พาวเวอร์มอลล์ หวั่น ครึ่งปีหลังเผชิญปัจจัยลบที่ควบคุมไม่ได้ซ้ำซาก ทั้งน้ำท่วม การเมือง เศรษฐกิจแย่ กำลังซือ้หดตัว คาดตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเร่งทำแคมเปญหนักดึงยอดครึ่งปีหลัง
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า พาวเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าน่าจะเติบโตใกล้เคียงกันกับครึ่งปีแรก หรือชะลอตัวลงไปบ้าง หรือทั้งปีน่าจะคงตัวเลขไม่เกิน 7%และสินค้าที่เป็นไฮไลท์ ยังคงเป็นกลุ่มสมาร์ทโฟน ส่วนภาพรวมของพาวเวอร์มอลล์นั้น ครึ่งปีหลังน่าจะโตราว 10% ส่วนทั้งปีน่าจะทำได้ที่ 14% คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,700 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่เติบโตราว 10%
ในครึ่งปีหลังจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ตามแต่ละหมวดสินค้าอีกกว่า 6 แคมเปญ ขณะเดียวกันภาพรวมของตลาดก็น่าจะมีการแข่งขันกันทำตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อค่อนข้างหนักกว่าครึ่งปีแรกด้วย
“ครึ่งปีหลัง ค่อนข้างกังวลกับปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ปัญหาการเมือง รวมถึงกำลังซื้อที่ยังชะลอตัวลง สภาพเศรษฐกิจ และซัพพลายสินค้าบางตัวที่อาจจะยังทำได้ไม่ดี ล้วนแต่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครึ่งปีหลังได้ ในส่วนของพาวเวอร์มอลล์ ให้ความสำคัญกับการจัดการคงคลังสินค้าให้สามารถรองรับความต้องการได้ตลอดเวลา”
ส่วนภาพรวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของพาวเวอร์มอลล์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 20%โดยรายได้จากกลุ่มสมาร์ทโฟนเติบโตมากสุด 70%รองลงมาคือ แอร์ โต 30%โน๊ตบุ๊คโต 25%ส่วนเครื่องซักผ้าค่อนข่างทรงตัวหรือต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย
ในช่วง 2-3 เดือนแรก ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อนข้างคึกคัก อาจจะมาจากการที่ลูกค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงต้องมีการซื้อใหม่ แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว คาดว่าลูกค้าอาจจะนำเงินไปใช้ในส่วนอื่นแทน เช่น ภาคยานยนต์ ที่คาดการณ์กันว่าเติบโตสูงมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามที่เจเอฟเคสำรวจไว้นั้น พบว่ามีอัตราการเติบโตเพียง 6.5%เท่านั้น
ล่าสุดพาวเวอร์มอลล์ ใช้งบกว่า 65 ล้านบาท จัดงาน POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASEวันที่ 27 มิ.ย.-8ก.ค.นี้ ณ ห้องรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน โดยร่วมกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที กว่า 100 แบรนด์ และสถาบันการเงินชั้นนำ นำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาทิ รับคืนรวมสูงสุด 29%,ผ่อนสินค้า 0%นาน 6 เดือน,ลดราคาพิเศษสูงสุด 50%และของสมนาคุณมากมาย คาดว่าตลอดการจัดงานจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า พาวเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าน่าจะเติบโตใกล้เคียงกันกับครึ่งปีแรก หรือชะลอตัวลงไปบ้าง หรือทั้งปีน่าจะคงตัวเลขไม่เกิน 7%และสินค้าที่เป็นไฮไลท์ ยังคงเป็นกลุ่มสมาร์ทโฟน ส่วนภาพรวมของพาวเวอร์มอลล์นั้น ครึ่งปีหลังน่าจะโตราว 10% ส่วนทั้งปีน่าจะทำได้ที่ 14% คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,700 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่เติบโตราว 10%
ในครึ่งปีหลังจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ตามแต่ละหมวดสินค้าอีกกว่า 6 แคมเปญ ขณะเดียวกันภาพรวมของตลาดก็น่าจะมีการแข่งขันกันทำตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อค่อนข้างหนักกว่าครึ่งปีแรกด้วย
“ครึ่งปีหลัง ค่อนข้างกังวลกับปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ปัญหาการเมือง รวมถึงกำลังซื้อที่ยังชะลอตัวลง สภาพเศรษฐกิจ และซัพพลายสินค้าบางตัวที่อาจจะยังทำได้ไม่ดี ล้วนแต่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครึ่งปีหลังได้ ในส่วนของพาวเวอร์มอลล์ ให้ความสำคัญกับการจัดการคงคลังสินค้าให้สามารถรองรับความต้องการได้ตลอดเวลา”
ส่วนภาพรวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของพาวเวอร์มอลล์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 20%โดยรายได้จากกลุ่มสมาร์ทโฟนเติบโตมากสุด 70%รองลงมาคือ แอร์ โต 30%โน๊ตบุ๊คโต 25%ส่วนเครื่องซักผ้าค่อนข่างทรงตัวหรือต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย
ในช่วง 2-3 เดือนแรก ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อนข้างคึกคัก อาจจะมาจากการที่ลูกค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงต้องมีการซื้อใหม่ แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว คาดว่าลูกค้าอาจจะนำเงินไปใช้ในส่วนอื่นแทน เช่น ภาคยานยนต์ ที่คาดการณ์กันว่าเติบโตสูงมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามที่เจเอฟเคสำรวจไว้นั้น พบว่ามีอัตราการเติบโตเพียง 6.5%เท่านั้น
ล่าสุดพาวเวอร์มอลล์ ใช้งบกว่า 65 ล้านบาท จัดงาน POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASEวันที่ 27 มิ.ย.-8ก.ค.นี้ ณ ห้องรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน โดยร่วมกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที กว่า 100 แบรนด์ และสถาบันการเงินชั้นนำ นำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาทิ รับคืนรวมสูงสุด 29%,ผ่อนสินค้า 0%นาน 6 เดือน,ลดราคาพิเศษสูงสุด 50%และของสมนาคุณมากมาย คาดว่าตลอดการจัดงานจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท