xs
xsm
sm
md
lg

จีนย้ำแค้นซิวอันดับ2'โกลบัล500' มีบริษัทติดโผแซงญี่ปุ่นเป็นปีแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – นอกจากซิวตำแหน่งเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกจากญี่ปุ่นเมื่อสองปีที่แล้ว เวลานี้จีนยังย้ำแค้นด้วยการแย่งชิงอันดับ 2 ในตารางบริษัทใหญ่ที่สุดของโลก “ฟอร์จูน โกลบัล 500” จากคู่แข่งเอเชียด้วยกันรายนี้ ทางด้านสหรัฐฯแม้สามารถยึดตำแหน่งที่ 1 ของพื้นพิภพเอาไว้ได้แบบทิ้งห่าง ทว่าจำนวนของกิจการที่ติดอันดับก็ลดฮวบทีเดียวในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
ในรายงานการจัดอันดับบริษัทที่มีรายได้ประจำปีสูงสุดของทั่วโลก ซ.ึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (9) นิตยสารฟอร์จูนระบุว่า เป็นครั้งแรกที่จีนแซงหน้าญี่ปุ่น โดยแดนมังกรมีจำนวนบริษัทติดโผถึง 73 แห่ง เทียบกับบริษัทแดนปลาดิบ 68 แห่ง
สำหรับบริษัทที่ขึ้นสู่อันดับ 1 ปีนี้ ได้แก่ รอยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทพลังงานสัญชาติอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ ซึ่งสามารถคว่ำห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกา วอล-มาร์ท ที่ครองแชมป์สองสมัยซ้อนก่อนหน้านี้ ด้วยรายได้ 484,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 หรือเพิ่มขึ้น 28.1% จากปี 2010
บริษัทอื่นๆ ในท็อป 10 เรียงตามลำดับ ได้แก่ เอ็กซอนโมบิล (สหรัฐฯ), วอล-มาร์ท (สหรัฐฯ), บีพี (อังกฤษ), ชิโนเปก กรุ๊ป , แกรนด์ เนชันแนล ปิโตรเลียม และสเตท กริด (จีนทั้ง 3 แห่ง), เชฟรอน (สหรัฐฯ), โคโนโค ฟิลิปส์ (สหรัฐฯ) และโตโยต้า มอเตอร์ของญี่ปุ่น
ฟอร์จูนแจกแจงว่า แม้อเมริกายังมีจำนวนบริษัทใน ฟอร์จูน โกลบัล 500 มากที่สุด แต่ในระหว่าง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีบริษัทของประเทศใดสูญเสียตำแหน่งมากเท่ากับบริษัทอเมริกันเช่นเดียวกัน โดยในปีนี้มีธุรกิจที่มีสำนักงานใหญ่ในแดนลุงแซมติดโผอยู่ 132 แห่ง เปรียบเทียบกับเมื่อทศวรรษที่แล้วซึ่งมี 197 แห่ง
อันดับและองค์ประกอบของรายชื่อในรายงานการจัดอันดับปีล่าสุดนี้ ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ทางธุรกิจของโลก โดยที่อเมริกาเผชิญการแข่งขันจากต่างชาติรุนแรงขึ้นมาก
จีนมีบริษัทติดโผในปีนี้เพิ่มขึ้น 12 แห่ง ขณะที่จำนวนบริษัทยุโรปลดลงเหลือ 161 แห่ง จาก 172 แห่งในปีที่ผ่านมา
“หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนคือจำนวนบริษัทจีนในรายชื่อ” ฟอร์จูนชี้ว่า ในปี 2002 มีบริษัทจีนในโกลบัล 500 เพียง 11 แห่งเท่านั้น ขณะที่บริษัทญี่ปุ่นลดลงจาก 88 แห่งในปีดังกล่าว เหลือ 73 แห่งในปีนี้
กระนั้น โตเกียวถือเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทโกลบัล 500 มากที่สุดถึง 48 แห่ง แม้ญี่ปุ่นเพิ่งเผชิญวิกฤตนิวเคลียร์ฟูกูชิมะและเศรษฐกิจชะลอตัวถึง 2 ทศวรรษก็ตาม
ในบรรดาบริษัทท็อป 10 ปรากฏว่าพวกกิจการด้านพลังงานแห่กันจับจองไปได้ถึง 8 แห่ง ขณะที่ภาคธนาคารพาณิชย์เป็นอุตสาหกรรมที่มีบริษัทอยู่ใน ฟอร์จูน โกลบัล 500 สูงเป็นอันดับ 2 รองลงมาอีกคือภาคยานยนต์
ฟอร์จูนสำทับว่า แม้เกิดวิกฤตการเงินในยุโรปและภัยพิบัติรุนแรงในญี่ปุ่น แต่บริษัทใหญ่สุดของโลกเหล่านี้ยังคงทำกำไรและรายได้ทำลายสถิติในปี 2011
โดยองค์รวม บริษัทในโกลบัล 500 มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 29.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.2% จากปี 2010
นอกจากนี้ธุรกิจทั่วโลกยังคงเชี่ยวชาญในการรีดเค้นประสิทธิภาพการผลิตจากพนักงาน เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานรวมของโกลบัล 500 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 4.9% อยู่ที่ 60.7 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว แต่ยอดการทำรายได้ให้บริษัทของพนักงาน 1 คน กลับเพิ่มขึ้นมาร่วมเท่าตัว โดยอยู่ที่คนละ 463,212 ดอลลาร์
สำหรัล “ผลกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้น 7% เป็น 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ สูงใกล้ๆ กับมูลค่าเศรษฐกิจอินเดียทีเดียว” รายงานของฟอร์จูนเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ทั้งนี้ในปีนี้ มีบริษัทอินเดีย 2 แห่งติดท็อป 100 คืออินเดียน ออยล์ ของรัฐบาล อันดับ 83 และรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ อันดับ 99
บริษัทรายหนึ่งซึ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ แอปเปิล ยักษ์ใหญ่อุปกรณ์ไฮเทค ซึ่งทะยานขึ้นมาถึง 56 อันดับจากปีที่แล้ว โดยปีนี้อยู่ที่ 55 และมีรายได้ในรอบปีที่ผ่านมาเกือบ 108,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 66%
กำลังโหลดความคิดเห็น