ผู้จัดการรายวัน/บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์กว่า 200 นายเข้าสลายมวลชนที่ปิดล้อมรถ “การุณ ใสงาม” หลังตึงเครียดไม่ยอมลงจากรถนานข้ามคืนกว่า 12 ชม. หวิดปะทะ ก่อนใช้รถยกลากรถไปโรงพักแล้วยกขึ้นรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ ทั้งคนทั้งรถ เจ้าตัวยืนกรานไม่ลงจากรถ โวยเป็นการกลั่นแกล้ง แจ้งข้อหาเพิ่มอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง สุดท้าย ตร.นำช่างงัดกุญแจเอาตัวออกจนได้
วานนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์กรณีตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ บุกล้อมจับ นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ที่บ้านเกิด อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ว่า ตั้งแต่เวลา 18.30 น. วันที่ 12 พ.ค. พ.ต.ท.ธนา มะลิงาม สว.กก.3 ป. พร้อมกำลังตำรวจกองปราบปราม 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กว่า 30 นายได้ใช้รถยนต์เข้าปิดล้อม เข้าจับกุมตัวนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ และ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ขณะกำลังขับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บท- 9467 บุรีรัมย์ หลังกลับจากสวนที่บ้านโนนสวรรค์ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย กำลังจะเข้าบ้านที่ บริเวณถนนภักดีดำรง ม.3 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
โดยตำรวจได้แสดงหมายศาลตามหมายจับคดีที่ 411/2555 ลงวันที่ 17 มี.ค.55 ข้อหาทำลายหรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานที่ใช้บริการการบินพลเรือน หรือทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง ทั้งนี้โดยใช้กลอุปกรณ์วัตถุหรืออาวุธใดๆ เป็นอันตราย และการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน
จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมจับนายการุณ นั้น อยู่ห่างจากบ้านพักนายการุณ ประมาณ 100 เมตร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้แสดงหมายศาลขอเข้าจับกุมตัว นายการุณไม่ยอมลงจากรถให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว กลับปิดล็อกรถไว้แล้วโทรศัพท์หาภรรยาว่า โดนตำรวจล้อมจับ
จากนั้นนางสุกัญญา ใสงาม ภรรยานายการุณ ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุพร้อมได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้นายการุณ ได้กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยเข้าควบคุมตัวแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่ เมื่อแสดงหมายจับแล้วต้องเข้าควบคุมตัวทันที
**ใช้รถยกลากการุณเข้ากทม.
ต่อมาเวลา 20.00 น.ได้มีกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งในพื้นที่อำเภอประโคนชัย และอำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวกว่า 100 คน นำโดยนายปราโมทย์ หอยมุข, นายวีระพล โสภา และนางสำเนียง สุภัณพจน์ เดินทางมาให้กำลังใจนายการุณ พร้อมกับนำเสื่อ เก้าอี้มานั่งและยืนล้อมรถของ นายการุณ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ขณะที่นายการุณ ก็ยังคงนั่งอยู่ภายในรถ ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงบานปลายแต่อย่างใด
จนเวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถยก เพื่อที่จะมาลากรถของนายการุณ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจาก นายการุณ ได้ดึงเบรกมือและใส่เกียร์รถไว้ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมรถของนายการุณ ไว้ พร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจนายการุณ ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าควบคุมตัวนายการุณ ได้
กระทั่งเวลา 00.30 น.ของวานนี้ (13 พ.ค.) ทาง พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาเจรจากับ นายการุณ ขอให้ลงมามอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย แต่ นายการุณ ปฏิเสธที่จะลงมามอบตัว ท่ามกลางการรุมล้อมของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้ร้องขอกำลังพร้อมสนธิกำลังกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์, สภ.บ้านกรวด, สภ.นางรอง, สภ.หนองกี่, สภ.บ้านกรวด, สภ.พลับพลาชัย และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัด รวมกว่า 200 นาย และนำรถยกมาเพื่อเตรียมพร้อมสลายกลุ่มมวลชน และ เข้าควบคุมตัว นายการุณ
ขณะเดียวกัน ได้มีนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร พร้อมกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ จาก จ.นครราชสีมา และ จ.สุรินทร์ เดินทางมาสมทบให้กำลังใจ นายการุณ โดยนายสมบูรณ์ ได้กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
**ตร.หวิดปะทะมวลชน
จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ทาง พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมกว่า 200 นาย ได้เข้าผลักดันกลุ่มมวลชนที่นั่งรายล้อมรถของ นายการุณ ออกจากบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มมวลชน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ก่อนที่จะใช้รถยกเข้าทำการลากรถกระบะที่มี นายการุณ นั่งอยู่ภายในรถ โดยมี นางสุกัญญา ใสงาม ภรรยานายการุณ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต สว.ยโสธร นั่งอยู่ในกระบะท้ายรถด้วย ไปยัง สภ.ประโคนชัย ท่ามกลางเครือข่ายพันธมิตรตามไปให้กำลังใจด้วย
เมื่อมาถึง สภ.ประโคนชัย ปรากฏว่า นายการุณ ยังไม่ยอมลงมาจากรถอยู่ดี แม้ทางตำรวจกองปราบปราม จะนำหมายจับมาแสดงและอ่านข้อกล่าวหาให้ทราบก็ตาม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 200 นาย รอบบริเวณโรงพัก เพื่อป้องกันกลุ่มมวลชนเข้ามาก่อความวุ่นวาย
จนเวลา 07.45 น. ทางตำรวจกองปราบปราม จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากรถยกลากมาเป็นรถบรรทุก 6 ล้อใหญ่ เพื่อยกรถที่มีนายการุณนั่งอยู่ภายในขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เดินทางไปยังกองปราบปราม เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา โดยมีนางสุกัญญา ใสงาม ภรรยา นายการุณ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ บางส่วนตามไปให้กำลังใจด้วย
**"การุณ"ไม่ลงจากรถ
ด้านนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวก่อนถูกนำตัวไปยังกองปราบปราม กรุงเทพฯ ว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคนบางกลุ่ม เพราะคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว และมีการแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มเติมจากเดิมอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง อีกทั้งหมายจับก็ออกมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ทำไมไม่ดำเนินการจับกุมทั้งๆ ที่ตนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมยืนยันว่าเมื่อถึงกองปราบปราม กรุงเทพฯ ตนก็จะไม่ยอมเปิดประตูลงจากรถด้วยตัวเอง
นายการุณ กล่าวว่า ในระหว่างที่ควบคุมตัวไปกองปราบก็ขอให้มีความปลอดภัย และมีสิทธิเสรีครบถ้วนตามสมควรของสิทธิมนุษยชน โดยสิทธิของผู้ต้องหามีประการใดก็ต้องรักษาสิทธิของผู้ต้องหาอย่างนั้น เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามีความผิดจริงหรือไม่ อีกทั้งข้อหาเดิมที่ตั้งไว้มีกว่า 10 ข้อหา กรณีเป็นผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ มีการออกหมายจับแล้วก็ไม่มาจับปล่อยให้ค้างคา ตนโทรศัพท์ไปบอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาจับก็ไม่มาจับ ตนถูกจับครั้งสุดท้ายวันที่กลับจากกัมพูชา เมื่อครั้งไปช่วยนายวีระ สมความคิด เป็นคดีที่ไม่ได้ความแล้ว โดยถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาตั้งข้อหาที่กองปราบปราม พอตั้งข้อหาเสร็จเรียบร้อยก็ขอฝากขัง ตนก็สู้เรื่องฝากขัง สุดท้ายการฝากขังจนบัดนี้ก็ไม่สามารถฟ้องคดีได้ ศาลก็มีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวไปแล้ว และกลับมาตั้งข้อหาเพิ่มอีกในคดีนี้ ที่มีหมายศาลมาจับกุม การกระทำเช่นนี้เป็นการส่อเจตนาพิเศษกลั่นแกล้ง
“ยืนยันว่าเมื่อถึงกองปราบปรามจะไม่ลงจากรถด้วยตนเอง แต่หากทางเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการอุ้ม ยื้อยุดฉุดกระชากก็ยอม เพราะไม่มีกำลังจะต่อสู้ แต่หากจะเปิดประตูรถก็ให้ทำโดยชอบด้วยกฎหมายส่วนจะฟ้องร้องหรือไม่ จะตรวจสอบดูอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร” นายการุณ กล่าว ก่อนถูกยกรถเข้ากองปราบปราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม กว่า 10 นาย ชุดจับกุมดังกล่าวได้ลงมาพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นเวลา 3-4 วันแล้ว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของนายการุณ ก่อนที่จะสบโอกาสเข้าควบคุมตัวไปดังกล่าว แม้จะต้องยกทั้งรถและคนไปก็ตาม
**หิ้วทั้งคนทั้งรถถึงกองปราบ
จนเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย ผกก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายการุณ ใสงาม มาถึงยังกองปราบปรามโดยที่นายการุณ ยังคงนั่งอยู่ในรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บท- 9467 บุรีรัมย์
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่นำรถยนต์พร้อมนายการุณ ซึ่งนั่งอยู่ในรถเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์มายังกองปราบปราม ตลอดทางมีรถตำรวจทางหลวงขับนำมาตลอดทาง เมื่อมาถึงกรองปราบปราม ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯกว่า 50 คนเดินทางมาที่กองปราบปราม ยืนรอให้กำลังใจชูป้ายมีข้อความว่า สู้ๆ ซึ่งทางตำรวจได้จัดกำลังคอมมานโด 20 นายมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยกมาจอดหน้าอาคารตึกอำนวยการ โดยบรรดากลุ่มพันธมิตรฯ ต่างโห่ร้องตะโกนให้กำลังใจยื่นน้ำและข้าวให้นายการุณ แต่นายการุณ ไม่รับของ เพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้นและนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ภายในรถ ติดเครื่องเปิดแอร์ โดยไม่มีความกังวลใดๆ
จากนั้น พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป.ได้สั่งการให้ตำรวจนำโต๊ะไปวางที่ประตูเพื่อขึ้นไปเจรจา โดยขอร้องให้นายการุณ ออกมารับทราบข้อกล่าวหา ใช้เวลาเกือบ 20 นาที นายการุณ ก็ไม่มีท่าทีจะยอมลงจากรถ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายการุณ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ต้องพิสูจน์ความจริงและต้องการอิสรภาพ" เมื่อนายการุณ ไม่ยอมลงจากรถ พ.ต.อ.อภิชาติ จึงสั่งการให้ตำรวจคอมมานโดยืนเฝ้ารถโดยรอบ
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะยื่นขออนุมัติหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นรถ ถ้านายการุณยังไม่เปิดประตู ก็ต้องทำลายสิ่งกีดขวางเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ขณะที่ศาลอาญา รัชดา ไม่อนุมัติหมายค้นรถ นายการุณ เนื่องจากมีความเห็นว่า รถยนต์ไม่ใช่สถานที่รโหฐาน และเป็นอำนาจของตำรวจที่ดำเนินการได้ตามขั้นตอน โดยไม่ต้องใช้หมายค้น ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป. เข้าเจรจารอบ 2 เพื่อขอให้ นายการุณ รับทราบข้อกล่าวหา แต่การเจรจาล้มเหลว
**ตร.งัดรถอุ้มการุณออกมา
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 13 พ.ค.ตำรวจกองปราบได้นำช่างกุญแจมางัดประตูรถ และนำตัวนายการุณออกจากรถได้แล้ว โดยนายการุณมีอาการอ่อนเพลีย และมีสีหน้าที่เคร่งเครียดหลังจากนั่งอยู่ในรถเป็นเวลา หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวนายการุณไปยังห้องสอบปากคำต่อไป.
วานนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์กรณีตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ บุกล้อมจับ นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ที่บ้านเกิด อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ว่า ตั้งแต่เวลา 18.30 น. วันที่ 12 พ.ค. พ.ต.ท.ธนา มะลิงาม สว.กก.3 ป. พร้อมกำลังตำรวจกองปราบปราม 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กว่า 30 นายได้ใช้รถยนต์เข้าปิดล้อม เข้าจับกุมตัวนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ และ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ขณะกำลังขับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บท- 9467 บุรีรัมย์ หลังกลับจากสวนที่บ้านโนนสวรรค์ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย กำลังจะเข้าบ้านที่ บริเวณถนนภักดีดำรง ม.3 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
โดยตำรวจได้แสดงหมายศาลตามหมายจับคดีที่ 411/2555 ลงวันที่ 17 มี.ค.55 ข้อหาทำลายหรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานที่ใช้บริการการบินพลเรือน หรือทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง ทั้งนี้โดยใช้กลอุปกรณ์วัตถุหรืออาวุธใดๆ เป็นอันตราย และการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน
จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมจับนายการุณ นั้น อยู่ห่างจากบ้านพักนายการุณ ประมาณ 100 เมตร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้แสดงหมายศาลขอเข้าจับกุมตัว นายการุณไม่ยอมลงจากรถให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว กลับปิดล็อกรถไว้แล้วโทรศัพท์หาภรรยาว่า โดนตำรวจล้อมจับ
จากนั้นนางสุกัญญา ใสงาม ภรรยานายการุณ ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุพร้อมได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้นายการุณ ได้กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยเข้าควบคุมตัวแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่ เมื่อแสดงหมายจับแล้วต้องเข้าควบคุมตัวทันที
**ใช้รถยกลากการุณเข้ากทม.
ต่อมาเวลา 20.00 น.ได้มีกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งในพื้นที่อำเภอประโคนชัย และอำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวกว่า 100 คน นำโดยนายปราโมทย์ หอยมุข, นายวีระพล โสภา และนางสำเนียง สุภัณพจน์ เดินทางมาให้กำลังใจนายการุณ พร้อมกับนำเสื่อ เก้าอี้มานั่งและยืนล้อมรถของ นายการุณ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ขณะที่นายการุณ ก็ยังคงนั่งอยู่ภายในรถ ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงบานปลายแต่อย่างใด
จนเวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถยก เพื่อที่จะมาลากรถของนายการุณ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจาก นายการุณ ได้ดึงเบรกมือและใส่เกียร์รถไว้ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมรถของนายการุณ ไว้ พร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจนายการุณ ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าควบคุมตัวนายการุณ ได้
กระทั่งเวลา 00.30 น.ของวานนี้ (13 พ.ค.) ทาง พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาเจรจากับ นายการุณ ขอให้ลงมามอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย แต่ นายการุณ ปฏิเสธที่จะลงมามอบตัว ท่ามกลางการรุมล้อมของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้ร้องขอกำลังพร้อมสนธิกำลังกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์, สภ.บ้านกรวด, สภ.นางรอง, สภ.หนองกี่, สภ.บ้านกรวด, สภ.พลับพลาชัย และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัด รวมกว่า 200 นาย และนำรถยกมาเพื่อเตรียมพร้อมสลายกลุ่มมวลชน และ เข้าควบคุมตัว นายการุณ
ขณะเดียวกัน ได้มีนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร พร้อมกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ จาก จ.นครราชสีมา และ จ.สุรินทร์ เดินทางมาสมทบให้กำลังใจ นายการุณ โดยนายสมบูรณ์ ได้กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
**ตร.หวิดปะทะมวลชน
จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.ทาง พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมกว่า 200 นาย ได้เข้าผลักดันกลุ่มมวลชนที่นั่งรายล้อมรถของ นายการุณ ออกจากบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มมวลชน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ก่อนที่จะใช้รถยกเข้าทำการลากรถกระบะที่มี นายการุณ นั่งอยู่ภายในรถ โดยมี นางสุกัญญา ใสงาม ภรรยานายการุณ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต สว.ยโสธร นั่งอยู่ในกระบะท้ายรถด้วย ไปยัง สภ.ประโคนชัย ท่ามกลางเครือข่ายพันธมิตรตามไปให้กำลังใจด้วย
เมื่อมาถึง สภ.ประโคนชัย ปรากฏว่า นายการุณ ยังไม่ยอมลงมาจากรถอยู่ดี แม้ทางตำรวจกองปราบปราม จะนำหมายจับมาแสดงและอ่านข้อกล่าวหาให้ทราบก็ตาม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 200 นาย รอบบริเวณโรงพัก เพื่อป้องกันกลุ่มมวลชนเข้ามาก่อความวุ่นวาย
จนเวลา 07.45 น. ทางตำรวจกองปราบปราม จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากรถยกลากมาเป็นรถบรรทุก 6 ล้อใหญ่ เพื่อยกรถที่มีนายการุณนั่งอยู่ภายในขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เดินทางไปยังกองปราบปราม เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา โดยมีนางสุกัญญา ใสงาม ภรรยา นายการุณ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ บางส่วนตามไปให้กำลังใจด้วย
**"การุณ"ไม่ลงจากรถ
ด้านนายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวก่อนถูกนำตัวไปยังกองปราบปราม กรุงเทพฯ ว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคนบางกลุ่ม เพราะคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว และมีการแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มเติมจากเดิมอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง อีกทั้งหมายจับก็ออกมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ทำไมไม่ดำเนินการจับกุมทั้งๆ ที่ตนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมยืนยันว่าเมื่อถึงกองปราบปราม กรุงเทพฯ ตนก็จะไม่ยอมเปิดประตูลงจากรถด้วยตัวเอง
