม และ เทียนพรรษาประเภท ข. มีวัดส่งต้นเทียนเข้าประกวด 2 แห่งคือ วัดเก่าประตูชัย และ ชุมชนสระสามัคคี โดยต้นเทียนพรรษาที่ช่างเทียนร่วมกันประดิษฐ์ตกแต่ง ส่วนใหญ่เน้นถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวพุทธประวัติ คำสั่งสอนพระพุทธเจ้าที่พุทธศาสนิกชนได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาทั้งนี้ งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของ อ.พิมาย ได้จัดขึ้นเพียงวันเดียว
อีกด้าน นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานเสริมบุญสร้างบารมีแห่เทียนโคราช 2555 ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
แต่สิ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวภายในงานมากที่สุดก็คือ เทียนพรรษารูปบุคคลดังต่างๆ เช่น อารามบอย ส่วนเทียนพรรษาล้อการเมือง ชุด ไทยทานิคที่เคยแกะสลักเป็นรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านยืนด้านหลังกอดเอว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้นล่าสุดได้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบมีเพียงรูปนางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนกางแขนอยู่บนหัวเรือเพียงคนเดียวเท่านั้น
โดยวันที่ 3 ส.ค. 55 เวลา 09.00 น. จะมีการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาจากคุ้มวัดต่างๆไปตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นระยะทางรวมกว่า 7 กิโลเมตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามอลังการกว่า 70 ต้น และมีขบวนแห่เข้าร่วมประกวดกว่า 10 ขบวน ซึ่งขบวนเทียนที่ชนะเลิศในประเภท ก. และประเภท ข. จะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท