ASTVผู้จัดการรายวัน - เผยผลประกอบการ-ความนิยมของผู้เข้าชมเวปไซต์ เพิ่มกว่า 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา “พร็อพเพอร์ตี้ กูรู”เผยล่าสุดได้ทุ่มงบพัฒนาแอปพลิเคชั่น รองรับการเติบโตของตลาดที่ผู้บริโภคหันมาข้อมูลต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟน ดันยอดผู้เข้าชมเวปไซต์ผ่านมือถือในไทยกว่า 16%มั่นใจครองตลาดธุรกิจให้บริการเวปศูนย์รวมอสังหาฯอันดับหนึ่งในเอเชีย
นายสตีฟ เมลฮูอิช ประธานกลุ่ม บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ กูรู จำกัด กล่าวว่า ความนิยมของผู้บริโภคในการเข้าชม ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ การลงทุน และการซื้อ ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ ผ่านเวปไซต์ พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ในช่วงต้นปี2555 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยในปี2555 นี้ผลประกอบการของพร็อพเพอร์ตี้ กูรู เติบโตมากขึ้นถึง 2.4 เท่า โดย 50% แรกมาจากการการเติบโตของตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ (Agent) ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกมากถึง 19,100 บริษัท และกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนหนึ่งคือ การเติบโตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ non property advertiser และ ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากแผนทางธุรกิจของพร็อพเพอร์ตี้ กูรูวางไว้อย่างชัดเจนในการขยายธุรกิจให้บริการเว็บศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Portal Web) สู่ระดับภูมิภาคตั้งแต่ปี 2554
จากผลการสำรวจ พบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอินเตอร์เนต มีมากขึ้นถึง 128% หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8.2 ล้านคน และมีคนเข้ามาใช้บริการเลือกชมอสังหาริมทรัพย์กว่า 65 ล้านเพจข้อมูล ในช่วงเดือนเมษายน 2012 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีเพียง 3.6 ล้านคนเท่านั้น
สำหรับในประเทศสิงคโปร์ ผลจาก Google AdPlanner พบว่า จำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์ของพร็อพเพอร์ตี้ กูรู ทั้ง 2 เวปไซต์ คือ www.propertyGufu.com.sg และ www.CommercialGuru.com.sg กว่า 85%เป็นผู้ต้องการหาบ้าน และมีพฤติกรรมที่จะค้นหาบ้านจากการเซิร์สผ่านเว็ปศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาเพื่อดูรายละเอียดสินค้า และเปรียบเทียบกับเวปไซต์คู่แข่ง ตัวเลขกว่า 85%ที่เข้ามายังเวปของพร็อพเพอร์ตี้กูรูแสดงให้เห็นว่า พร็อพเพอร์ตี้กูรูเป็นเวปหลักที่มีกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเติบโตในลักษณะนี้ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และประเทศไทย ดังนั้น พร็อพเพอร์ตี้ กูรู จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายธุรกิจ ขยายฐานการตลาดและสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดในระดับภูมิภาคในระยะเวลาอันรวดเร็ว
นายสตีฟ เมลฮูอิช กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้เม็ดเงินลงทุนอย่างมหาศาลในการพัฒนาโมบาย แอปพลิเคชั่น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่ผู้บริโภคหันมาข้อมูลต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น การพัฒนาแอปพลิเคชั่นทั้งบนสมาร์ทโฟน และบนแทปเล็ต รวมถึง 12 แอปพลิเคชั่น ใน 4 ประเทศ ซึ่งแอปพลิเคชั่นล่าสุด คือ Blackberry Agent app และ Blackberry Consumer app ซึ่งพร็อพเพอร์ตี้ กูรูได้พัฒนาเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในอินโดนีเซีย ส่วน Andrion application นั้นจะมีอยู่ในประเทศมาเลเซีย , IPhone App จะมีอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าดูถึง 4 ล้านเพจวิว ต่อเดือน และ ถูกค้นหามากกว่า 25,000 ครั้ง จากตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ (Agent)
ซึ่งจากการพัฒนาระบบโมบาย แอปพลิเคชั่น ทำให้บริษัทมีตัวเลขการเข้าชมเวปไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ โดยในประเทศสิงคโปร์ มีผู้ที่ต้องการค้นหาที่อยู่อาศัยกว่า 26 % จากการสมาร์ทโฟน และมี 15 % ในประเทศมาเลเซีย , 16%ในประเทศไทย ซึ่งเห็นได้ว่าการพัฒนาธุรกิจผ่านแอปพลิเคชั่นนั้นมีแนวโน้มมากขึ้นตามลำดับ
“การออกตัวของธุรกิจในปีนี้ดีอย่างเหลือเชื่อ ทั้งด้านผลประกอบการ , ด้านของจำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์ และความสนใจจากตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ ได้เติบโตขึ้นแบบเกินความคาดหมาย ทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถครองเจ้าตลาดให้บริการเว็บศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ ในระดับภูมิภาคเอเชียได้อย่างไม่น่ามีปัญหาใดๆ ทั้งหมดเป็นผลมาจากความร่วมมือของกลุ่มเรา ซึ่งมีอีก 9 ประเทศ และพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมาย การลงทุนของเรายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านของนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเห็นได้จากการที่แอปของเราได้รับการดาวน์โหลดมากกว่า 111,000 ครั้งในระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือนที่ผ่านมา”
