วานนี้ (4 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังจับตาอยู่นั้น คือการทำงานของสื่อมวลชน ที่พรรคกำลังจะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ การทำงานของสื่อทุกแขนง สิ่งที่เราทำไปแล้วคือการที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นหนังสือต่อ ช่อง 3 และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ซึ่งมีคำอธิบายในวันที่ 2 มิ.ย.ในทำนองว่า ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว แต่ว่าตนเห็นว่าเนื้อหาสาระที่แท้จริง ของพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาตินั้น สื่อช่อง 3 หรือแม้แต่สื่ออื่น ๆ ไม่มีการเขียนลงรายละเอียดว่า พ.ร.บ.นี้มีความผิดปกติหรือไม่
นายบุญยอดกล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท.มีการจัดรายการพิเศษรายการหนึ่ง ซึ่งมีการเชิญนักวิชาการมาคุยเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีคำสั่งไปยังสภาให้ระงับการลงมติวาระ 3 ของการแก้รัฐธรรมนูญไว้ก่อน ซึ่งนักวิชาการทั้ง 2 คนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ศาลไม่น่าจะมาก้าวล่วง ตนเห็นว่ารายการเมื่อวานนี้เป็นการเลือกข้าง และเสนอความคิดเห็นเพียงข้างเดียว ตนจึงขอเรียกร้องว่าช่อง 9 จะต้องจัดรายการเพิ่มอีกหนึ่งรายการ เพื่อให้นักวิชาการอีกข้างหนึ่งหรือศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกมาอธิบายว่าศาลจึงมีคำสั่งออกมาเช่นนั้น เพื่อความสมดุล สิ่งที่น่าจับตาของช่อง 9 ขณะนี้คือมีการเปลี่ยนตำแหน่งซีอีโอ
จากนายจักรพันธุ์ ยมจินดา มาเป็นนายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา ซึ่งนายเปรมกมลย์เป็นนักกฎหมายไม่ใช่สื่อสารมวลชน ซึ่งนายเปรมกมลย์อยู่ในค่ายของนายวินัย ทองแตง ซึ่งถูกสั่งมาดำรงตำแหน่งขณะนี้ ต้องจับตาว่าผู้ที่เข้ามารับตำแหน่ง จะรับคำสั่งตรงจากรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน ตนมีคนรู้จักอยู่ใน อ.ส.ม.ท.ในระดับผู้บริหารอยู่หลายคนบอกกับตนว่าที่นายจักรพันธุ์ต้องออกจากตำแหน่ง เพราะว่าถูกกดดันจากรัฐบาลในการสั่งให้ดำเนินการย้ายหัวหน้างานสำคัญบางคนใน อ.ส.ม.ท.ออกไป แต่นายจักรพันธุ์ไม่ทำตามซึ่งตนขอชมการมีจิตวิญญาณสื่อสารมวลชน ตลอดการทำงานมา 30 ปี อย่างไรก็ตามเรากำลังจะจับตา อ.ส.ม.ท.ที่เป็นองค์กรจากภาษีประชาชน จะยังคงเป็นสื่อสารมวลชนต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้สัปดาห์หน้านายสาทิตย์ วงหนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นหัวหน้าคณะในการตั้งคณะทำงานจับตาดูทุกบทความทุกรายการที่นำเสนอ หากรายการหรือบทความใดขาดข้อเท็จจริง เราจะนำข้อเท็จจริงไปยังท่าน
ด้านนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าส่วนการที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปกดดันนายสรยุทธ สุทัศนะจินดานั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก้าวล่วงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพรรคออกมารับผิดชอบทางการเมืองโดยการออกมาขอโทษประชาชน และเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการสอบจริยธรรมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อเหตุความวุ่นวายในสภา รวมทั้งพิจารณาบทลงโทษในการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและไม่เคารพประชาชน มิเช่นนั้นจะถือว่าอยู่เบื้องหลังในการสนับสนุน และหลังจากนี้ส.ส.จะได้ใจ และจะเกิดขึ้นอีกต่อไป และหากทำไม่ได้ก็เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์เพียงอย่างเดียว
นายบุญยอดกล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท.มีการจัดรายการพิเศษรายการหนึ่ง ซึ่งมีการเชิญนักวิชาการมาคุยเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีคำสั่งไปยังสภาให้ระงับการลงมติวาระ 3 ของการแก้รัฐธรรมนูญไว้ก่อน ซึ่งนักวิชาการทั้ง 2 คนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ศาลไม่น่าจะมาก้าวล่วง ตนเห็นว่ารายการเมื่อวานนี้เป็นการเลือกข้าง และเสนอความคิดเห็นเพียงข้างเดียว ตนจึงขอเรียกร้องว่าช่อง 9 จะต้องจัดรายการเพิ่มอีกหนึ่งรายการ เพื่อให้นักวิชาการอีกข้างหนึ่งหรือศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกมาอธิบายว่าศาลจึงมีคำสั่งออกมาเช่นนั้น เพื่อความสมดุล สิ่งที่น่าจับตาของช่อง 9 ขณะนี้คือมีการเปลี่ยนตำแหน่งซีอีโอ
จากนายจักรพันธุ์ ยมจินดา มาเป็นนายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา ซึ่งนายเปรมกมลย์เป็นนักกฎหมายไม่ใช่สื่อสารมวลชน ซึ่งนายเปรมกมลย์อยู่ในค่ายของนายวินัย ทองแตง ซึ่งถูกสั่งมาดำรงตำแหน่งขณะนี้ ต้องจับตาว่าผู้ที่เข้ามารับตำแหน่ง จะรับคำสั่งตรงจากรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน ตนมีคนรู้จักอยู่ใน อ.ส.ม.ท.ในระดับผู้บริหารอยู่หลายคนบอกกับตนว่าที่นายจักรพันธุ์ต้องออกจากตำแหน่ง เพราะว่าถูกกดดันจากรัฐบาลในการสั่งให้ดำเนินการย้ายหัวหน้างานสำคัญบางคนใน อ.ส.ม.ท.ออกไป แต่นายจักรพันธุ์ไม่ทำตามซึ่งตนขอชมการมีจิตวิญญาณสื่อสารมวลชน ตลอดการทำงานมา 30 ปี อย่างไรก็ตามเรากำลังจะจับตา อ.ส.ม.ท.ที่เป็นองค์กรจากภาษีประชาชน จะยังคงเป็นสื่อสารมวลชนต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้สัปดาห์หน้านายสาทิตย์ วงหนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นหัวหน้าคณะในการตั้งคณะทำงานจับตาดูทุกบทความทุกรายการที่นำเสนอ หากรายการหรือบทความใดขาดข้อเท็จจริง เราจะนำข้อเท็จจริงไปยังท่าน
ด้านนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าส่วนการที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปกดดันนายสรยุทธ สุทัศนะจินดานั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก้าวล่วงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพรรคออกมารับผิดชอบทางการเมืองโดยการออกมาขอโทษประชาชน และเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการสอบจริยธรรมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อเหตุความวุ่นวายในสภา รวมทั้งพิจารณาบทลงโทษในการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบและไม่เคารพประชาชน มิเช่นนั้นจะถือว่าอยู่เบื้องหลังในการสนับสนุน และหลังจากนี้ส.ส.จะได้ใจ และจะเกิดขึ้นอีกต่อไป และหากทำไม่ได้ก็เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์เพียงอย่างเดียว
