พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ กล่าวว่า ถือเป็นความปลาบปลื้มของกองทัพเรือ และราชนาวีทุกคน ที่จะได้ถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ในการมาประทับเรืออังสนา อีกครั้งหนึ่ง ในการเสด็จทางชลมารค เพื่อเปิดโครงการของกรมชลประทาน ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และตน จะติดตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดเส้นทางจาก รพ.ศิริราช ไปยังเกาะเกร็ดด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 54 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เคยประทับบนเรืออังสนา เสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ มาแล้ว ซึ่งเรืออังสนา เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือ ไม่ได้เป็นเรือพระที่นั่ง แต่จะเรียกว่าเป็นเรือพระที่นั่ง ต่อเมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาประทับเท่านั้น เมื่อเสร็จภารกิจก็กลับมาใช้เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือตามเดิม เรืออังสนาได้ถูกต่อขึ้นเมื่อปี 2545 เพื่อใช้เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือ โดยเป็นเรือที่มีความยาว 48 เมตร กว้าง 10 เมตร บรรทุกคนได้ 150-300 คน เป็นเรือ 2 ชั้น มีห้องจัดเลี้ยงใหญ่ และเล็ก
"ทางกองทัพเรือได้เตรียมความพร้อมของเรือ ทั้งเรื่องการประดับเรือ การตรวจเช็คระบบต่างๆไว้พร้อม เพื่อที่จะทำหน้าที่ในการเป็น เรือพระที่นั่งในครั้งนี้ให้ดีที่สุด โดยข้าราชการทหารเรือทุกนายรู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก" ผบ.ทร.กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 54 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เคยประทับบนเรืออังสนา เสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ มาแล้ว ซึ่งเรืออังสนา เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือ ไม่ได้เป็นเรือพระที่นั่ง แต่จะเรียกว่าเป็นเรือพระที่นั่ง ต่อเมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาประทับเท่านั้น เมื่อเสร็จภารกิจก็กลับมาใช้เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือตามเดิม เรืออังสนาได้ถูกต่อขึ้นเมื่อปี 2545 เพื่อใช้เป็นเรือรับรองของกองทัพเรือ โดยเป็นเรือที่มีความยาว 48 เมตร กว้าง 10 เมตร บรรทุกคนได้ 150-300 คน เป็นเรือ 2 ชั้น มีห้องจัดเลี้ยงใหญ่ และเล็ก
"ทางกองทัพเรือได้เตรียมความพร้อมของเรือ ทั้งเรื่องการประดับเรือ การตรวจเช็คระบบต่างๆไว้พร้อม เพื่อที่จะทำหน้าที่ในการเป็น เรือพระที่นั่งในครั้งนี้ให้ดีที่สุด โดยข้าราชการทหารเรือทุกนายรู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก" ผบ.ทร.กล่าว
