ASTVผู้จัดการรายวัน-หมอวรงค์ จองเวรนักเล่าข่าว ซัดไม่เป็นธรรม ไล่ไปสมัคร เป็นโฆษกเพื่อไทย เมินโพลไม่ยอมขอโทษประชาชน ด้าน"สาทิตย์" ปัดนั่งปธ.กก.ตรวจสอบการนำเสนอข่าว ย้ำไม่แทรกแซงคุกคามสื่อ
วานนี้(5 มิ.ย.55) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากกรณีที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวว่า ตนเองจะเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นถือเป็นการเข้าใจผิดของนายบุญยอด ซึ่งเจตนานั้นตั้งใจที่จะขอโอกาสนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ใช่การเข้าไปตรวจสอบ หรือการแทรกแซงการทำงานของสื่อเพราะแม้แต่ช่วยที่เป็นรัฐบาลยังทำไม่ได้แล้วช่วงที่เป็นฝ่ายค้านจะทำได้อย่างไร
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคงจะเป็นการขอโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุย หรือทำหนังสือชี้แจง ซึ่งถือหรือการติดต่อเข้าไปชี้แจงพูดคุยซึ่งจะเป็นไปด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย เหมือนเช่นกรณี การเข้าพบ นายสรยุทธ สุทธทัศนจินดา ซึ่งมีการนัดผ่านกองบรรณาธิการข่าว อย่างไรก็ตามในส่วนของสื่อของรัฐอย่างช่อง 9 อสมท. หากมีการนำเสนอข่าวขอมูลด้านเดียวก็ขอเรียกร้องให้มีการเชิญบุคคลที่มีความเห็นต่างออกมาให้ความคิดเห็นบ้าง ยืนยันว่าไม่มีการคุกคามสื่อแต่อย่างไร
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายสรยุทธให้เสนอข่าวอย่างรอบด้านถึงที่มาที่ไป แต่พฤติกรรมของนายสรยุทธกระทำตัวเป็นเหมือนโฆษกพรรคเพื่อไทย หากอยากเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยจริง ก็ควรไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค แล้วทำหน้าที่เป็นโฆษกไปเลย อย่ามาใช้ช่องทางของสื่อหลักแบบนี้
เมื่อถามว่า การสำรวจความคิดเห็นประชาชนต้องการให้ ส.ส.ที่กระทำให้รัฐสภาเสื่อมเสียออกมาขอโทษประชาชน นพ.วรงค์กล่าวว่า ทุกสิ่งมีที่มาที่ไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพฤติกรรมสะสมของประธานสภา ตนก็ยอมรับพร้อมที่จะเจ็บ ถ้ามองว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสม แต่ตนถือว่าเป็นการทำเพื่อชาติ เมื่อถามย้ำว่า จะไม่ขอโทษประชาชน นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน อย่ามองแค่พฤติกรรมการโยนหนังสือใส่ประธาน จะโทษต้องโทษประธานด้วยที่ทำตัวไม่เป็นกลาง ขนาดสื่อมวลชนยังตั้งฉายา "ค้อนปลอม ตราดูไบ"
เมื่อถามว่า หากพฤติกรรมของประธานยังไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าจะยังทำพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิด แต่การแสดงออกก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปัญหา เมื่อถามว่าช่องทางการตรวจสอบและถอดถอนประธานสภาออกจากตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ดำเนินการอยู่ แต่ทำไมต้องทำให้ระบบรัฐสภาล้มไปด้วย นพ.วรงค์กล่าวว่า สภาไม่ได้ล่ม แต่เราต้องการกระตุกแรงๆ ให้ประชาชนรู้ ไม่เช่นนั้นคนทำผิดซ้ำซากจะได้ใจa
วานนี้(5 มิ.ย.55) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากกรณีที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวว่า ตนเองจะเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นถือเป็นการเข้าใจผิดของนายบุญยอด ซึ่งเจตนานั้นตั้งใจที่จะขอโอกาสนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ใช่การเข้าไปตรวจสอบ หรือการแทรกแซงการทำงานของสื่อเพราะแม้แต่ช่วยที่เป็นรัฐบาลยังทำไม่ได้แล้วช่วงที่เป็นฝ่ายค้านจะทำได้อย่างไร
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคงจะเป็นการขอโอกาสที่จะเข้าไปพูดคุย หรือทำหนังสือชี้แจง ซึ่งถือหรือการติดต่อเข้าไปชี้แจงพูดคุยซึ่งจะเป็นไปด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย เหมือนเช่นกรณี การเข้าพบ นายสรยุทธ สุทธทัศนจินดา ซึ่งมีการนัดผ่านกองบรรณาธิการข่าว อย่างไรก็ตามในส่วนของสื่อของรัฐอย่างช่อง 9 อสมท. หากมีการนำเสนอข่าวขอมูลด้านเดียวก็ขอเรียกร้องให้มีการเชิญบุคคลที่มีความเห็นต่างออกมาให้ความคิดเห็นบ้าง ยืนยันว่าไม่มีการคุกคามสื่อแต่อย่างไร
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายสรยุทธให้เสนอข่าวอย่างรอบด้านถึงที่มาที่ไป แต่พฤติกรรมของนายสรยุทธกระทำตัวเป็นเหมือนโฆษกพรรคเพื่อไทย หากอยากเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยจริง ก็ควรไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค แล้วทำหน้าที่เป็นโฆษกไปเลย อย่ามาใช้ช่องทางของสื่อหลักแบบนี้
เมื่อถามว่า การสำรวจความคิดเห็นประชาชนต้องการให้ ส.ส.ที่กระทำให้รัฐสภาเสื่อมเสียออกมาขอโทษประชาชน นพ.วรงค์กล่าวว่า ทุกสิ่งมีที่มาที่ไป สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพฤติกรรมสะสมของประธานสภา ตนก็ยอมรับพร้อมที่จะเจ็บ ถ้ามองว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสม แต่ตนถือว่าเป็นการทำเพื่อชาติ เมื่อถามย้ำว่า จะไม่ขอโทษประชาชน นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน อย่ามองแค่พฤติกรรมการโยนหนังสือใส่ประธาน จะโทษต้องโทษประธานด้วยที่ทำตัวไม่เป็นกลาง ขนาดสื่อมวลชนยังตั้งฉายา "ค้อนปลอม ตราดูไบ"
เมื่อถามว่า หากพฤติกรรมของประธานยังไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าจะยังทำพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิด แต่การแสดงออกก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปัญหา เมื่อถามว่าช่องทางการตรวจสอบและถอดถอนประธานสภาออกจากตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ดำเนินการอยู่ แต่ทำไมต้องทำให้ระบบรัฐสภาล้มไปด้วย นพ.วรงค์กล่าวว่า สภาไม่ได้ล่ม แต่เราต้องการกระตุกแรงๆ ให้ประชาชนรู้ ไม่เช่นนั้นคนทำผิดซ้ำซากจะได้ใจa
