xs
xsm
sm
md
lg

ตบหน้าเอแบคโพล 90.37 % ค้านนาซาใช้อู่ตะเภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากที่เพจสายตรงภาคสนามได้สำรวจความเห็นประชาชนผ่านทางแฟนเพจสายตรงภาคสนามตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาและหยุดการสำรวจความเห็นในเวลา 13 นาฬิกาของวันนี้ (25 มิ.ย. 55) เกี่ยวกับกรณีที่นาซาจะใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการสำรวจก้อนเมฆ ในหัวข้อ “คุณคิดว่านาซามีแผนการอะไรนอกเหนือจากการสำรวจชั้นบรรยากาศหรือไม่” โดยมีผู้ร่วมแสดงความเห็น 2,171 ราย เห็นว่านาซามีแผนการนอกเหนือจากการสำรวจชั้นบรรยากาศ 1,995 ราย คิดเป็นร้อยละ 91.89 คิดว่าไม่มีแผนการนอกเหนือจากการสำรวจชั้นบรรยากาศ 33 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.52 และต้องการข้อมูลเพิ่มเพื่อการตัดสินใจ 143 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.58
ขณะที่เพจขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊คได้ทำแบบสอบถามหัวข้อ “เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้นาซาใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการสำรวจก้อนเมฆ” จากการประมวลผลในเวลา 13 นาฬิกา ของวันนี้ (25 มิ.ย. 55) ปรากฏว่ามีผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็น 1,277 ราย ไม่เห็นด้วย 1,154 ราย คิดเป็นร้อยละ 90.37 เห็นด้วย 53 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.14 และ ไม่แน่ใจ 70 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.48
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.55 สำนักวิจัยเอแบคโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจเชิงวิจัยเรื่อง วัดคอการเมืองต่อประเด็นร้อนทางการเมือง และโครงการความร่วมมือขององค์การนาซา ในประเทศไทย จากประชาชน 1,284 ตัวอย่าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 93.2 เห็นด้วย ที่ไทยควรมีระบบเตือนภัยทางธรรมชาติ และร้อยละ 63.5 เห็นว่าควรที่จะให้นาซ่าเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภา และช่วยศึกษาด้านการก่อตัวของชั้นบรรยากาศโลก ขณะร้อยละ 36.5 ไม่เห็นด้วย
จากข้อมูลผลสำรวจของเพจสายตรงภาคสนามและขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊คพบว่า ได้ผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกับผลสำรวจของเอแบคโพลโดยสิ้นเชิง โดยหากพิจารณาแยกเพจเฉพาะแค่สายตรงภาคสนามจะพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่แสดงความเห็น 2,171 ราย มากกว่ากลุ่มตัวอย่างของเอแบคโพล 887 ราย โดยกลุ่มตัวอย่างของเอแบคโพลอยู่ที่ 1,284 ราย แต่ถ้ารวมกลุ่มตัวอย่างของทั้งเพจสายตรงภาคสนามและขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊คเข้าด้วยกันคือ สายตรงภาคสนาม 2,171 และขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค 1,277 ราย เท่ากับ 3,448 ราย จะมากกว่ากลุ่มตัวอย่างของเอแบคโพลถึง 2,164 ราย หรือ เกือบสองเท่าตัวของกลุ่มตัวอย่างที่เอแบคโพลทำการสำรวจ
นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่แสดงความเห็นถึงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการให้นาซาเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาปฏิบัติการสำรวจก้อนเมฆว่า เนื่องจากไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์อย่างเดียว แต่คิดว่ามีการแอบแฝงเรื่องยุทธศาสตร์ทางทหารที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมถึงทำให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลในการรักษาบทบาทของประเทศระหว่างสองมหาอำนาจคือประเทศจีนและประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น