เฟซบุ๊ก เว็บไซต์เครือข่ายสังคมอันดับหนึ่งที่มีสมาชิกใช้งานเรือนพันล้าน กำลังนำหุ้นออกมาเสนอขายต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ซึ่งเป็นขั้นตอนของการเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง โดยที่การทำไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ซิลิคอน แวลลีย์ ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันศุกร์ (18) นี้ ผู้ได้สิทธิ์รวยเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยล้านพันล้านดอลลาร์ ก็หนีไม่พ้นบรรดาผู้ที่ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว
สัปดาห์นี้ เฟซบุ๊กตัดสินใจเพิ่มจำนวนการนำหุ้นออกทำไอพีโอขึ้นอีก 25% เป็น 421 ล้านหุ้น รวมทั้งขยับช่วงราคาเป้าหมายเป็น 34-38 ดอลลาร์ต่อหุ้น สืบเนื่องจากกระแสนักลงทุนที่กระตือรือร้นเหลือเกิน ในการขอเป็นส่วนหนึ่งของการทำไอพีโอที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 3 ในสหรัฐฯคราวนี้
ผลลัพธ์คือ เว็บไซต์เครือข่ายสังคมแห่งนี้และผู้ถือหุ้นจะโกยเงินเข้ากระเป๋ารวมกันกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์จากการทำไอพีโอ หรือเพิ่มขึ้น 5,000 ล้านดอลลาร์จากที่เฟซบุ๊กคาดไว้เมื่อต้นเดือนว่าจะระดมทุนได้ 11,000 ล้านดอลลาร์
ในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) เมื่อวันพุธ (16) เฟซบุ๊กระบุว่า บริษัทจะไม่นำหุ้นออกมาขายเพิ่มจากที่ระบุไว้ แต่นักลงทุนที่มีหุ้นเฟซบุ๊กอยู่แล้ว เช่น โกลด์แมน แซคส์, ปีเตอร์ ธีล ผู้ก่อตั้งเพย์พาล จะนำหุ้นในมือออกมาขายรวมมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ
ผู้ที่จะนำหุ้นออกขายมากที่สุดคือ บริษัทธุรกิจร่วมลงทุน แอกเซล พาร์ตเนอร์ส ที่คาดว่าจะทำเงินได้เกือบ 1,770 ล้านดอลลาร์ หากหุ้นของเฟซบุ๊กเทรดที่ราคา 36 ดอลลาร์
ไมเนอร์ส ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์ จะนำหุ้นออกขาย 19 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,600 ล้านดอลลาร์ และ 705 ล้านดอลลาร์สำหรับ Mail.ru ของมหาเศรษฐีรัสเซีย ยูริ มิลเนอร์
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์เตรียมนำหุ้นออกขายเพิ่มอีกเท่าตัวจากที่วางแผนไว้คือ 28.7 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน นักลงทุนรายใหญ่ของเฟซบุ๊กมีอาทิ ฌอน ปาร์กเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งแนปสเตอร์และประธานเฟซบุ๊ก, ดัสติน มอสโกวิตซ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและรูมเมตของมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ที่ฮาร์วาร์ด, ผู้บริหารของเฟซบุ๊ก และแอนดริสเซน ฮอรอวิตซ์ บริษัทธุรกิจร่วมลงทุน
ส่วนซัคเคอร์เบิร์กที่ก่อตั้งเฟซบุ๊กในปี 2004 นั้น กำลังนำหุ้นออกขายมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย
มาร์ก พินคัส ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเกม ซิงกา เตรียมรับทรัพย์รอบสองในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน โดยมีโอกาสทำเงินได้เกือบ 32 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากที่ได้ตอนซิงกาเข้าตลาดเมื่อปีที่แล้ว
ต่อไปนี้คือรายละเอียดของจำนวนเงินที่คาดว่านักลงทุนรายใหญ่จะได้จากการขายหุ้นเฟซบุ๊ก โดยอิงกับราคากลางที่ 36 ดอลลาร์
แอกเซล พาร์ตเนอร์ส 1,770 ล้านดอลลาร์
ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์ 1,600 ล้านดอลลาร์
มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก 1,080 ล้านดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ 1,030 ล้านดอลลาร์
ไทเกอร์ โกลบัล แมเนจเมนต์ 842.7 ล้านดอลลาร์
MAIL.RU 706 ล้านดอลลาร์
ปีเตอร์ ธีล 606 ล้านดอลลาร์
เมอร์เทค แคปิตอล 252 ล้านดอลลาร์
เกรย์ล็อค พาร์ตเนอร์ส 274 ล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ 236 ล้านดอลลาร์
อิเลเวชัน พาร์ตเนอร์ส 166.4 ล้านดอลลาร์
มาร์ก พินคัส 36.3 ล้านดอลลาร์
เรด ฮอฟฟ์แมนและครอบครัว 34 ล้านดอลลาร์
สัปดาห์นี้ เฟซบุ๊กตัดสินใจเพิ่มจำนวนการนำหุ้นออกทำไอพีโอขึ้นอีก 25% เป็น 421 ล้านหุ้น รวมทั้งขยับช่วงราคาเป้าหมายเป็น 34-38 ดอลลาร์ต่อหุ้น สืบเนื่องจากกระแสนักลงทุนที่กระตือรือร้นเหลือเกิน ในการขอเป็นส่วนหนึ่งของการทำไอพีโอที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 3 ในสหรัฐฯคราวนี้
ผลลัพธ์คือ เว็บไซต์เครือข่ายสังคมแห่งนี้และผู้ถือหุ้นจะโกยเงินเข้ากระเป๋ารวมกันกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์จากการทำไอพีโอ หรือเพิ่มขึ้น 5,000 ล้านดอลลาร์จากที่เฟซบุ๊กคาดไว้เมื่อต้นเดือนว่าจะระดมทุนได้ 11,000 ล้านดอลลาร์
ในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) เมื่อวันพุธ (16) เฟซบุ๊กระบุว่า บริษัทจะไม่นำหุ้นออกมาขายเพิ่มจากที่ระบุไว้ แต่นักลงทุนที่มีหุ้นเฟซบุ๊กอยู่แล้ว เช่น โกลด์แมน แซคส์, ปีเตอร์ ธีล ผู้ก่อตั้งเพย์พาล จะนำหุ้นในมือออกมาขายรวมมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ
ผู้ที่จะนำหุ้นออกขายมากที่สุดคือ บริษัทธุรกิจร่วมลงทุน แอกเซล พาร์ตเนอร์ส ที่คาดว่าจะทำเงินได้เกือบ 1,770 ล้านดอลลาร์ หากหุ้นของเฟซบุ๊กเทรดที่ราคา 36 ดอลลาร์
ไมเนอร์ส ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์ จะนำหุ้นออกขาย 19 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,600 ล้านดอลลาร์ และ 705 ล้านดอลลาร์สำหรับ Mail.ru ของมหาเศรษฐีรัสเซีย ยูริ มิลเนอร์
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์เตรียมนำหุ้นออกขายเพิ่มอีกเท่าตัวจากที่วางแผนไว้คือ 28.7 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน นักลงทุนรายใหญ่ของเฟซบุ๊กมีอาทิ ฌอน ปาร์กเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งแนปสเตอร์และประธานเฟซบุ๊ก, ดัสติน มอสโกวิตซ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและรูมเมตของมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ที่ฮาร์วาร์ด, ผู้บริหารของเฟซบุ๊ก และแอนดริสเซน ฮอรอวิตซ์ บริษัทธุรกิจร่วมลงทุน
ส่วนซัคเคอร์เบิร์กที่ก่อตั้งเฟซบุ๊กในปี 2004 นั้น กำลังนำหุ้นออกขายมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย
มาร์ก พินคัส ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเกม ซิงกา เตรียมรับทรัพย์รอบสองในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน โดยมีโอกาสทำเงินได้เกือบ 32 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากที่ได้ตอนซิงกาเข้าตลาดเมื่อปีที่แล้ว
ต่อไปนี้คือรายละเอียดของจำนวนเงินที่คาดว่านักลงทุนรายใหญ่จะได้จากการขายหุ้นเฟซบุ๊ก โดยอิงกับราคากลางที่ 36 ดอลลาร์
แอกเซล พาร์ตเนอร์ส 1,770 ล้านดอลลาร์
ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์ 1,600 ล้านดอลลาร์
มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก 1,080 ล้านดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ 1,030 ล้านดอลลาร์
ไทเกอร์ โกลบัล แมเนจเมนต์ 842.7 ล้านดอลลาร์
MAIL.RU 706 ล้านดอลลาร์
ปีเตอร์ ธีล 606 ล้านดอลลาร์
เมอร์เทค แคปิตอล 252 ล้านดอลลาร์
เกรย์ล็อค พาร์ตเนอร์ส 274 ล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ 236 ล้านดอลลาร์
อิเลเวชัน พาร์ตเนอร์ส 166.4 ล้านดอลลาร์
มาร์ก พินคัส 36.3 ล้านดอลลาร์
เรด ฮอฟฟ์แมนและครอบครัว 34 ล้านดอลลาร์