นายสตีฟ เมลฮูอิช ประธานกลุ่ม บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ กูรู จำกัด กล่าวว่า ความนิยมของผู้บริโภคในการเข้าชม ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ การลงทุน และการซื้อ ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ ผ่านเวปไซต์ พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ในช่วงต้นปี2555 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยในปี2555 นี้ผลประกอบการของพร็อพเพอร์ตี้ กูรู เติบโตมากขึ้นถึง 2.4 เท่า โดย 50% แรกมาจากการการเติบโตของตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ (Agent) ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกมากถึง 19,100 บริษัท และกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนหนึ่งคือ การเติบโตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ non property advertiser และ ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากแผนทางธุรกิจของพร็อพเพอร์ตี้ กูรูวางไว้อย่างชัดเจนในการขยายธุรกิจให้บริการเว็บศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Portal Web) สู่ระดับภูมิภาคตั้งแต่ปี 2554
จากผลการสำรวจ พบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอินเตอร์เนต มีมากขึ้นถึง 128% หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8.2 ล้านคน และมีคนเข้ามาใช้บริการเลือกชมอสังหาริมทรัพย์กว่า 65 ล้านเพจข้อมูล ในช่วงเดือนเมษายน 2012 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีเพียง 3.6 ล้านคนเท่านั้น
สำหรับในประเทศสิงคโปร์ ผลจาก Google AdPlanner พบว่า จำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์ของพร็อพเพอร์ตี้ กูรู ทั้ง 2 เวปไซต์ คือ www.propertyGufu.com.sg และ www.CommercialGuru.com.sg กว่า 85%เป็นผู้ต้องการหาบ้าน และมีพฤติกรรมที่จะค้นหาบ้านจากการเซิร์สผ่านเว็ปศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาเพื่อดูรายละเอียดสินค้า และเปรียบเทียบกับเวปไซต์คู่แข่ง ตัวเลขกว่า 85%ที่เข้ามายังเวปของพร็อพเพอร์ตี้กูรูแสดงให้เห็นว่า พร็อพเพอร์ตี้กูรูเป็นเวปหลักที่มีกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเติบโตในลักษณะนี้ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย และประเทศไทย ดังนั้น พร็อพเพอร์ตี้ กูรู จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขยายธุรกิจ ขยายฐานการตลาดและสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดในระดับภูมิภาคในระยะเวลาอันรวดเร็ว
นายสตีฟ เมลฮูอิช กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้เม็ดเงินลงทุนอย่างมหาศาลในการพัฒนาโมบาย แอปพลิเคชั่น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่ผู้บริโภคหันมาข้อมูลต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น การพัฒนาแอปพลิเคชั่นทั้งบนสมาร์ทโฟน และบนแทปเล็ต รวมถึง 12 แอปพลิเคชั่น ใน 4 ประเทศ ซึ่งแอปพลิเคชั่นล่าสุด คือ Blackberry Agent app และ Blackberry Consumer app ซึ่งพร็อพเพอร์ตี้ กูรูได้พัฒนาเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในอินโดนีเซีย ส่วน Andrion application นั้นจะมีอยู่ในประเทศมาเลเซีย , IPhone App จะมีอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าดูถึง 4 ล้านเพจวิว ต่อเดือน และ ถูกค้นหามากกว่า 25,000 ครั้ง จากตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ (Agent)
ซึ่งจากการพัฒนาระบบโมบาย แอปพลิเคชั่น ทำให้บริษัทมีตัวเลขการเข้าชมเวปไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ โดยในประเทศสิงคโปร์ มีผู้ที่ต้องการค้นหาที่อยู่อาศัยกว่า 26 % จากการสมาร์ทโฟน และมี 15 % ในประเทศมาเลเซีย , 16%ในประเทศไทย ซึ่งเห็นได้ว่าการพัฒนาธุรกิจผ่านแอปพลิเคชั่นนั้นมีแนวโน้มมากขึ้นตามลำดับ
“การออกตัวของธุรกิจในปีนี้ดีอย่างเหลือเชื่อ ทั้งด้านผลประกอบการ , ด้านของจำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์ และความสนใจจากตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ ได้เติบโตขึ้นแบบเกินความคาดหมาย ทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถครองเจ้าตลาดให้บริการเว็บศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์ ในระดับภูมิภาคเอเชียได้อย่างไม่น่ามีปัญหาใดๆ ทั้งหมดเป็นผลมาจากความร่วมมือของกลุ่มเรา ซึ่งมีอีก 9 ประเทศ และพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมาย การลงทุนของเรายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านของนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเห็นได้จากการที่แอปของเราได้รับการดาวน์โหลดมากกว่า 111,000 ครั้งในระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือนที่ผ่านมา”
