ASTVผู้จัดการรายวัน-- "เด็จพี่" เตรียมทำหนังสือถึง รมว.กลาโหม - ผบ.โรงเรียนนายร้อยจปร. ตรวจสอบเอกสาร"มาร์ค" สมัครเป็นอาจารย์ หากเป็นเอกสารเท็จ ต้องถูกสอยหลุดสถานภาพส.ส. "มาร์ค"อัดรัฐบาลหวังผลทางการเมือง ด้าน"โอ๊ค"ร้อนตัว!! โร่โพสต์ fb ยันเรียน รด.ได้ยศสิบตรี
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขู่ฟ้องบุคคลที่ตรวจสอบการหนีทหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เหมือนคนกินปูนร้อนท้อง ปกป้องพวกเดียวกัน ไม่สนใจข้อเท็จจริง การพยายามโยงเรื่องเป็นประเด็นการเมือง เป็นการกลบเกลื่อนความจริง
ทั้งนี้ ตนจะทำหนังสือถึง รมว.กลาโหม และ ผบ.โรงเรียนนายร้อยจปร. ให้ตรวจสอบเอกสารการสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. ของนายอภิสิทธิ์ ว่าเป็นเอกสารเท็จหรือไม่ เพราะดูแล้วน่าจะเป็นการฟอกขาวเพื่อหนีทหาร ถ้าเป็นเอกสารเท็จ ก็ต้องแก้ไขการลาออกจากโรงเรียนนายร้อยจปร. ของนายอภิสิทธิ์ เป็นการปลดออก ซึ่งจะทำให้นายอภิสิทธิ์ มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญทันที ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นส.ส. หรือรัฐมนตรีได้ แต่ถ้ารมว.กลาโหม และผบ.โรงเรียนนายร้อยจปร. ไม่ยอมตรวจสอบ ก็จะเจอข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ จะขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคดีนี้ เหมือนที่ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย อย่าเตะถ่วง
** ท้า"มาร์ค"เอา สด.41 มายืนยัน
นายกมล บันไดเพชร ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนขอท้าให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ ไปออกทีวี ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมกันเมื่อไร ก็ได้
" เอกสารที่นายศิริโชคนำมายืนยัน แล้วบอกว่าเป็นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหารนั้น เป็นเพียง สด.20 คือเป็นบัญชีแสดงรายชื่อผู้ได้รับการผ่อนผัน แต่ไม่ใช่หนังสือการได้รับการอนุญาตการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หรือ สด.41 ซึ่งขั้นตอนการออกหนังสือดังกล่าว เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด"
ทั้งนี้ นายกมล ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ ไปสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. เจ้ากรมสารบัญทหารบก ได้ทำหนังสือถึงเจ้ากรมกำลังพล ทหารบก เพื่อขอหลักฐานการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ถึงสองครั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถหาได้ จึงได้รับ หนังสือรับรองเพื่อยืนยันถึงการได้รับการผ่อนผัน ไม่ถูกเรียกเข้ากองประจำการ ในยามปกติ ลงวันที่ 31 ก.ค. 2530 ลงนามโดยผู้ช่วยสัสดีกรุงเทพมหานคร ทำการแทนสัสดีกรุงเทพมหานคร ก่อนเข้าจะได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ เพียง 7 วัน ซึ่งกล้ายืนยันว่า หนังสือรับรองดังกล่าว เป็นเอกสารปลอม เพราะ
1. หนังสือรับรองเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการออกหนังสือ ไม่ใช่สัสดี 2. ในเอกสารดังกล่าวเขียนชื่อมารดา ของนายอภิสิทธิ์ ผิด จากนางสดใส เป็น นางสดใจ และ 3. ตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติหากได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารจริง เหตุใดจึงไม่คัดสำเนาเพื่อนำไปแสดง แต่กลับทำหนังสือรับรองแทน และยังเป็นการนำฉบับจริงไปแสดง ทั้งที่กรณีเช่นนี้โดยปกติจะเป็นการคัดสำเนาไปยื่น
