xs
xsm
sm
md
lg

"ยิ่งลักษณ์"ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โอกาส 80ปีการสถาปนาสำนักนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (28 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังบ้านพิษณุโลก เพื่อประกอบพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้า พร้อมทั้งถวายเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ จากวัดสระเกศ จำนวน 9 รูป เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ครบรอบ 80 ปี โดยมีบรรดารัฐมนตรี และข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ นายกฯได้สักการะพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานอยู่ภายในบ้านพิษณุโลก รวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ทำการสักการะรูปของท่านท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู) และเจ้าพระยารามราฆพ เจ้าของบ้านนรสิงห์ ก่อนที่จะลงมาทำพิธีสักการะพระภูมิเจ้าที่ และบวงสรวงองค์ท่านท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู) ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณริมกำแพงด้านขวาของตัวบ้าน โดยมีพราหมณ์มาประกอบพิธีบวงสรวง ตามหลักศาสนาพราหมณ์
จากนั้นเวลา 09.10 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล และได้ขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ ท่านท้าวมหาพรหม ที่ประดิษฐานบนยอดตึกไทยคู่ฟ้า รวมทั้งพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานพิธีวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 80 ร่วมกับคณะรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้นที่ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล โดยมีการถวายเครื่องไทยธรรม และตาลปัตร แด่พระสงฆ์จำนวน 99 รูป พร้อมทั้งเป็นประธานมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก่ข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และเยี่ยมชมนิทรรศการ รวมทั้งกิจกรรมเปิดตัวดวงตราไปรษณีย์ที่ระลึก ในวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังสักการการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลว่า การสักการะครั้งนี้ ตนได้ขอพรพิเศษ ให้เป็นสิริมงคลให้แก่ประเทศ โดยให้มีแต่ความสุข และความสงบ
ทั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ที่ตึกสันติไมตรีแล้ว สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม ได้ขึ้นพรมน้ำมนต์ ยังห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า

**วอนขรก.ยึดถือพระบรมราโชวาท

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรีครบรอบ 80 ปี โดยเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา รวมทั้งสิ้น 58 ราย
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับข้าราชการที่ได้รับเครื่องราชฯ ว่า ถือเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล ที่ได้รับพระราชทานบำเหน็จความชอบในฐานะผู้กระทำความดีความชอบเป็นประโยชน์ต่อข้าราชการโดยรวม ซึ่งข้าราชการทุกคนควรภาคภูมิใจ และยึดมั่นในการทำงานตามรอยพระยุคลบาท ดังนั้นพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปีพุทธศักราช 2555 ความว่า
"งานราชการทุกอย่าง ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ง่ายหรือยาก ย่อมมีความสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งงานทุกด้าน ทุกสาขา ย่อมสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน เป็นปัจจัยเกื้อกูล ส่งเสริมกันและกันอยู่ ข้าราชการทุกคน ทุกฝ่าย ทุกระดับ จึงต้องไม่ถือตัวแบ่งแยกกัน หากต้องพิจารณาให้เห็นความสำคัญของกันและกัน แล้วการร่วมงานประสานสัมพันธ์กัน ด้วยความเป็นมิตร ด้วยความเข้าใจ เห็นใจกันและเมตตาปรองดองกัน งานของแผ่นดินทุกส่วน จักได้ดำเนินก้าวหน้าไปพร้อมเสมอกันและยังประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือ ความเจริญมั่นคง แก่งาน และแก่ส่วนรวมได้แท้จริง"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าราชการถือเป็นกำลังของชาติ ขอให้ทุกท่านได้น้อมนำพระบรมราโชวาทดังกล่าว มายึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่โดยมุ่งมั่น เพื่อรับใช้ประเทศชาติ และประชาชนโดยรวม

**บวงสรวง 80 ปีสถาปนารัฐสภา

ในวันเดียวกันนี้ ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้ถือฤกษ์เวลา 09.09 น. จัดพิธีบวงสรวงพระวิญญาณอดีตบุรพมหากษัตริย์ เนื่องในวันสถาปนารัฐสภา ครบรอบ 80 ปี
ในการนี้ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา และรองประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนายนิคม ไวยรัชพานิช นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ รองประธานวุฒิสภา นายเจริญ จรรย์โกมล นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ และเหล่าข้าราชการประจำรัฐสภาร่วมกันในพิธีดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ยังมีพิธีบำเพ็ญบุญกุศลทางศาสนา และพิธีมอบเครื่องอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญ และลูกจ้างประจำตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม การสถาปนารัฐสภาไทย มีขึ้นภายหลังประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้มีการแต่งตั้งผู้แทนราษฎรชั่วคราวชุดแรก จำนวน 70 คน และยังเริ่มมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 28 มิ.ย.2475 ที่บริเวณห้องโถงชั้นบนของพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยมี มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เป็นประธานสภาฯ และนายพลตรี พระยาอินทรวิชิต เป็นรองประธานสภาฯ ในคราวนั้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น