เอเจนซีส์ – เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันพุธ(18) ที่กองบัญชาการหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของซีเรีย กลางกรุงดามัสกัส ส่งผลให้ พล.อ.ดาอุด รอจฮา รัฐมนตรีกลาโหม และ พล.อ.อัสเซฟ เชากัต รัฐมนตรีช่วยกลาโหมซึ่งเป็นพี่เขยของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เสียชีวิต ส่วนรัฐมนตรีมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงหลายคนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่การต่อสู้ภายในเมืองหลวงยังคงดุดันต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
สถานีทีวีของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันพุธ ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่กองบัญชาการของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ฮิชาม อิคติยาร์ เป็นผู้บัญชาการ ในระหว่างที่พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังประชุมกัน อาคารแห่งนี้อยู่ในเขตรอว์ดาและถือว่ามีการควบคุมป้องกันอย่างแน่นหนา
ในหมู่ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งมีจำนวนมากนั้น รวมทั้ง โมอัมเหม็ด อัล-ชาร์ รัฐมนตรีมหาดไทย และตัว พล.อ.อิคติยาร์
สำหรับ พล.อ.รอจฮา รัฐมนตรีกลาโหมที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้นั้น ยังรับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพและรองประธานของคณะรัฐมนตรีอีกด้วย ทั้งนี้ตัวประธานาธิบดีอัสซาดเอง คือผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายทหาร
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฮิวแมน ไรต์ องค์การสิทธิมนุษยชนที่เอนเอียงไปทางฝ่ายกบฎ พูดถึงการสิ้นชีวิตของ เชากัต พี่เขยของอัสซาด ซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทหาร ก่อนก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหม ว่า “เป็นการตีกระหน่ำอย่างรุนแรงสาหัสต่อระบอบปกครองซีเรีย เนื่องจากเขาเป็นผู้แสดงบทบาทหลักในการปฏิบัติการต่างๆ ของกองกำลังอาวุธตามปกติของทางการ ในการเข้าบดขยี้ฝ่ายปฏิวัติ”
ภายหลังเกิดเหตุ กองทัพซีเรียได้ออกคำแถลงว่า จะต่อสู้กับการก่อการร้ายต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า “พฤติการณ์ของผู้ก่อการร้าย มีแต่ทำให้กองทัพเพิ่มความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการชำระล้างประเทศของเราให้สะอาดปลอดจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย”
ส่วนทางกลุ่มกบฎซีเรียก็มีอย่างน้อย 2 กลุ่ม ได้แก่ “กองทัพซีเรียเสรี” (เอฟเอสเอ) และ กลุ่มลิวา อัล-อิสลาม ออกมาอ้างตัวเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีคราวนี้
ขณะที่แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่งในซีเรียกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า องครักษ์คนหนึ่งของพวกบุคคลวงในของประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งไปร่วมการประชุมกันคราวนี้นั่นเอง คือผู้จุดระเบิดฆ่าตัวตาย
เหตุระเบิดอย่างอุกอาจล่าสุดคราวนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวที่ว่าเกิดการสู้รบกันอย่างดุเดือดในกรุงดามัสกัสอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยที่กลุ่มติดอาวุธฝ่ายกบฎ “กองทัพซีเรียเสรี” ประกาศเปิดยุทธการรุกใหญ่เพื่อยึดครองเมืองหลวงดามัสกัส ถึงแม้พวกเขาจะยอมรับว่ามีเพียง “อาวุธเบา” เท่านั้น
มีรายงานว่า เกิดการยิงต่อสู้กันด้วยปืนกลหนักในบริเวณจตุรัสซาบา บาห์รัตของดามัสกัส ซึ่งฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้เป็นที่ชุมนุมประท้วงตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฮิวแมน ไรต์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 รายเมื่อวันอังคาร (17) จากการที่รัฐบาลใช้รถถังและเฮลิคอปเตอร์เข้าโจมตีเขตกอบูน ที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฎ นอกจากนี้ยังมีการสู้รบในอีกหลายจุดในเมืองหลวง
พันเอกกัสเซม ซาเดดดีเน โฆษกของเอฟเอสเอ กล่าวอ้างว่า กลุ่มกบฎได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลร่วงในกอบูน อย่างไรก็ดี ข่าวนี้ไม่ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวอิสระ ขณะที่พวกสำนักข่าวต่างชาติก็ถูกทางการคุมเข้มและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทำข่าว
ก่อนออกมายอมรับเรื่องเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ทหารในดามัสกัสระบุว่า สถานการณ์ในเมืองหลวงอยู่ในการควบคุมของกองทัพ และกองทัพกำลังไล่ล่าผู้ก่อการร้ายที่พยายามซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ตเมนท์และสุเหร่า
