เอเจนซีส์ - ประชาชนชาวกรีกผู้เคืองแค้นมาตรการรัดเข็มขัด ออกไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(17) ซึ่งจะชี้ขาดอนาคตของประเทศยุโรปใต้แห่งนี้ในยูโรโซน ตลอดจนของยูโรโซนเองด้วย ท่ามกลางแรงกดดันอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนจากภายนอก ไม่ให้โหวตเลือกแนวร่วมฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงที่ต่อต้านข้อตกลงเงินกู้ โดยมีเสียงเตือนว่ากรีซอาจถึงขั้นล้มละลาย ระบบเงินตราสกุลเดียวล่ม รวมทั้งกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง
ตามกำหนดการ คูหาเลือกตั้งเปิดให้ประชาชนไปลงคะแนนตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. วันอาทิตย์ (17) ตามเวลาประเทศไทยหลังจากนั้นจะสามารถเผยแพร่เอ็กซิตโพลได้ ส่วนผลการนับคะแนนเบื้องต้นจะออกมาเวลาประมาณ 02.00 น. วันจันทร์ (18)
การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากรีซครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่การเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เดือนแล้วไม่มีพรรคใดสามารถตั้งรัฐบาลได้
โพลช่วงก่อนการเลือกตั้งระบุว่า อเล็กซิส ซีปราส ผู้นำแนวร่วมฝ่ายซ้าย ไซรีซา ได้คะแนนนิยมเบียดมาติดๆ กับอันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดี) ที่เป็นฝ่ายอนุรักษนิยม วัย 61 ปี
ซีปราสประกาศว่า กระแสในยุโรปกำลังเปลี่ยนขั้วเป็นต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด เขาแสดงความมั่นใจว่า ถ้าหากกรีซปฏิเสธไม่ยอมรับข้อตกลงเงินกู้ที่ทำเอาไว้ ทางสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็จะยังไม่ต้องการเสี่ยงปล่อยให้กรีซออกจากยูโร ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก
ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง เขายังกล่าวหาว่า ซามาราสปกป้อง “ยุโรปในอดีตของแมร์เคิล” ขณะที่ตัวเขา “รับประกันยุโรปแห่งอนาคต”
ด้านซามาราสต้องการทบทวนการเจรจาข้อตกลงเงินกู้ในระดับพอประมาณ และเตือนว่า การเลือกซีปราส จะทำให้กรีซต้องกลับไปใช้เงินสกุลแดรกมา
ทั้งนี้ ผลโพลบ่งบอกว่า แม้ชาวกรีกต้องทนทุกข์กับภาวะถดถอยรุนแรงมาถึง 5 ปี แต่พวกเขายังต้องการอยู่ในยูโรโซน ถึงจะโกรธแค้นการขึ้นภาษีครั้งแล้วครั้งเล่า การลดการใช้จ่ายของรัฐ และลดค่าแรง หลายคนไม่พอใจพรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรครัฐบาลในอดีตที่ถูกกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่นและไร้ประสิทธิภาพมาตลอดหลายสิบปี
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกหดหู่หลังจากลงคะแนน เพราะรู้ว่าเป็นอีกครั้งที่ต้องโหวตให้พวกที่สร้างปัญหา แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น ฉันโหวตให้แผนการกู้เศรษฐกิจเพราะจะทำให้เรายังคงอยู่รอดในยุโรป” คูลา ลุยโซปูลู ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 66 ปีบอก
"จริงอยู่เราต้องการยกเลิกระบบที่ไม่ได้ผล แต่ฉันเกรงว่า ซีปราสก็จะกลายเป็นผู้นำไร้น้ำยาเหมือนคนอื่นๆ และสถานการณ์อาจเลวร้ายลง” ดอรา โฟโตปูลู นักจิตวิทยาวัย 48 ปี สำทับ
คาดหมายกันว่า การเลือกตั้งครั้งที่สองคราวนี้ก็จะยังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากในสภา ทำให้ต้องมีการเจรจาเพื่อฟอร์มรัฐบาลผสม ซึ่งมีโอกาสมากที่พรรคประชาธิปไตยใหม่จะได้เป็นแกนกลางจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกัน พวกผู้นำยุโรปต่างออกมาเตือนว่า กรีซต้องเคารพพันธสัญญาเงินกู้กับเจ้าหนี้ต่างชาติ หาไม่ก็เสี่ยงที่จะต้องถอนตัวจากการใช้สกุลเงินยูโร ขณะที่อียูและไอเอ็มเอฟต่างระงับการปล่อยกู้แก่กรีซจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น
