เอเจนซีส์ – กองกำลังของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์กราดยิงพื้นที่ที่กลุ่มกบฏยึดครองในเมืองอะเลปโป ในการต่อสู้ครั้งใหญ่วันที่ 3 ซึ่งส่งผลให้ชาวเมืองราว 200,000 คนต้องอพยพหนีตาย ขณะฝรั่งเศสเตรียมหาทางจัดประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเพื่อหยุดยั้งสิ่งที่ฝ่ายตะวันตกเรียกว่า “การสังหารหมู่” ในซีเรีย แต่จากการที่รัสเซียกับจีนมีท่าทีคัดค้านขัดขวางความพยายามฝ่ายตะวันตกซึ่งปรารถนาจะช่วยเหลือฝ่ายกบฎและกดดันให้อัสซาดลงจากอำนาจ ทำให้เรื่องนี้ยังคงไม่มีอะไรแน่นอน
คณะกรรมการการปฏิวัติซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มกบฎกลุ่มหนึ่ง แถลงเมื่อวันจันทร์ (30) ว่าการโจมตีของกองทัพซีเรียพุ่งเป้าไปที่เขตซาลาเฮดดิน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพปลดแอกซีเรีย (เอฟเอสเอ) อันเป็นกลุ่มกบฎติดอาวุธ
ขณะที่ พันเอกอับเดล จาบบาร์ อัล-โอเกดี ผู้บัญชาการเอฟเอสเอในอะเลปโป เมืองอันดับ 2 และเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของซีเรีย สำทับว่า หลายพื้นที่ในเมืองถูกถล่มจากเครื่องบินขับไล่มิกและเฮลิคอปเตอร์
ด้านคณะกรรมการการประสานงานท้องถิ่นซึ่งประกอบด้วยนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เสริมว่าย่านซาคูร์ทางตะวันออกถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่และปืนกล รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ลายพรางทหาร
ขณะเดียวกัน ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ อันเป็นองค์กรของฝ่ายคัดค้านรัฐบาลเช่นกัน ระบุว่า มีการปะทะระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มกบฏตั้งแต่เช้าตรู่วันจันทร์ใกล้กับสำนักงานหน่วยข่าวกรองกองทัพอากาศในเขตซาฮราของอะเลปโป
ด้านนอกของอะเลปโป กลุ่มกบฏตั้งจุดตรวจ ห่างจากอะเลปโปไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 5 กิโลเมตรตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ หรือหลังการปะทะกับกองกำลังรัฐบาลนาน 10 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมเส้นทางระหว่างชายแดนตุรกีกับเมืองหลวงทางธุรกิจของซีเรียแห่งนี้ได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวภาคสนามของเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏยึดรถถังและรถหุ้มเกราะได้ 7 คัน และทำลายทิ้งอีก 8 คัน ขณะที่นายพลเฟอร์ซัต อับเดล นาสเซอร์ ที่แปรพักตร์จากกองทัพซีเรียมาร่วมกับกลุ่มกบฏเมื่อเดือนที่แล้ว เผยว่ามีทหารเสียชีวิต 6 นาย และถูกจับกุม 25 นาย ขณะที่สมาชิกกลุ่มกบฏเสียชีวิต 4 คน
ทางด้านกองทัพซีเรียอ้างว่าสามารถยึดคืนบางส่วนของเขตซาลาเฮดดิน ในระหว่างการสู้รบคืนวันอาทิตย์ (29) นอกจากนี้ วาลิด มูอาเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ยังประกาศระหว่างเยือนอิหร่านว่า กลุ่มกบฏจะต้องพ่ายแพ้ในอะเลปโปเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในดามัสกัส
ทว่า พันเอกโอเกดีออกมาปฏิเสธทันทีว่า กองทัพรัฐบาลไม่สามารถรุกคืบแม้แต่เมตรเดียว พร้อมกับคุยว่า นับจากเปิดฉากการต่อสู้ในวันเสาร์ (28) เอฟเอสเอสามารถยึดครองพื้นที่ในอะเลปโปราว 35-40%
ที่นิวยอร์ก วาเลอรี เอมอส ผู้อำนวยการโครงการด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีประชาชนราว 200,000 คนหนีออกจากอะเลปโปในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และติดอยู่ในเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคนเหล่านี้ที่พากันไปหลบในโรงเรียนและอาคารรัฐบาลต้องการอาหาร ที่นอน ผ้าห่ม ยา และน้ำดื่มโดยเร่งด่วน ทว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วซีเรียทำให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรมไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้
ทางด้านลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่าประธานาธิบดีอัสซาด กำลังตอกตะปูปิดฝาโลงตัวเองหากยังทำสงครามกวาดล้างประชาชนในอะเลปโปต่อไป
ที่ปารีส ลอว์รองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ฝรั่งเศสซึ่งจะหมุนเวียนรับตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นในเดือนหน้า จะเรียกประชุมฉุกเฉินระดับรัฐมนตรีเพื่อหาทางหยุดยั้งระบอบอัสซาดจากการสังหารหมู่ในซีเรีย
จากข้อมูลของอ็อบเซอร์วาทอรี มีผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 คนนับจากชาวซีเรียลุกขึ้นต่อต้านระบอบอัสซาดในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่อาจตรวจสอบยืนยันได้ ขณะที่ยูเอ็นได้ยุติการนับจำนวนผู้เสียชีวิตแล้ว
คณะกรรมการการปฏิวัติซีเรีย ซึ่งเป็นกลุ่มกบฎกลุ่มหนึ่ง แถลงเมื่อวันจันทร์ (30) ว่าการโจมตีของกองทัพซีเรียพุ่งเป้าไปที่เขตซาลาเฮดดิน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพปลดแอกซีเรีย (เอฟเอสเอ) อันเป็นกลุ่มกบฎติดอาวุธ
ขณะที่ พันเอกอับเดล จาบบาร์ อัล-โอเกดี ผู้บัญชาการเอฟเอสเอในอะเลปโป เมืองอันดับ 2 และเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของซีเรีย สำทับว่า หลายพื้นที่ในเมืองถูกถล่มจากเครื่องบินขับไล่มิกและเฮลิคอปเตอร์
ด้านคณะกรรมการการประสานงานท้องถิ่นซึ่งประกอบด้วยนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เสริมว่าย่านซาคูร์ทางตะวันออกถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่และปืนกล รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ลายพรางทหาร
ขณะเดียวกัน ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ อันเป็นองค์กรของฝ่ายคัดค้านรัฐบาลเช่นกัน ระบุว่า มีการปะทะระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มกบฏตั้งแต่เช้าตรู่วันจันทร์ใกล้กับสำนักงานหน่วยข่าวกรองกองทัพอากาศในเขตซาฮราของอะเลปโป
ด้านนอกของอะเลปโป กลุ่มกบฏตั้งจุดตรวจ ห่างจากอะเลปโปไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 5 กิโลเมตรตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ หรือหลังการปะทะกับกองกำลังรัฐบาลนาน 10 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมเส้นทางระหว่างชายแดนตุรกีกับเมืองหลวงทางธุรกิจของซีเรียแห่งนี้ได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวภาคสนามของเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏยึดรถถังและรถหุ้มเกราะได้ 7 คัน และทำลายทิ้งอีก 8 คัน ขณะที่นายพลเฟอร์ซัต อับเดล นาสเซอร์ ที่แปรพักตร์จากกองทัพซีเรียมาร่วมกับกลุ่มกบฏเมื่อเดือนที่แล้ว เผยว่ามีทหารเสียชีวิต 6 นาย และถูกจับกุม 25 นาย ขณะที่สมาชิกกลุ่มกบฏเสียชีวิต 4 คน
ทางด้านกองทัพซีเรียอ้างว่าสามารถยึดคืนบางส่วนของเขตซาลาเฮดดิน ในระหว่างการสู้รบคืนวันอาทิตย์ (29) นอกจากนี้ วาลิด มูอาเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ยังประกาศระหว่างเยือนอิหร่านว่า กลุ่มกบฏจะต้องพ่ายแพ้ในอะเลปโปเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในดามัสกัส
ทว่า พันเอกโอเกดีออกมาปฏิเสธทันทีว่า กองทัพรัฐบาลไม่สามารถรุกคืบแม้แต่เมตรเดียว พร้อมกับคุยว่า นับจากเปิดฉากการต่อสู้ในวันเสาร์ (28) เอฟเอสเอสามารถยึดครองพื้นที่ในอะเลปโปราว 35-40%
ที่นิวยอร์ก วาเลอรี เอมอส ผู้อำนวยการโครงการด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีประชาชนราว 200,000 คนหนีออกจากอะเลปโปในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และติดอยู่ในเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคนเหล่านี้ที่พากันไปหลบในโรงเรียนและอาคารรัฐบาลต้องการอาหาร ที่นอน ผ้าห่ม ยา และน้ำดื่มโดยเร่งด่วน ทว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วซีเรียทำให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรมไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้
ทางด้านลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่าประธานาธิบดีอัสซาด กำลังตอกตะปูปิดฝาโลงตัวเองหากยังทำสงครามกวาดล้างประชาชนในอะเลปโปต่อไป
ที่ปารีส ลอว์รองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ฝรั่งเศสซึ่งจะหมุนเวียนรับตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นในเดือนหน้า จะเรียกประชุมฉุกเฉินระดับรัฐมนตรีเพื่อหาทางหยุดยั้งระบอบอัสซาดจากการสังหารหมู่ในซีเรีย
จากข้อมูลของอ็อบเซอร์วาทอรี มีผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 คนนับจากชาวซีเรียลุกขึ้นต่อต้านระบอบอัสซาดในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่อาจตรวจสอบยืนยันได้ ขณะที่ยูเอ็นได้ยุติการนับจำนวนผู้เสียชีวิตแล้ว