xs
xsm
sm
md
lg

มือปืน'แบตแมน'ส่งพัสดุถึงจิตแพทย์ แจงรายละเอียด-ภาพร่างแผนสังหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ – เผยผู้ต้องหากราดยิงในโรงหนังมลรัฐโคโลราโด ขณะฉาย “แบตแมน” ได้ส่งสมุดโน้ตแจงรายละเอียดแผนสังหารหมู่ให้จิตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยก่อนลงมือ ด้านโอบามาประกาศผลักดันมาตรการ “สามัญสำนึก” เพื่อควบคุมอาวุธปืนและลดโอกาสเกิดเหตุการณ์รุนแรง
ฟ็อกซ์นิวส์.คอมรายงานเมื่อวันพุธ (25) โดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายว่า พัสดุที่เจมส์ อีแกน โฮล์มส์ ผู้ต้องหาวัย 24 ปี ส่งไปถึงห้องไปรษณีย์ของมหาวิทยาลัยโคโลราโดตั้งแต่วันที่ 12 เดือนนี้ แต่เพิ่งจะถูกเปิดออกดูหลังจากค้นพบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23)
รายงานแจงว่า ในวันดังกล่าว ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ถูกเรียกตัวไปยังวิทยาลัยแพทย์แอนชูลซ์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด ในเมืองออโรรา หลังจากจิตแพทย์ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย เผยว่าได้รับพัสดุที่เชื่อว่ามาจากโฮล์มส์
แม้พัสดุดังกล่าวกลับกลายเป็นของบุคคลอื่นและไม่มีอันตรายใดๆ แต่จากการตรวจค้นห้องไปรษณีย์เพิ่มเติมพบพัสดุอีกกล่องที่ส่งถึงจิตแพทย์ผู้นั้นโดยลงที่อยู่ส่งกลับในชื่อโฮล์มส์
แหล่งข่าวเผยว่า ภายในพัสดุนั้นมีสมุดโน้ตที่เต็มไปด้วยรายละเอียดวิธีการสังหารหมู่ รวมทั้งภาพร่างและภาพประกอบ
ฟ็อกซ์ไม่ได้ระบุตัวจิตแพทย์ผู้นั้น ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันข่าวนี้ได้ ทางด้านโฆษกเอฟบีไอสาขาเมืองเดนเวอร์ ระบุว่า เอฟบีไอไม่สามารถบอกรายละเอียดในกระบวนการสืบสวนได้ เนื่องจากผู้พิพากษาในดคีนี้ได้ออกคำสั่งจำกัดขอบเขตข้อมูลที่ทนายและตำรวจจะสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชน
ฌาค มอนต์โกเมอรี โฆษกมหาวิทยาลัยยืนยันในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า พัสดุต้องสงสัยส่งถึงวิทยาเขตทางไปรษณีย์เมื่อวันที่ 23 นี้ และได้รับการตรวจสอบทันทีและส่งให้เจ้าหน้าที่ภายในไม่กี่ชั่วโมง ไม่ใช่ส่งมาตั้งแต่วันที่ 12 และค้างอยู่ในห้องไปรษณีย์อย่างที่ฟ็อกซ์รายงาน
ทั้งนี้ โฮล์มส์ นักศึกษาปริญญาเอกสาขาประสาทวิทยา ของแอนชูลซ์ กระทั่งทำเรื่องขอลาออกในเดือนมิถุนายนนั้น ได้สวมเสื้อเกราะและหน้ากากป้องกันก๊าซพิษ รวมทั้งพกปืน 3 กระบอกเข้าไปกราดยิงในโรงหนังแห่งหนึ่งในเมืองออโรรา ขณะฉายภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ ดาร์ก ไนต์ ไรส์” รอบเที่ยงคืน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บ 58 คน
โฮล์มส์ที่ถูกจับกุมทันทีหลังก่อเหตุ ปรากฏตัวในศาลครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในสภาพซึมเซาและสับสน โดยเจ้าหน้าที่เตรียมตั้งข้อกล่าวหาเขาอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 นี้
เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นการโต้เถียงประเด็นการควบคุมอาวุธปืนในอเมริกาอีกครั้ง โดยในวันพุธ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศจะใช้มาตรการ “สามัญสำนึก” เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีสภาพจิตไม่ปกติจะไม่สามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้
ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุถึงกฎหมายและมาตรการใดๆ เป็นการเฉพาะเจาะจง แต่กล่าวว่า จะร่วมมือกับทุกฝ่ายในคองเกรสเพื่อบรรลุฉันทามติในการลดโอกาสเกิดเหตุการณ์รุนแรง
รายงานระบุว่า โฮล์มส์ใช้เวลา 8 สัปดาห์สั่งซื้อกระสุน 6,300 นัดสำหรับปืนยาวกึ่งอัตโนมัติเออาร์-15 และปืนพกกล็อกอีก 2 กระบอก และกระสุน 3,000 ปลอกสำหรับปืนลูกซองแบบโยนลำ ทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งซื้อนิตยสารพิเศษสำหรับปืนเออาร์-15 ที่ให้ข้อมูลในการยิงเร็วนาทีละ 50-60 นัด
โอบามาสำทับว่า ได้สั่งให้เพิ่มความเคร่งครัดในการตรวจสอบภูมิหลังผู้ซื้ออาวุธปืน หลังเหตุกราดยิงในแอริโซนาที่มีผู้เสียชีวิต 6 คน และแก็บบี้ กิฟฟอร์ดส ส.ส.พรรคเดโมแครตได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อปีที่แล้ว
โอบามาเสริมว่า มาตรการเหล่านี้ยังไม่ถือว่าเพียงพอ กระนั้น การพยายามผลักดันขั้นตอนอื่นๆ เพื่อลดเหตุการณ์รุนแรงได้รับการต่อต้านอย่างมากภายในสภา โดยเฉพาะเมื่อเป็นประเด็นในการควบคุมอาวุธปืน
“ผมเชื่อว่า ผู้ที่มีปืนในครอบครองส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า เราควรทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้อาชญากรและผู้ลี้ภัยสามารถซื้ออาวุธปืน เราควรตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนที่คนพวกนั้นจะเดินเข้าไปซื้อปืน
"ผู้วิกลจริตต้องไม่สามารถเข้าถึงปืนได้ง่ายๆ ขั้นตอนป้องกันเหล่านี้ไม่ควรมีการโต้เถียง แต่ควรเป็นขั้นตอนที่มาจากสามัญสำนึก”
วันอังคาร (24) สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครตกลุ่มหนึ่งพยายามผลักดันการแบนนิตยสารเกี่ยวกับอาวุธโจมตีและปืนประสิทธิภาพสูง แต่ดูเหมือนผู้นำในสภาไม่เต็มใจแตะต้องประเด็นอ่อนไหวนี้ แม้กลุ่มผู้สนับสนุนมาตรการควบคุมอาวุธปืนระบุว่า อเมริกามีแนวโน้มเผชิญเหตุกราดยิงมากกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากกฎหมายในหลายรัฐมีการผ่อนปรนมากเกินไปก็ตาม
กลุ่มคนเหล่านี้ผิดหวังกับโอบามา ทว่า ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองมองว่า หากโอบามาผลักดันประเด็นนี้ในขณะนี้จะเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน
ทางด้านกลุ่มล็อบบี้ สมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (เอ็นแอลเอ) เป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลทุนหนาในวอชิงตัน โต้แย้งว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทำเรื่องบ้าคลั่ง และการจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของอเมริกันชนไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ
นอกจากนี้ ในสนามเลือกตั้งสำคัญหลายแห่ง เช่น โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย และเวอร์จิเนีย ล้วนเป็นรัฐที่ประชาชนสนับสนุนสิทธิในการครอบครองปืน
กำลังโหลดความคิดเห็น