วันเสาร์ที่ผ่านมา (16) นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชาวกรีกคือ การเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เคารพเงื่อนไขของข้อตกลงฟื้นฟูเศรษฐกิจ
วันเดียวกัน ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) เตือนว่า การเลือกไซรีซาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ “ไม่คาดคิด” สำหรับยูโรโซน ขณะที่ตลาดระหว่างประเทศจับตาการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของกรีซชนิดแทบลืมหายใจ
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ลิเบราซิญองของฝรั่งเศสว่า จะเปิดการหารือกับรัฐบาลใหม่ของกรีซในสัปดาห์หน้า เนื่องจากไม่รู้เลยว่า มีการดำเนินการหรือไม่ดำเนินการเรื่องใดไปบ้างในช่วง 6-8 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กรีซถูกบีบให้ขอรับความช่วยเหลือเพื่อกู้เศรษฐกิจมาแล้ว 2 แพกเกจ แพกเกจแรกมูลค่า 110,000 ล้านยูโรในปี 2010 และแพกเกจที่สอง 130,000 ล้านยูโรในปีนี้ โดยยังไม่รวมการตัดบัญชีหนี้เสียกับเจ้าหนี้เอกชน 107,000 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อรวมความช่วยเหลือทั้งหมดเหล่านี้ก็จะเป็นเงิน 347,000 ล้านยูโร
อียูและไอเอ็มเอฟยืนกรานว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซต้องเคารพข้อตกลงที่ทำไว้ ไม่เช่นนั้นจะยกเลิกการอัดฉีดและส่งผลให้กรีซต้องล้มละลาย
กระนั้น เจ้าหน้าที่ยุโรป มีข้อเสนอแนะว่า ยังพอมีช่องทางในการประนีประนอมเงื่อนไขเงินกู้ และไซมอน จอห์นสัน อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟและอดีตที่ปรึกษาของเอเธนส์ระบุว่า อาจมีการขยายเส้นตายการลดยอดขาดดุลงบประมาณจากปี 2014 เป็นปี 2016 ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลชุดใหม่ต้องการเจรจาอย่างสุจริตใจหรือไม่ และอียูยังคงต้องการช่วยเหลือหรือไม่
นอกจากนี้มีรายงานว่า ธนาคารกลางจากโตเกียวถึงลอนดอนเตรียมความพร้อมเพื่อปกป้องธนาคารและสกุลเงินของตนเองในกรณีที่เกิดความปั่นป่วนหลังการเลือกตั้งกรีซ และผลการเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมจี20 วันจันทร์และอังคาร (18-19) ที่เม็กซิโก อีกด้วย
ตามกำหนดการ คูหาเลือกตั้งเปิดให้ประชาชนไปลงคะแนนตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. วันอาทิตย์ (17) ตามเวลาประเทศไทยหลังจากนั้นจะสามารถเผยแพร่เอ็กซิตโพลได้ ส่วนผลการนับคะแนนเบื้องต้นจะออกมาเวลาประมาณ 02.00 น. วันจันทร์ (18)
การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากรีซครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่การเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เดือนแล้วไม่มีพรรคใดสามารถตั้งรัฐบาลได้
โพลช่วงก่อนการเลือกตั้งระบุว่า อเล็กซิส ซีปราส ผู้นำแนวร่วมฝ่ายซ้าย ไซรีซา ได้คะแนนนิยมเบียดมาติดๆ กับอันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดี) ที่เป็นฝ่ายอนุรักษนิยม วัย 61 ปี
ซีปราสประกาศว่า กระแสในยุโรปกำลังเปลี่ยนขั้วเป็นต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด เขาแสดงความมั่นใจว่า ถ้าหากกรีซปฏิเสธไม่ยอมรับข้อตกลงเงินกู้ที่ทำเอาไว้ ทางสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็จะยังไม่ต้องการเสี่ยงปล่อยให้กรีซออกจากยูโร ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก
ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง เขายังกล่าวหาว่า ซามาราสปกป้อง “ยุโรปในอดีตของแมร์เคิล” ขณะที่ตัวเขา “รับประกันยุโรปแห่งอนาคต”
ด้านซามาราสต้องการทบทวนการเจรจาข้อตกลงเงินกู้ในระดับพอประมาณ และเตือนว่า การเลือกซีปราส จะทำให้กรีซต้องกลับไปใช้เงินสกุลแดรกมา
ทั้งนี้ ผลโพลบ่งบอกว่า แม้ชาวกรีกต้องทนทุกข์กับภาวะถดถอยรุนแรงมาถึง 5 ปี แต่พวกเขายังต้องการอยู่ในยูโรโซน ถึงจะโกรธแค้นการขึ้นภาษีครั้งแล้วครั้งเล่า การลดการใช้จ่ายของรัฐ และลดค่าแรง หลายคนไม่พอใจพรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรครัฐบาลในอดีตที่ถูกกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่นและไร้ประสิทธิภาพมาตลอดหลายสิบปี
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกหดหู่หลังจากลงคะแนน เพราะรู้ว่าเป็นอีกครั้งที่ต้องโหวตให้พวกที่สร้างปัญหา แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น ฉันโหวตให้แผนการกู้เศรษฐกิจเพราะจะทำให้เรายังคงอยู่รอดในยุโรป” คูลา ลุยโซปูลู ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 66 ปีบอก
"จริงอยู่เราต้องการยกเลิกระบบที่ไม่ได้ผล แต่ฉันเกรงว่า ซีปราสก็จะกลายเป็นผู้นำไร้น้ำยาเหมือนคนอื่นๆ และสถานการณ์อาจเลวร้ายลง” ดอรา โฟโตปูลู นักจิตวิทยาวัย 48 ปี สำทับ
คาดหมายกันว่า การเลือกตั้งครั้งที่สองคราวนี้ก็จะยังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากในสภา ทำให้ต้องมีการเจรจาเพื่อฟอร์มรัฐบาลผสม ซึ่งมีโอกาสมากที่พรรคประชาธิปไตยใหม่จะได้เป็นแกนกลางจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกัน พวกผู้นำยุโรปต่างออกมาเตือนว่า กรีซต้องเคารพพันธสัญญาเงินกู้กับเจ้าหนี้ต่างชาติ หาไม่ก็เสี่ยงที่จะต้องถอนตัวจากการใช้สกุลเงินยูโร ขณะที่อียูและไอเอ็มเอฟต่างระงับการปล่อยกู้แก่กรีซจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น
วันเสาร์ที่ผ่านมา (16) นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชาวกรีกคือ การเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เคารพเงื่อนไขของข้อตกลงฟื้นฟูเศรษฐกิจ
วันเดียวกัน ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) เตือนว่า การเลือกไซรีซาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ “ไม่คาดคิด” สำหรับยูโรโซน ขณะที่ตลาดระหว่างประเทศจับตาการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของกรีซชนิดแทบลืมหายใจ
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ลิเบราซิญองของฝรั่งเศสว่า จะเปิดการหารือกับรัฐบาลใหม่ของกรีซในสัปดาห์หน้า เนื่องจากไม่รู้เลยว่า มีการดำเนินการหรือไม่ดำเนินการเรื่องใดไปบ้างในช่วง 6-8 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กรีซถูกบีบให้ขอรับความช่วยเหลือเพื่อกู้เศรษฐกิจมาแล้ว 2 แพกเกจ แพกเกจแรกมูลค่า 110,000 ล้านยูโรในปี 2010 และแพกเกจที่สอง 130,000 ล้านยูโรในปีนี้ โดยยังไม่รวมการตัดบัญชีหนี้เสียกับเจ้าหนี้เอกชน 107,000 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อรวมความช่วยเหลือทั้งหมดเหล่านี้ก็จะเป็นเงิน 347,000 ล้านยูโร
อียูและไอเอ็มเอฟยืนกรานว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซต้องเคารพข้อตกลงที่ทำไว้ ไม่เช่นนั้นจะยกเลิกการอัดฉีดและส่งผลให้กรีซต้องล้มละลาย
กระนั้น เจ้าหน้าที่ยุโรป มีข้อเสนอแนะว่า ยังพอมีช่องทางในการประนีประนอมเงื่อนไขเงินกู้ และไซมอน จอห์นสัน อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟและอดีตที่ปรึกษาของเอเธนส์ระบุว่า อาจมีการขยายเส้นตายการลดยอดขาดดุลงบประมาณจากปี 2014 เป็นปี 2016 ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลชุดใหม่ต้องการเจรจาอย่างสุจริตใจหรือไม่ และอียูยังคงต้องการช่วยเหลือหรือไม่
นอกจากนี้มีรายงานว่า ธนาคารกลางจากโตเกียวถึงลอนดอนเตรียมความพร้อมเพื่อปกป้องธนาคารและสกุลเงินของตนเองในกรณีที่เกิดความปั่นป่วนหลังการเลือกตั้งกรีซ และผลการเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมจี20 วันจันทร์และอังคาร (18-19) ที่เม็กซิโก อีกด้วย