นายการุณ กล่าวว่า ในระหว่างที่ควบคุมตัวไปกองปราบก็ขอให้มีความปลอดภัย และมีสิทธิเสรีครบถ้วนตามสมควรของสิทธิมนุษยชน โดยสิทธิของผู้ต้องหามีประการใดก็ต้องรักษาสิทธิของผู้ต้องหาอย่างนั้น เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามีความผิดจริงหรือไม่ อีกทั้งข้อหาเดิมที่ตั้งไว้มีกว่า 10 ข้อหา กรณีเป็นผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ มีการออกหมายจับแล้วก็ไม่มาจับปล่อยให้ค้างคา ตนโทรศัพท์ไปบอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาจับก็ไม่มาจับ ตนถูกจับครั้งสุดท้ายวันที่กลับจากกัมพูชา เมื่อครั้งไปช่วยนายวีระ สมความคิด เป็นคดีที่ไม่ได้ความแล้ว โดยถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาตั้งข้อหาที่กองปราบปราม พอตั้งข้อหาเสร็จเรียบร้อยก็ขอฝากขัง ตนก็สู้เรื่องฝากขัง สุดท้ายการฝากขังจนบัดนี้ก็ไม่สามารถฟ้องคดีได้ ศาลก็มีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวไปแล้ว และกลับมาตั้งข้อหาเพิ่มอีกในคดีนี้ ที่มีหมายศาลมาจับกุม การกระทำเช่นนี้เป็นการส่อเจตนาพิเศษกลั่นแกล้ง
“ยืนยันว่าเมื่อถึงกองปราบปรามจะไม่ลงจากรถด้วยตนเอง แต่หากทางเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการอุ้ม ยื้อยุดฉุดกระชากก็ยอม เพราะไม่มีกำลังจะต่อสู้ แต่หากจะเปิดประตูรถก็ให้ทำโดยชอบด้วยกฎหมายส่วนจะฟ้องร้องหรือไม่ จะตรวจสอบดูอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร” นายการุณ กล่าว ก่อนถูกยกรถเข้ากองปราบปราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม กว่า 10 นาย ชุดจับกุมดังกล่าวได้ลงมาพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นเวลา 3-4 วันแล้ว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของนายการุณ ก่อนที่จะสบโอกาสเข้าควบคุมตัวไปดังกล่าว แม้จะต้องยกทั้งรถและคนไปก็ตาม
**หิ้วทั้งคนทั้งรถถึงกองปราบ
จนเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย ผกก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายการุณ ใสงาม มาถึงยังกองปราบปรามโดยที่นายการุณ ยังคงนั่งอยู่ในรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บท- 9467 บุรีรัมย์
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่นำรถยนต์พร้อมนายการุณ ซึ่งนั่งอยู่ในรถเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์มายังกองปราบปราม ตลอดทางมีรถตำรวจทางหลวงขับนำมาตลอดทาง เมื่อมาถึงกรองปราบปราม ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯกว่า 50 คนเดินทางมาที่กองปราบปราม ยืนรอให้กำลังใจชูป้ายมีข้อความว่า สู้ๆ ซึ่งทางตำรวจได้จัดกำลังคอมมานโด 20 นายมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยกมาจอดหน้าอาคารตึกอำนวยการ โดยบรรดากลุ่มพันธมิตรฯ ต่างโห่ร้องตะโกนให้กำลังใจยื่นน้ำและข้าวให้นายการุณ แต่นายการุณ ไม่รับของ เพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้นและนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ภายในรถ ติดเครื่องเปิดแอร์ โดยไม่มีความกังวลใดๆ
จากนั้น พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป.ได้สั่งการให้ตำรวจนำโต๊ะไปวางที่ประตูเพื่อขึ้นไปเจรจา โดยขอร้องให้นายการุณ ออกมารับทราบข้อกล่าวหา ใช้เวลาเกือบ 20 นาที นายการุณ ก็ไม่มีท่าทีจะยอมลงจากรถ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายการุณ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ต้องพิสูจน์ความจริงและต้องการอิสรภาพ" เมื่อนายการุณ ไม่ยอมลงจากรถ พ.ต.อ.อภิชาติ จึงสั่งการให้ตำรวจคอมมานโดยืนเฝ้ารถโดยรอบ
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะยื่นขออนุมัติหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นรถ ถ้านายการุณยังไม่เปิดประตู ก็ต้องทำลายสิ่งกีดขวางเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ขณะที่ศาลอาญา รัชดา ไม่อนุมัติหมายค้นรถ นายการุณ เนื่องจากมีความเห็นว่า รถยนต์ไม่ใช่สถานที่รโหฐาน และเป็นอำนาจของตำรวจที่ดำเนินการได้ตามขั้นตอน โดยไม่ต้องใช้หมายค้น ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป. เข้าเจรจารอบ 2 เพื่อขอให้ นายการุณ รับทราบข้อกล่าวหา แต่การเจรจาล้มเหลว
**ตร.งัดรถอุ้มการุณออกมา
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 13 พ.ค.ตำรวจกองปราบได้นำช่างกุญแจมางัดประตูรถ และนำตัวนายการุณออกจากรถได้แล้ว โดยนายการุณมีอาการอ่อนเพลีย และมีสีหน้าที่เคร่งเครียดหลังจากนั่งอยู่ในรถเป็นเวลา หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวนายการุณไปยังห้องสอบปากคำต่อไป.