นอกจากนี้ ออมรัน โซบี รัฐมนตรีสารสนเทศซีเรีย ยังปฏิเสธรายงานข่าวจากแหล่งต่างๆ โดยยืนยันว่า กองกำลังความมั่นคงได้เผชิญหน้ากับพวกนักรบที่บุกเข้าเมืองหลวงและกดดันให้นักรบจำนวนมากล่าถอยออกไปแล้ว
สถานีทีวีของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันพุธ ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่กองบัญชาการของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ฮิชาม อิคติยาร์ เป็นผู้บัญชาการ ในระหว่างที่พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังประชุมกัน อาคารแห่งนี้อยู่ในเขตรอว์ดาและถือว่ามีการควบคุมป้องกันอย่างแน่นหนา
ในหมู่ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งมีจำนวนมากนั้น รวมทั้ง โมอัมเหม็ด อัล-ชาร์ รัฐมนตรีมหาดไทย และตัว พล.อ.อิคติยาร์
สำหรับ พล.อ.รอจฮา รัฐมนตรีกลาโหมที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้นั้น ยังรับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพและรองประธานของคณะรัฐมนตรีอีกด้วย ทั้งนี้ตัวประธานาธิบดีอัสซาดเอง คือผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายทหาร
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฮิวแมน ไรต์ องค์การสิทธิมนุษยชนที่เอนเอียงไปทางฝ่ายกบฎ พูดถึงการสิ้นชีวิตของ เชากัต พี่เขยของอัสซาด ซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทหาร ก่อนก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหม ว่า “เป็นการตีกระหน่ำอย่างรุนแรงสาหัสต่อระบอบปกครองซีเรีย เนื่องจากเขาเป็นผู้แสดงบทบาทหลักในการปฏิบัติการต่างๆ ของกองกำลังอาวุธตามปกติของทางการ ในการเข้าบดขยี้ฝ่ายปฏิวัติ”
ภายหลังเกิดเหตุ กองทัพซีเรียได้ออกคำแถลงว่า จะต่อสู้กับการก่อการร้ายต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า “พฤติการณ์ของผู้ก่อการร้าย มีแต่ทำให้กองทัพเพิ่มความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการชำระล้างประเทศของเราให้สะอาดปลอดจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย”
ส่วนทางกลุ่มกบฎซีเรียก็มีอย่างน้อย 2 กลุ่ม ได้แก่ “กองทัพซีเรียเสรี” (เอฟเอสเอ) และ กลุ่มลิวา อัล-อิสลาม ออกมาอ้างตัวเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีคราวนี้
ขณะที่แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่งในซีเรียกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า องครักษ์คนหนึ่งของพวกบุคคลวงในของประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งไปร่วมการประชุมกันคราวนี้นั่นเอง คือผู้จุดระเบิดฆ่าตัวตาย
เหตุระเบิดอย่างอุกอาจล่าสุดคราวนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวที่ว่าเกิดการสู้รบกันอย่างดุเดือดในกรุงดามัสกัสอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยที่กลุ่มติดอาวุธฝ่ายกบฎ “กองทัพซีเรียเสรี” ประกาศเปิดยุทธการรุกใหญ่เพื่อยึดครองเมืองหลวงดามัสกัส ถึงแม้พวกเขาจะยอมรับว่ามีเพียง “อาวุธเบา” เท่านั้น
มีรายงานว่า เกิดการยิงต่อสู้กันด้วยปืนกลหนักในบริเวณจตุรัสซาบา บาห์รัตของดามัสกัส ซึ่งฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้เป็นที่ชุมนุมประท้วงตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฮิวแมน ไรต์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 รายเมื่อวันอังคาร (17) จากการที่รัฐบาลใช้รถถังและเฮลิคอปเตอร์เข้าโจมตีเขตกอบูน ที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฎ นอกจากนี้ยังมีการสู้รบในอีกหลายจุดในเมืองหลวง
พันเอกกัสเซม ซาเดดดีเน โฆษกของเอฟเอสเอ กล่าวอ้างว่า กลุ่มกบฎได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลร่วงในกอบูน อย่างไรก็ดี ข่าวนี้ไม่ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวอิสระ ขณะที่พวกสำนักข่าวต่างชาติก็ถูกทางการคุมเข้มและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทำข่าว
ก่อนออกมายอมรับเรื่องเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ทหารในดามัสกัสระบุว่า สถานการณ์ในเมืองหลวงอยู่ในการควบคุมของกองทัพ และกองทัพกำลังไล่ล่าผู้ก่อการร้ายที่พยายามซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ตเมนท์และสุเหร่า
นอกจากนี้ ออมรัน โซบี รัฐมนตรีสารสนเทศซีเรีย ยังปฏิเสธรายงานข่าวจากแหล่งต่างๆ โดยยืนยันว่า กองกำลังความมั่นคงได้เผชิญหน้ากับพวกนักรบที่บุกเข้าเมืองหลวงและกดดันให้นักรบจำนวนมากล่าถอยออกไปแล้ว