** "มาร์ค"เมินคำท้า บอกแจงจนเบื่อ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีที่มีการท้าให้เอาหลักฐานมาพิสูจน์ ว่าไม่ได้มีการหนีการเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่า ทุกอย่างเป็นคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว ตนจะพูดอะไรต้องระมัดระวังที่จะไม่เข้าไปก้าวล่วงอำนาจศาล เพราะตนเป็นคู่ความ และพยานต่างๆ ก็มีโอกาสไปให้ความต่อศาลแล้ว การแสดงความเห็นเรื่องนี้อาจจะมีการละเมิดศาลได้ แต่ยืนยันว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นไปตามการแถลงข่าวของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ทุกอย่าง ไม่ต้องมาท้าทายอะไร เพราะเอกสารทุกอย่างยื่นต่อศาลไปหมดแล้ว และเป็นเอกสารทางราชการด้วย ฝ่ายผู้กล่าวหาก็อยู่ในฐานะรัฐบาล มีอำนาจตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่ตรวจสอบ และเอกสารที่อีกฝ่ายเอามาอ้าง ก็ไม่รู้เอามาจากไหน
ส่วนบทบาทของกระทรวงกลาโหม ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะอ้างว่ามีการยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว ตนก็จะไม่ไปก้าวล่วง แต่ก็ตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่า เรื่องทั้งหมดมาเกิดในช่วงที่มีการสืบพยานในคดีนี้ แม้กระทั่งการเริ่มต้นเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ก็หลังจากมีการประทับรับฟ้องคดีนี้
นายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าการออกมาพูดในเรื่องนี้ คงเป็นความตั้งใจหวังผลทางการเมือง ซึ่งเป็นปกติของฝ่ายตรงข้าม ที่จะทำได้ แต่ตนยืนยันว่า ข้อเท็จจริงทุกอย่างมีการชี้แจงไปหมดแล้วหลายรอบ และก็ได้ใช้สิทธิ์ฟ้องร้องทางศาลไปแล้ว
ส่วนจะมีการฟ้องร้องบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ก็กำลังรวบรวมข้อมูล และพิจารณาอยู่ เพราะเห็นใจทนาย ที่มีงานเยอะอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของ นายกมล บันไดเพชร ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ จากที่เคยทำเรื่องนี้มายาวนาน และมีการชี้แจงไปหมดแล้ว
**ครั้งนี้ชัด"มาร์ค"หนี-ไม่หนีทหาร
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้อเท็จจริงเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า การตรวจสอบครั้งนี้ คงจะเรียบร้อยแล้ว แต่โดยส่วนตัวยังไม่เห็นหลักฐาน คงต้องดูรายละเอียดก่อน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ตนมีชื่อที่จะถูกปรับออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในการปรับครม.ครั้งต่อไปนั้น ตนไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่เป็นห่วง และไม่กังวลเลย หากจะต้องถูกปรับออก เพราะตนมีงานทำตลอด
***"โอ๊ค"ร้อนตัวยันเรียน รด.ได้ยศสิบตรี
ด้าน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า แฟนเพจอยากให้เขียนเรื่องหนีทหาร พร้อมอ้างว่า คนเสื้อแดงต่างรู้เรื่องดังกล่าวดีว่าเป็นอย่างไร เพราะเคยมีประสบการณ์ช่วงสลายการชุมนุม แต่ที่เอ่ยถึงในที่นี้หมายถึงการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร พร้อมระบุ มีคุณลุงหนึ่งท่านในแฟนเพจ แฉรายละเอียดเรื่องหนีทหาร เมื่อ 20 ปีก่อน ว่าทำกันอย่างไรให้ได้ทราบ ซึ่งหลังกลับจากทัวร์ "เยี่ยมคนแดนไกล แบบไม่มีอภิสิทธิ์ชน กับพานทองแท้" ที่ฮ่องกง ใน 2-3 วันนี้ จะได้ทราบกันว่าเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ นายพานทองแท้ ยังระบุว่า รู้สึกโชคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลี้ยงดูแบบลูกชาวบ้านทั่วไป รวมถึงไม่เคยสอนให้มักใหญ่ใฝ่สูง และยังสอนให้รับใช้ชาติด้วยการเกณฑ์ทหาร และเรียน รด. พร้อมเผยว่า เรียน รด. 3 ปี ได้ยศสิบตรี พานทองแท้ พ่อแม่ยังภาคภูมิใจกว่า ที่จะถูกคนตราหน้าว่าหนีทหาร
นอกจากนี้ นายพานทองแท้ ยังได้นำเอกสารทางราชการว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือกทหาร ออกมาเปิดเผยอีกด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขู่ฟ้องบุคคลที่ตรวจสอบการหนีทหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เหมือนคนกินปูนร้อนท้อง ปกป้องพวกเดียวกัน ไม่สนใจข้อเท็จจริง การพยายามโยงเรื่องเป็นประเด็นการเมือง เป็นการกลบเกลื่อนความจริง
ทั้งนี้ ตนจะทำหนังสือถึง รมว.กลาโหม และ ผบ.โรงเรียนนายร้อยจปร. ให้ตรวจสอบเอกสารการสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. ของนายอภิสิทธิ์ ว่าเป็นเอกสารเท็จหรือไม่ เพราะดูแล้วน่าจะเป็นการฟอกขาวเพื่อหนีทหาร ถ้าเป็นเอกสารเท็จ ก็ต้องแก้ไขการลาออกจากโรงเรียนนายร้อยจปร. ของนายอภิสิทธิ์ เป็นการปลดออก ซึ่งจะทำให้นายอภิสิทธิ์ มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญทันที ไม่ครบองค์ประกอบที่จะเป็นส.ส. หรือรัฐมนตรีได้ แต่ถ้ารมว.กลาโหม และผบ.โรงเรียนนายร้อยจปร. ไม่ยอมตรวจสอบ ก็จะเจอข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ จะขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคดีนี้ เหมือนที่ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย อย่าเตะถ่วง
** ท้า"มาร์ค"เอา สด.41 มายืนยัน
นายกมล บันไดเพชร ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนขอท้าให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ ไปออกทีวี ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมกันเมื่อไร ก็ได้
" เอกสารที่นายศิริโชคนำมายืนยัน แล้วบอกว่าเป็นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหารนั้น เป็นเพียง สด.20 คือเป็นบัญชีแสดงรายชื่อผู้ได้รับการผ่อนผัน แต่ไม่ใช่หนังสือการได้รับการอนุญาตการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หรือ สด.41 ซึ่งขั้นตอนการออกหนังสือดังกล่าว เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด"
ทั้งนี้ นายกมล ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ ไปสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. เจ้ากรมสารบัญทหารบก ได้ทำหนังสือถึงเจ้ากรมกำลังพล ทหารบก เพื่อขอหลักฐานการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ถึงสองครั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถหาได้ จึงได้รับ หนังสือรับรองเพื่อยืนยันถึงการได้รับการผ่อนผัน ไม่ถูกเรียกเข้ากองประจำการ ในยามปกติ ลงวันที่ 31 ก.ค. 2530 ลงนามโดยผู้ช่วยสัสดีกรุงเทพมหานคร ทำการแทนสัสดีกรุงเทพมหานคร ก่อนเข้าจะได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ เพียง 7 วัน ซึ่งกล้ายืนยันว่า หนังสือรับรองดังกล่าว เป็นเอกสารปลอม เพราะ
1. หนังสือรับรองเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการออกหนังสือ ไม่ใช่สัสดี 2. ในเอกสารดังกล่าวเขียนชื่อมารดา ของนายอภิสิทธิ์ ผิด จากนางสดใส เป็น นางสดใจ และ 3. ตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติหากได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารจริง เหตุใดจึงไม่คัดสำเนาเพื่อนำไปแสดง แต่กลับทำหนังสือรับรองแทน และยังเป็นการนำฉบับจริงไปแสดง ทั้งที่กรณีเช่นนี้โดยปกติจะเป็นการคัดสำเนาไปยื่น
