xs
xsm
sm
md
lg

ช่วยงาบที่ดินอัลไพน์พ่นพิษ ป.ป.ช.ฟัน"ยงยุทธ" ปชป.ได้ใจจ่อซักฟอกซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-เวรกรรมตามทัน! แก๊งงาบธรณีสงฆ์ ป.ป.ช.เตรียมแถลงฟัน "ยงยุทธ" คดีที่ดินอัลไพน์ หลังมีมติชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง ด้านมท.1 เช้าเครียด ตกบ่ายยิ้มร่า หลังรู้ไม่กระทบตำแหน่ง ทำแมน รอจังหวะรับผิดชอบทางการเมือง ปชป.ได้ใจ จ่อซักฟอกซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ได้มีการพิจารณาไต่สวนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สมัยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีการซื้อขายที่ดินวัดธรรมามิการามโดยมิชอบ ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากการชี้มูลความผิดของนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทย ที่มีความผิดกรณีการจดทะเบียนโอนมรดก และโอนสิทธิขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมามิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี จำนวน 732 ไร่ โดยมิชอบ

ทั้งนี้ ป.ป.ช.พบว่า ในช่วงที่นายยงยุทธเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ใช้อำนาจรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2545 ในการรับรองการซื้อขายที่ดินวัดธรรมาธิการราม กับบริษัท อัลไพน์ ว่ามีความถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยยืนยันว่า การได้มาของที่ดินดังกล่าวมีความถูกต้อง ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ ไม่สามารถซื้อขายหรือโอนได้ จนกว่าจะมีการตราเป็นกฎหมายออกมา ซึ่งต่อมาวันที่ 11 เม.ย.2545 คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า การกระทำดังกล่าวของนายยงยุทธไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะที่ดินธรณีสงฆ์ไม่สามารถซื้อขายหรือโอนได้

ดังนั้น คณะกรรมการป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว จึงมีมติด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3 เสียง ว่า การกระทำนายยงยุทธผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่วานนี้ (13 มิ.ย.) ท่าทีของนายยงยุทธ ซึ่งอยู่ระหว่างการร่วมเดินทางไปตรวจความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำกับ คณะของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงเช้า นายยงยุทธไม่ได้มาร่วมตักบาตรกับนายกรัฐมนตรี และเมื่อเวลา 08.05 น. นายยงยุทธได้เดินทางมาถึงสำนักชลประทานที่ 12 ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดก่อนจะเข้าไปยังห้องรับรองเพื่อพบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่รออยู่ก่อนแล้วประมาณ 5 นาที โดยนายยงยุทธกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ตอนนี้ยังไม่ทำอะไร

เมื่อถามว่า จะมีขั้นตอนการอุทธรณ์หรือทำการชี้แจงต่อ ป.ป.ช. หรือไม่ นายยงุทธ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดเลย ตอนนี้คงต้องรอขั้นตอนและเอกสารต่างๆ จากทาง ป.ป.ช. ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวยอมรับว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้มีการพิจารณา

กรณีดังกล่าว แต่สาเหตุที่ไม่มีการแถลงข่าวนั้น เนื่องจากนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีจะเป็นผู้เขียนสำนวนและแถลงผลการพิจารณาคดีด้วยตนเอง แต่นายวิชามีภารกิจต่อเนื่องที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ทราบว่ายังเขียนสำนวนคดีไม่แล้วเสร็จ ซึ่งคงจะมีการแถลงในรายละเอียดภายหลังนายวิชาเดินทางกลับมาแล้ว

เมื่อถามว่า การพิจารณาชี้มูลคดีของป.ป.ช. จะมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีของนายยงยุทธหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ไม่มีผล นายยงยุทธยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เพราะในช่วงที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวนายยงยุทธไม่ได้อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรี แต่อยู่ในตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 55ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ทั้งนี้ สำหรับการยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดให้ดำเนินการต่อนั้น ต้องให้ที่ประชุม ป.ป.ช. รับรองมติอีกครั้งก่อนจึงจะส่งได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทราบเรื่องนี้ ในช่วงบ่ายนายยงยุทธ ได้ให้คนติดตามนำเอกสารข่าวการชี้แจงของนายกล้านรงค์มาแจกจ่ายกับสื่อมวลชน จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองยอมรับการชี้มูลของ ป.ป.ช. และถือเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการยุติธรรม เพราะมีอัยการสูงสุดและศาล ส่วนจะดำเนินการต่อสู้คดีอย่างไร ไม่ให้กระทบต่อหน้าที่ในปัจจุบันนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าต้องมีความรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของกระบวนการแรก และ ป.ป.ช.ก็ออกมาแถลงว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งต้องดูไปตามข้อกฎหมาย ส่วนจะแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองหรือไม่นั้น ตนก็คิดอยู่หลายอย่างและต้องดูจังหวะ แต่มีแนวทางการต่อสู้ต่อไปอยู่ในใจแล้ว ทั้งนี้ ยังไม่ได้หารือกับนายกฯ รวมถึงบุคคล และไม่ได้ไปไกลว่าจะมีกระบวนการล้มรัฐบาล

“การรับผิดชอบ อย่าคาดคั้น เพราะผมจะใช้ดุลพินิจของตัวเอง ก็ดูกันไป แต่ ณ วันนี้ ได้มีการชี้มูลและกรรมการ ป.ป.ช. เองได้บอกว่าตัวบทกฎหมาย ตนเองยังทำงานได้อยู่ และโดยหลักกฎหมายทั่วไป ถือว่าเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะพิพากษา ขอให้สื่อมวลชนมองทุกอย่างด้วยเป็นธรรม เห็นข่าวบอกว่าตนเอง ไม่เป็นหรอกครับ ชีวิตของคนเหมือนธรรมชาติ ที่มีสว่าง มีฝนตก มีฟ้าร้อง มีท้องฟ้าที่ใสสว่าง มีชีวิตเหมือนน้องๆ ทุกคนที่ไม่มีอะไรที่สะดวกสบายไปตลอด ก็มีปัญหาอุปสรรค์เป็นธรรมดา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์ นายยงยุทธ แสดงสีหน้าและอารมณ์ดีกว่าช่วงเช้า โดยมีการชูนิ้วชี้สองมือ แสดงการสู้ๆ ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ด้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยิ้มรับหลังสื่อถามสบายใจหรือไม่ที่นายยงยุทธ ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่ง
ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีนี้ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าควรจะออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทยหรือไม่ โดยระบุว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏเกณฑ์ กติกา และไม่หวังว่านายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะมีดุลพินิจให้นายยงยุทธพ้นจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพราะการใช้ดุลพินิจของรัฐบาลชุดนี้ แตกต่างจากประชาชนทั่วไป โดยเลือกที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ดินอัลไพน์ อาจจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ 2 หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีนี้ ในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากในกรณีนี้ ตัวละครเดิมกลับมามีอำนาจ และทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดิม ซึ่งเป็นความต่อเนื่องที่อาจจะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจในระหว่างการเปิดประชุมสภาสมัยหน้าได้อีก ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งทนายความเพื่อไปฟ้องคดี นายเสนาะ เทียนทอง อดีต รมช.มหาดไทยเอง หลังจากที่ทางอัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยแจ้งกลับมาว่าไม่สมบูรณ์ และอ้างว่าจากการพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว ไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากคณะทำงานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดเห็นว่าพยานหลักฐาน ยังฟังไม่ได้ ว่านายเสนาะ กระทำความผิด ซึ่งคณะทำงานฝ่ายป.ป.ช. เห็นว่ามีเอกสารครบถ้วน ฉะนั้นจึงต้องเป็นไปตามมาตรา 11 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาความ ของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของนักการเมือง คณะกรรมการป.ป.ช.จึงต้องฟ้องนายเสนาะเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น