"ปิยสัวสดิ์"ฟ้องบินไทยเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เรียกค่าชดเชย 10,460,000บาท ระบุต้องการให้เป็นบรรทัดฐานและธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจ ศาลกำหนดพิจารณาคดีวันที่ 24 กรกฎาคมนี้เวลาบ่ายโมง ทนายย้ำไม่ไกล่เกลี่ย แต่ถ้าเป็นคำสั่งศาลก็อาจคุยด้วยได้
ที่ศาลแรงงานกลาง 21 มิ.ย. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรับมอบหมายเป็นทนายความ เดินทางมา ยื่นฟ้อง คณะกรรมการบริษัทการบินไทย ฯ เป็นจำเลย เรื่องการเลิกจ้างงานโดยไม่เป็นธรรม โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ บมจ. การบินไทยว่าจ้างนายปิยสวัสดิ์ ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จนครบสัญญา และ ให้ บมจ.การบินไทย ฯ จ่ายเงินชดเชย จนกว่าจะครบสัญญาจ้างในวันที่ 11 ก.ค. 2556 ประมาณ 10,460,000บาท
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การยื่นฟ้องต้องการให้เกิดบรรทัดฐานและธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจซึ่งการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศส่วนจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการบอกเลิกจ้างหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ประธานคณะกรรมการจะชี้แจง
ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ในฐานะทนายความนายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ศาลแรงงานกำหนดนัดพิจารณาคดีในวันที่ 24 ก.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ซึ่งเรามีพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะชี้ให้ศาลเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในการเลิกจ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะมีการไกล่เกลี่ย นายวิรัตน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามหากศาลจะเสนอช่องทางไกล่เกลี่ย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งถ้าจะให้คุยกัน
อนึ่ง หลังจากการปลดนายปิยสัวัสดิ์ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบริษัทการบินไทยจำกัด ได้เคยเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร โดยให้เหตุผลว่า การปลดนายปิยสัวสดิ์ มาจากการสื่สารที่ไม่มีเอกภาพ ณีการจัดซื้อเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อเครื่องบินพ.ศ.2554-2565 (จำนวน 75 ลำ แบ่งเป็นการจัดซื้อ 2 ระยะ ระยะแรก 38 ลำ ระยะที่สอง 37 ลำ) ของบริษัทแต่ไม่นำเรื่องเข้าสู่ครม.
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้กำหนดว่าการบริหารทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญต่อโครงสร้างการบริหารทางการเงินของบริษัท หากโครงสร้างทางการเงินมีความเปลี่ยนแปลงจะต้องนำเรื่องจัดซื้อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน
โดยการตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่งเรื่องจัด ซื้อฯให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนหากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลง อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ที่ศาลแรงงานกลาง 21 มิ.ย. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรับมอบหมายเป็นทนายความ เดินทางมา ยื่นฟ้อง คณะกรรมการบริษัทการบินไทย ฯ เป็นจำเลย เรื่องการเลิกจ้างงานโดยไม่เป็นธรรม โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ บมจ. การบินไทยว่าจ้างนายปิยสวัสดิ์ ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จนครบสัญญา และ ให้ บมจ.การบินไทย ฯ จ่ายเงินชดเชย จนกว่าจะครบสัญญาจ้างในวันที่ 11 ก.ค. 2556 ประมาณ 10,460,000บาท
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การยื่นฟ้องต้องการให้เกิดบรรทัดฐานและธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจซึ่งการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศส่วนจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการบอกเลิกจ้างหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ประธานคณะกรรมการจะชี้แจง
ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ในฐานะทนายความนายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ศาลแรงงานกำหนดนัดพิจารณาคดีในวันที่ 24 ก.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ซึ่งเรามีพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะชี้ให้ศาลเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในการเลิกจ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะมีการไกล่เกลี่ย นายวิรัตน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามหากศาลจะเสนอช่องทางไกล่เกลี่ย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งถ้าจะให้คุยกัน
อนึ่ง หลังจากการปลดนายปิยสัวัสดิ์ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบริษัทการบินไทยจำกัด ได้เคยเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร โดยให้เหตุผลว่า การปลดนายปิยสัวสดิ์ มาจากการสื่สารที่ไม่มีเอกภาพ ณีการจัดซื้อเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อเครื่องบินพ.ศ.2554-2565 (จำนวน 75 ลำ แบ่งเป็นการจัดซื้อ 2 ระยะ ระยะแรก 38 ลำ ระยะที่สอง 37 ลำ) ของบริษัทแต่ไม่นำเรื่องเข้าสู่ครม.
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้กำหนดว่าการบริหารทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญต่อโครงสร้างการบริหารทางการเงินของบริษัท หากโครงสร้างทางการเงินมีความเปลี่ยนแปลงจะต้องนำเรื่องจัดซื้อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน
โดยการตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่งเรื่องจัด ซื้อฯให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนหากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลง อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