** "มาร์ค"เมินคำท้า บอกแจงจนเบื่อ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีที่มีการท้าให้เอาหลักฐานมาพิสูจน์ ว่าไม่ได้มีการหนีการเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่า ทุกอย่างเป็นคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว ตนจะพูดอะไรต้องระมัดระวังที่จะไม่เข้าไปก้าวล่วงอำนาจศาล เพราะตนเป็นคู่ความ และพยานต่างๆ ก็มีโอกาสไปให้ความต่อศาลแล้ว การแสดงความเห็นเรื่องนี้อาจจะมีการละเมิดศาลได้ แต่ยืนยันว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นไปตามการแถลงข่าวของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ทุกอย่าง ไม่ต้องมาท้าทายอะไร เพราะเอกสารทุกอย่างยื่นต่อศาลไปหมดแล้ว และเป็นเอกสารทางราชการด้วย ฝ่ายผู้กล่าวหาก็อยู่ในฐานะรัฐบาล มีอำนาจตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่ตรวจสอบ และเอกสารที่อีกฝ่ายเอามาอ้าง ก็ไม่รู้เอามาจากไหน
ส่วนบทบาทของกระทรวงกลาโหม ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะอ้างว่ามีการยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว ตนก็จะไม่ไปก้าวล่วง แต่ก็ตั้งข้อสังเกตมาตลอดว่า เรื่องทั้งหมดมาเกิดในช่วงที่มีการสืบพยานในคดีนี้ แม้กระทั่งการเริ่มต้นเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ก็หลังจากมีการประทับรับฟ้องคดีนี้
นายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าการออกมาพูดในเรื่องนี้ คงเป็นความตั้งใจหวังผลทางการเมือง ซึ่งเป็นปกติของฝ่ายตรงข้าม ที่จะทำได้ แต่ตนยืนยันว่า ข้อเท็จจริงทุกอย่างมีการชี้แจงไปหมดแล้วหลายรอบ และก็ได้ใช้สิทธิ์ฟ้องร้องทางศาลไปแล้ว
ส่วนจะมีการฟ้องร้องบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ก็กำลังรวบรวมข้อมูล และพิจารณาอยู่ เพราะเห็นใจทนาย ที่มีงานเยอะอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของ นายกมล บันไดเพชร ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ จากที่เคยทำเรื่องนี้มายาวนาน และมีการชี้แจงไปหมดแล้ว
**ครั้งนี้ชัด"มาร์ค"หนี-ไม่หนีทหาร
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้อเท็จจริงเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า การตรวจสอบครั้งนี้ คงจะเรียบร้อยแล้ว แต่โดยส่วนตัวยังไม่เห็นหลักฐาน คงต้องดูรายละเอียดก่อน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ตนมีชื่อที่จะถูกปรับออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในการปรับครม.ครั้งต่อไปนั้น ตนไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่เป็นห่วง และไม่กังวลเลย หากจะต้องถูกปรับออก เพราะตนมีงานทำตลอด
***"โอ๊ค"ร้อนตัวยันเรียน รด.ได้ยศสิบตรี
ด้าน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า แฟนเพจอยากให้เขียนเรื่องหนีทหาร พร้อมอ้างว่า คนเสื้อแดงต่างรู้เรื่องดังกล่าวดีว่าเป็นอย่างไร เพราะเคยมีประสบการณ์ช่วงสลายการชุมนุม แต่ที่เอ่ยถึงในที่นี้หมายถึงการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร พร้อมระบุ มีคุณลุงหนึ่งท่านในแฟนเพจ แฉรายละเอียดเรื่องหนีทหาร เมื่อ 20 ปีก่อน ว่าทำกันอย่างไรให้ได้ทราบ ซึ่งหลังกลับจากทัวร์ "เยี่ยมคนแดนไกล แบบไม่มีอภิสิทธิ์ชน กับพานทองแท้" ที่ฮ่องกง ใน 2-3 วันนี้ จะได้ทราบกันว่าเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ นายพานทองแท้ ยังระบุว่า รู้สึกโชคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลี้ยงดูแบบลูกชาวบ้านทั่วไป รวมถึงไม่เคยสอนให้มักใหญ่ใฝ่สูง และยังสอนให้รับใช้ชาติด้วยการเกณฑ์ทหาร และเรียน รด. พร้อมเผยว่า เรียน รด. 3 ปี ได้ยศสิบตรี พานทองแท้ พ่อแม่ยังภาคภูมิใจกว่า ที่จะถูกคนตราหน้าว่าหนีทหาร
นอกจากนี้ นายพานทองแท้ ยังได้นำเอกสารทางราชการว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือกทหาร ออกมาเปิดเผยอีกด้วย