ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบช.น.นำทีมแถลงจับโจ๋เลือดร้อนยิง ด.ต.จราจร สน.โชคชัย ดับใกล้ร้านชายคาพักกาย อ้างเกียร์รถค้างทำให้เสียงดังรำคาญ ก่อนถูกผู้ตายเข้ามาด่าทอ เกิดโมโหยิงปืนขึ้นฟ้า ผู้ตายเข้ามาแย่งปืนจนปืนลั่นใส่เสียชีวิต พบประวัติเคยมีคดีติดตัวมาแล้ว 3 คดี ทั้งทำร้ายร่างกาย-ลักทรัพย์-อาวุธปืน
วานนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีการแถลงข่าวการจับกุม นายภาณุพล ธรรมอุด อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 563/12 ซ.รามคำแหง 39 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 735/55 ลงวันที่ 21 พ.ค. 2555 พร้อมของกลาง อาวุธปืน รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และ รถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ หมายเลขทะเบียน ฌฮ-5256 กทม. โดยสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ถนนบางแสนสาย 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการสอบพยานในที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น ขับรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์ทอง สืบทราบภายหลังคนร้าย คือ นายภาณุพล โดยผู้ต้องหาจะมารับแฟนสาวเป็นประจำที่ร้านชายคาพักกาย ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุในช่วงดึก และได้หายตัวไปจากบ้านพัก ซึ่งสืบทราบ ได้หลบหนีไปจ.ชลบุรี จึงติดตามจับกุมตัวมาได้ในที่สุด นอกจากนี้ สำหรับของกลาง อาวุธปืนดังกล่าว สามารถตามยึดได้ที่ริมคลอง 7 ถ.รังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่วนรถยนต์คันก่อเหตุ ตรวจยึดได้ที่ ถ.แฮปปี้แลนด์สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยมีคดีมาแล้ว 3 คดี ได้แก่ 1.คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ที่สน.วังทองหลาง เมื่อปี 2550, 2.คดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อปี 2552 และ 3.คดีมีอาวุธไว้ในครอบครอง สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อปี 2553
"ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าในวันเกิดเหตุได้ขับรถไปรับแฟนสาว ซึ่งมาเที่ยวที่นี้อยู่เป็นประจำ โดยตนได้ขับรถไปถึงที่ร้านดังกล่าว เป็นจังหวะที่รถของตนมีปัญหา คือ เกียร์ค้างทำให้เกิดเสียงดังรำคาญ ต่อมา ด.ต.ประทิน จำปาหอม ผบ.หมู่ (จร.) สน.โชคชัย ได้เข้ามาด่าต่อว่าตน ทำให้รู้สึกโมโห จึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด จากนั้น ด.ต.ประทิน ได้เดินเข้ามาหาตน และยื้อแย่งปืนกันจนทำให้ปืนลั่นใส่ ด.ต.ประทิน เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุได้หนีไปจ.ชลบุรี กับแฟนสาว โดยเดินทางหลบหนีไปด้วยรถตู้สาธารณะ ทั้งนี้ ไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ส่วนอาวุธปืที่ก่อเหตุดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจากเพื่อนแถวบ้านอีกที ในราคา 8,000 บาท"
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น ” พร้อมนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วานนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีการแถลงข่าวการจับกุม นายภาณุพล ธรรมอุด อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 563/12 ซ.รามคำแหง 39 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 735/55 ลงวันที่ 21 พ.ค. 2555 พร้อมของกลาง อาวุธปืน รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และ รถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ หมายเลขทะเบียน ฌฮ-5256 กทม. โดยสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ถนนบางแสนสาย 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการสอบพยานในที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น ขับรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์ทอง สืบทราบภายหลังคนร้าย คือ นายภาณุพล โดยผู้ต้องหาจะมารับแฟนสาวเป็นประจำที่ร้านชายคาพักกาย ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุในช่วงดึก และได้หายตัวไปจากบ้านพัก ซึ่งสืบทราบ ได้หลบหนีไปจ.ชลบุรี จึงติดตามจับกุมตัวมาได้ในที่สุด นอกจากนี้ สำหรับของกลาง อาวุธปืนดังกล่าว สามารถตามยึดได้ที่ริมคลอง 7 ถ.รังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่วนรถยนต์คันก่อเหตุ ตรวจยึดได้ที่ ถ.แฮปปี้แลนด์สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยมีคดีมาแล้ว 3 คดี ได้แก่ 1.คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ที่สน.วังทองหลาง เมื่อปี 2550, 2.คดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อปี 2552 และ 3.คดีมีอาวุธไว้ในครอบครอง สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อปี 2553
"ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าในวันเกิดเหตุได้ขับรถไปรับแฟนสาว ซึ่งมาเที่ยวที่นี้อยู่เป็นประจำ โดยตนได้ขับรถไปถึงที่ร้านดังกล่าว เป็นจังหวะที่รถของตนมีปัญหา คือ เกียร์ค้างทำให้เกิดเสียงดังรำคาญ ต่อมา ด.ต.ประทิน จำปาหอม ผบ.หมู่ (จร.) สน.โชคชัย ได้เข้ามาด่าต่อว่าตน ทำให้รู้สึกโมโห จึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด จากนั้น ด.ต.ประทิน ได้เดินเข้ามาหาตน และยื้อแย่งปืนกันจนทำให้ปืนลั่นใส่ ด.ต.ประทิน เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุได้หนีไปจ.ชลบุรี กับแฟนสาว โดยเดินทางหลบหนีไปด้วยรถตู้สาธารณะ ทั้งนี้ ไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ส่วนอาวุธปืที่ก่อเหตุดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจากเพื่อนแถวบ้านอีกที ในราคา 8,000 บาท"
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น ” พร้อมนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป