พิษณุโลก - ทภ.3 รายงานผลตรวจข้อเท็จจริงคลิปฉาวแล้ว พบตัวก่อเหตุเป็นทหารม้าเมืองเพชรบูรณ์ ด้าน ทบ.เผยพบแล้ว 1 รายทหารสวิงกิ้ง สังกัด ม.พัน 26 แต่ภาพเซ็กซ์หมู่ในหน่วยทหารยังไม่ชัดหน่วยไหน เผยคู่ผัว-เมียวิตถารเช่าบ้านพักทหารม้า ชวนทหารเกณฑ์สวิงกิ้ง ด้าน“ทนงศักดิ์”ลั่นฟันหนักผิดวินัย-ขัด กม.ทหาร มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกลชื่นชม“ประยุทธ์”ชัดเจนเอาผิดกับกลุ่มทหารกระทำอนาจารในสถานที่ราชการ
วานนี้ (15 พ.ค.55) มีรายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า ขณะนี้ค่ายทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็น 1 ในค่ายใหญ่ๆ ของ มทภ.3 ได้ส่งรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปฉาวทหารรุมโทรมหญิง 6 ต่อ 1 ต่อหน่วยเหนือตามลำดับชั้น และผู้รับผิดชอบกำลังนำเสนอต่อ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว โดยพบว่า ทหารที่ก่อเหตุฉาวดังกล่าว อาจจะเป็นทหารในสังกัดทหารม้า ค่ายแห่งหนึ่งใน 4 ค่ายทหารม้าของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย ม.พัน 13 , ม.พัน18 , ม.พัน 26 และ ม.พัน 28 แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ยังไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพภาคที่ 3 หรือหน่วยทหารม้าที่ตกเป็นข่าวออกมายืนยันข้อเท็จจริงใด ๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ พ.อ.เทิดศักดิ์ งามสนอง ในฐานะโฆษก กองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงความคืบหน้ากรณีข่าวคลิปฉาว ทหารรุมโทรมหญิง 6 ต่อ 1 ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง สังกัดกองทัพภาคที่ 3 ว่า หลังจาก พล.อ.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการทุกหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพภาคที่ 3 หรือทั้ง 26 ค่ายทหารในจังหวัดภาคเหนือ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ล่าสุดเช้าวันนี้ (15 พ.ค.) รายงานการตรวจสอบที่ส่งเข้ามายังไม่ครบ จึงไม่สามารถตอบได้ว่า เหตุฉาวดังกล่าวเกิดในค่ายใด จังหวัดใด
“13-14 ค่ายทหารใหญ่ในภาคเหนือ ยังไม่ส่งข้อมูลถึงกองทัพภาคที่ 3 ไม่ครบ ดังนั้นเหตุเกิดค่ายไหน จังหวัดใดนั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะข้อมูลยังไม่ครบ จะเป็นค่ายในจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ตอบไม่ได้ แต่ที่ยืนยันแน่ๆ ไม่ใช่ค่ายใหญ่ๆในจังหวัดพิษณุโลก แน่นอน เพราะได้ส่งข้อมูลมาแล้ว และรับรองว่า ต้องเป็นความจริง ไม่มีใครโกหกได้”
ส่วนคำถามที่ว่าวันนี้ (15 พ.ค.) พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะต้องสรุปผลการตรวจสอบ ว่า หน่วยทหารสังกัดใดเป็นผู้ก่อเหตุฉาวได้หรือไม่ พ.อ.เทิดศักดิ์ บอกว่า คงต้องรอคำตอบ แต่ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน คงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ ทบ.กรุงเทพฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ในภาคเหนือ
อย่างไรก็ตาม มีกระแสแพร่สะพัดว่า คลิปฉาว ทหารเกณฑ์รุมโทรม คาดว่าเป็นห้อง ผบ.ร้อย เดิม และยกให้ครูฝึกยืมใช้ห้องบริเวณชั้นล่าง อยู่ในกองร้อยใหม่แห่งหนึ่ง ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ขณะที่ข้อมูลโซเซียลเน็ตเวิร์ค ระบุว่า เป็นการโพสต์ข้อความกันกลุ่มทหารอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้มาจากรุงเทพฯแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นักข่าวหลายแขนงยังคงติดตามข่าวความคืบหน้าคลิปฉาวรุมโทรมในค่ายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ว่า อยู่จังหวัดใด ขณะที่ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก
**ทบ.เผยพบแล้ว1รายทหารสวิงกิ้ง
เวลา 09.00 น.วานนี้ (15 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบบข้อเท็จจริงกรณีภาพกลุ่มชายคล้ายทหารร่วมเพศกับหญิงสาว ได้มีการเรียกหน่วยต้องสงสัยที่อยู่ในข่ายว่า จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยหน่วยที่เรียกเข้ามาชี้แจงทั้งหมดเป็นหน่วยทหารที่อยู่ภายใน จ.เพชรบูรณ์ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งหน่วยที่ถูกเชิญมาให้ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) อาทิกองพันทหารม้าที่ 18 (ม.พัน18) กองพันทหารม้าที่ 26 (ม.พัน 26) นอกจากนี้ยังเชิญหน่วยจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์มาสอบสวนด้วย โดยได้มีการเชิญทั้งในระดับผบ.พัน ตัวแทนหน่วย และทหารเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วย
โดย พล.อ.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบตัวผู้กระทำและคนที่อยู่ในภาพแล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นพลทหารที่ยังประจำการอยู่ภายในหน่วย จ.เพชรบูรณ์ ส่วนผู้ที่อยู่ในภาพอื่นๆยังไม่สามารถตรวจสอบได้เป็นใครและสังกัดหน่วยไหน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยต้องสงสัยตรวจสอบที่มาของภาพอีกครั้งว่าเกิดที่จุดใด บริเวณใดและหน่วยใดเพื่อยืนยันให้ได้ คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะตรวจสอบได้ว่า ผู้ที่อยู่ในภาพทั้งหมดนั้นเป็นใคร ทั้งนี้ได้สั่งการให้ต้นสังกัดของทหารที่ทำความผิดตั้งคณะกรรมการสอบสวนขั้นต้นขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ทางกฎหมายพิจารณาและตรวจสอบว่า นอกจากประเด็นที่ทำให้กองทัพเสื่อมเสียแล้ว ยังสามารถดำเนินการกฎหมายหมายทางทหารในประเด็นอื่นได้หรือไม่
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพบก เปิดเผยว่า จากผลการสอบสวนบื้องต้นทราบว่า จากรูปทั้งหมด 31 ภาพ พบว่า มีการร่วมเพศในหลายสถานที่ทั้งบ้านพัก โรงแรม และในหน่วยทหาร ซึ่งแต่ละสถานที่ต่างถูกบันทึกภาพในเวลาที่แตกต่างกัน โดยภาพที่เกิดขึ้นในสถานที่คล้ายหน่วยทหารถูกบันทึกภาพเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนว่า เป็นทหารสังกัดหน่วยใด ส่วนภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านพักเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีพ.ศ.2554 ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า บ้านพักดังกล่าวเรียกว่า บ้านทหารม้า เป็นบ้านพักสวัสดิการอยู่บนแหล่งท่องเที่ยวเขาค้อ ซึ่งอยู่ในการดูแลของม.พัน 26 ซึ่งเป็นแหล่งที่พักท่องเที่ยวเปิดให้ข้าราชการทหาร ครอบครัวทหารพักผ่อนในวันหยุด และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาพักในราคาถูกเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 300 บาทเป็นต้นไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีความรู้จักสนิทกับทหารได้เข้ามาเช่าบ้านพักดังกล่าว และด้วยความที่สามีภรรยาคู่นี้เป็นคนที่มีรสนิยมชอบการสวิงกิ้งจึงได้ชักชวนทหารเกณฑ์สังกัดม.พัน26มาร่วมเพศกับภรรยาตนเอง และได้มีการบันทึกภาพการมีเพศสัมพันธ์จนนำมารูปดังกล่าวมาโพสต์แบ่งปันในเว็บไซต์เกี่ยวกับสวิงกิ้งจนล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพในโซเชี่ยลมีเดียอย่างแพร่หลาย โดยทหารเกณฑ์บางส่วนที่อยู่ในภาพร่วมเพศในบ้านพักขณะนี้ยังอยู่ในราชการอยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการกำลังตรวจสอบในประเด็นอื่นด้วยว่า คู่สามีภรรยาเป็นกระบวนการต้องการดิสเครดิตกองทัพทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ หรือเป็นกระบวนการการทำหนังโป๊
**มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกลชม“ประยุทธ์”
ทางด้าน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกล กล่าวว่า ขอชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกที่รีบออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนกรณีมีภาพกลุ่มคนแต่งกายชุดทหารกระทำการอนาจารในสถานที่ราชการ แต่มีความกังวล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากจะพูดถึงผู้หญิง อยากให้ทุกฝ่ายมีความระมัดระวังในคำพูด โดยการลงโทษนั้นจะต้องดูว่า ขณะก่อเหตุเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว บุคคลที่อยู่ในภาพมีอายุเท่าไร เป็นการสมยอม หรือการข่มขืน นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบสถานะทางการทหารของกลุ่มคนที่อยู่ในภาพด้วยว่า ปลดประจำการไปแล้วหรือไม่ เพื่อจะได้ใช้กฎหมายลงโทษได้ถูกต้อง
“อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวในภาพ เพราะต้องมีการนำตัวมาสอบสวน อยากให้ทุกฝ่ายมีความเห็นใจในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย”
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวถึงปัญหาการข่มขืนด้วยว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด นอกจากให้ผู้หญิงรู้เท่าทัน และระวังภัยด้วยตนเองแล้ว การสร้างกระแสให้สังคมร่วมย้ำว่า ข่มขืนติดคุก จะช่วยลดภัยข่มขืนลงได้ อีกแนวทางที่ต้องทำควบคู่คือ ให้ผู้ชายฝึกควบคุมอารมณ์ทางเพศด้วยตนเอง และให้รู้จักวิธีบำบัดความใคร่ของตนเองโดยไม่เดือดร้อนใคร รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เกิดความเสี่ยง เช่น การดื่มสุรา ไม่ให้เป็นตัวกระตุ้นในการก่อคดีข่มขืน
ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า กรณีภาพกลุ่มทหารกระทำอนาจารในสถานที่ราชการนั้น เป็นเรื่องร้ายแรงที่ทำลายความรู้สึกของประชาชน และทำให้ภาพของกองทัพเสียหายเป็นอย่างมาก โดยยืนยันว่า หญิงสาวในภาพไม่ได้สมยอมอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนใดจะยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ทั้งนี้ อยากให้ญาติของหญิงสาวคนดังกล่าวออกมาเรียกร้องสิทธิ์ และดำเนินคดีกับกลุ่มคนในภาพให้ถึงที่สุด โดยดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ และหวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวไว้
ทั้งนี้ นายจะเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้มูลนิธิหญิงชาวก้าวไกล และเครือข่ายสตรี พยายามผลักดันการแก้ไขกฎหมาย และออกมาช่วยเหลือสตรีอย่างเต็มที่
วานนี้ (15 พ.ค.55) มีรายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า ขณะนี้ค่ายทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็น 1 ในค่ายใหญ่ๆ ของ มทภ.3 ได้ส่งรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปฉาวทหารรุมโทรมหญิง 6 ต่อ 1 ต่อหน่วยเหนือตามลำดับชั้น และผู้รับผิดชอบกำลังนำเสนอต่อ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว โดยพบว่า ทหารที่ก่อเหตุฉาวดังกล่าว อาจจะเป็นทหารในสังกัดทหารม้า ค่ายแห่งหนึ่งใน 4 ค่ายทหารม้าของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย ม.พัน 13 , ม.พัน18 , ม.พัน 26 และ ม.พัน 28 แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ยังไม่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพภาคที่ 3 หรือหน่วยทหารม้าที่ตกเป็นข่าวออกมายืนยันข้อเท็จจริงใด ๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ พ.อ.เทิดศักดิ์ งามสนอง ในฐานะโฆษก กองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงความคืบหน้ากรณีข่าวคลิปฉาว ทหารรุมโทรมหญิง 6 ต่อ 1 ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง สังกัดกองทัพภาคที่ 3 ว่า หลังจาก พล.อ.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการทุกหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพภาคที่ 3 หรือทั้ง 26 ค่ายทหารในจังหวัดภาคเหนือ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ล่าสุดเช้าวันนี้ (15 พ.ค.) รายงานการตรวจสอบที่ส่งเข้ามายังไม่ครบ จึงไม่สามารถตอบได้ว่า เหตุฉาวดังกล่าวเกิดในค่ายใด จังหวัดใด
“13-14 ค่ายทหารใหญ่ในภาคเหนือ ยังไม่ส่งข้อมูลถึงกองทัพภาคที่ 3 ไม่ครบ ดังนั้นเหตุเกิดค่ายไหน จังหวัดใดนั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะข้อมูลยังไม่ครบ จะเป็นค่ายในจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ตอบไม่ได้ แต่ที่ยืนยันแน่ๆ ไม่ใช่ค่ายใหญ่ๆในจังหวัดพิษณุโลก แน่นอน เพราะได้ส่งข้อมูลมาแล้ว และรับรองว่า ต้องเป็นความจริง ไม่มีใครโกหกได้”
ส่วนคำถามที่ว่าวันนี้ (15 พ.ค.) พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะต้องสรุปผลการตรวจสอบ ว่า หน่วยทหารสังกัดใดเป็นผู้ก่อเหตุฉาวได้หรือไม่ พ.อ.เทิดศักดิ์ บอกว่า คงต้องรอคำตอบ แต่ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน คงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ ทบ.กรุงเทพฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ในภาคเหนือ
อย่างไรก็ตาม มีกระแสแพร่สะพัดว่า คลิปฉาว ทหารเกณฑ์รุมโทรม คาดว่าเป็นห้อง ผบ.ร้อย เดิม และยกให้ครูฝึกยืมใช้ห้องบริเวณชั้นล่าง อยู่ในกองร้อยใหม่แห่งหนึ่ง ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ขณะที่ข้อมูลโซเซียลเน็ตเวิร์ค ระบุว่า เป็นการโพสต์ข้อความกันกลุ่มทหารอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้มาจากรุงเทพฯแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นักข่าวหลายแขนงยังคงติดตามข่าวความคืบหน้าคลิปฉาวรุมโทรมในค่ายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ว่า อยู่จังหวัดใด ขณะที่ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก
**ทบ.เผยพบแล้ว1รายทหารสวิงกิ้ง
เวลา 09.00 น.วานนี้ (15 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบบข้อเท็จจริงกรณีภาพกลุ่มชายคล้ายทหารร่วมเพศกับหญิงสาว ได้มีการเรียกหน่วยต้องสงสัยที่อยู่ในข่ายว่า จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยหน่วยที่เรียกเข้ามาชี้แจงทั้งหมดเป็นหน่วยทหารที่อยู่ภายใน จ.เพชรบูรณ์ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งหน่วยที่ถูกเชิญมาให้ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) อาทิกองพันทหารม้าที่ 18 (ม.พัน18) กองพันทหารม้าที่ 26 (ม.พัน 26) นอกจากนี้ยังเชิญหน่วยจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์มาสอบสวนด้วย โดยได้มีการเชิญทั้งในระดับผบ.พัน ตัวแทนหน่วย และทหารเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วย
โดย พล.อ.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบตัวผู้กระทำและคนที่อยู่ในภาพแล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นพลทหารที่ยังประจำการอยู่ภายในหน่วย จ.เพชรบูรณ์ ส่วนผู้ที่อยู่ในภาพอื่นๆยังไม่สามารถตรวจสอบได้เป็นใครและสังกัดหน่วยไหน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยต้องสงสัยตรวจสอบที่มาของภาพอีกครั้งว่าเกิดที่จุดใด บริเวณใดและหน่วยใดเพื่อยืนยันให้ได้ คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะตรวจสอบได้ว่า ผู้ที่อยู่ในภาพทั้งหมดนั้นเป็นใคร ทั้งนี้ได้สั่งการให้ต้นสังกัดของทหารที่ทำความผิดตั้งคณะกรรมการสอบสวนขั้นต้นขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ทางกฎหมายพิจารณาและตรวจสอบว่า นอกจากประเด็นที่ทำให้กองทัพเสื่อมเสียแล้ว ยังสามารถดำเนินการกฎหมายหมายทางทหารในประเด็นอื่นได้หรือไม่
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพบก เปิดเผยว่า จากผลการสอบสวนบื้องต้นทราบว่า จากรูปทั้งหมด 31 ภาพ พบว่า มีการร่วมเพศในหลายสถานที่ทั้งบ้านพัก โรงแรม และในหน่วยทหาร ซึ่งแต่ละสถานที่ต่างถูกบันทึกภาพในเวลาที่แตกต่างกัน โดยภาพที่เกิดขึ้นในสถานที่คล้ายหน่วยทหารถูกบันทึกภาพเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนว่า เป็นทหารสังกัดหน่วยใด ส่วนภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านพักเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีพ.ศ.2554 ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า บ้านพักดังกล่าวเรียกว่า บ้านทหารม้า เป็นบ้านพักสวัสดิการอยู่บนแหล่งท่องเที่ยวเขาค้อ ซึ่งอยู่ในการดูแลของม.พัน 26 ซึ่งเป็นแหล่งที่พักท่องเที่ยวเปิดให้ข้าราชการทหาร ครอบครัวทหารพักผ่อนในวันหยุด และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาพักในราคาถูกเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 300 บาทเป็นต้นไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีความรู้จักสนิทกับทหารได้เข้ามาเช่าบ้านพักดังกล่าว และด้วยความที่สามีภรรยาคู่นี้เป็นคนที่มีรสนิยมชอบการสวิงกิ้งจึงได้ชักชวนทหารเกณฑ์สังกัดม.พัน26มาร่วมเพศกับภรรยาตนเอง และได้มีการบันทึกภาพการมีเพศสัมพันธ์จนนำมารูปดังกล่าวมาโพสต์แบ่งปันในเว็บไซต์เกี่ยวกับสวิงกิ้งจนล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพในโซเชี่ยลมีเดียอย่างแพร่หลาย โดยทหารเกณฑ์บางส่วนที่อยู่ในภาพร่วมเพศในบ้านพักขณะนี้ยังอยู่ในราชการอยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการกำลังตรวจสอบในประเด็นอื่นด้วยว่า คู่สามีภรรยาเป็นกระบวนการต้องการดิสเครดิตกองทัพทำให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ หรือเป็นกระบวนการการทำหนังโป๊
**มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกลชม“ประยุทธ์”
ทางด้าน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกล กล่าวว่า ขอชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกที่รีบออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนกรณีมีภาพกลุ่มคนแต่งกายชุดทหารกระทำการอนาจารในสถานที่ราชการ แต่มีความกังวล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากจะพูดถึงผู้หญิง อยากให้ทุกฝ่ายมีความระมัดระวังในคำพูด โดยการลงโทษนั้นจะต้องดูว่า ขณะก่อเหตุเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว บุคคลที่อยู่ในภาพมีอายุเท่าไร เป็นการสมยอม หรือการข่มขืน นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบสถานะทางการทหารของกลุ่มคนที่อยู่ในภาพด้วยว่า ปลดประจำการไปแล้วหรือไม่ เพื่อจะได้ใช้กฎหมายลงโทษได้ถูกต้อง
“อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวในภาพ เพราะต้องมีการนำตัวมาสอบสวน อยากให้ทุกฝ่ายมีความเห็นใจในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย”
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวถึงปัญหาการข่มขืนด้วยว่า การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด นอกจากให้ผู้หญิงรู้เท่าทัน และระวังภัยด้วยตนเองแล้ว การสร้างกระแสให้สังคมร่วมย้ำว่า ข่มขืนติดคุก จะช่วยลดภัยข่มขืนลงได้ อีกแนวทางที่ต้องทำควบคู่คือ ให้ผู้ชายฝึกควบคุมอารมณ์ทางเพศด้วยตนเอง และให้รู้จักวิธีบำบัดความใคร่ของตนเองโดยไม่เดือดร้อนใคร รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เกิดความเสี่ยง เช่น การดื่มสุรา ไม่ให้เป็นตัวกระตุ้นในการก่อคดีข่มขืน
ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า กรณีภาพกลุ่มทหารกระทำอนาจารในสถานที่ราชการนั้น เป็นเรื่องร้ายแรงที่ทำลายความรู้สึกของประชาชน และทำให้ภาพของกองทัพเสียหายเป็นอย่างมาก โดยยืนยันว่า หญิงสาวในภาพไม่ได้สมยอมอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนใดจะยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ทั้งนี้ อยากให้ญาติของหญิงสาวคนดังกล่าวออกมาเรียกร้องสิทธิ์ และดำเนินคดีกับกลุ่มคนในภาพให้ถึงที่สุด โดยดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ และหวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวไว้
ทั้งนี้ นายจะเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้มูลนิธิหญิงชาวก้าวไกล และเครือข่ายสตรี พยายามผลักดันการแก้ไขกฎหมาย และออกมาช่วยเหลือสตรีอย่างเต็มที่
