ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดที่จะเข้าเยี่ยมชมเข้าฐานทัพสหรัฐอเมริกา ในระหว่างการไปเยือนประทศ บาห์เรน และกาตาร์ ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค.การนี้นายกรัฐมนตรี จะแวะเข้าไปในฐานทัพสหรัฐอเมริกาในบาห์เรน เพื่อไปเยี่ยมกองบัญชาการ CTF151 ที่มีทหารเรือไทย 16 คนทำงานด้านปราบโจรสลัดอยู่ โดยมี พล.ร.ต.ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ เป็น ผบ.CTF151 แม้ว่าตอนนี้ทั้งหมด ลอยลำอยู่บนเรือ Fort Victoria ของอังกฤษ กลางทะเลแคริบเบี่ยน ก็ตาม แต่ก็ประชุมผ่านวีดีโอคอนฟาเรนซ์เห็นหน้ากันได้
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนประเทศบาห์เรน และกาตาร์ ระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ค.นี้ การเยือนบาห์เรนของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเยือนครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นครั้งสำคัญ เนื่องจากบาห์เรนเป็นมิตรประเทศที่ดี และยังสนับสนุนไทยในเวทีองค์การความร่วมมืออิสลาม(โอไอซี) ในการชี้แจงสถานการณ์ความเป็นจริงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยให้ประเทศสมาชิกโอไอซีได้ทราบและมีความเข้าใจว่าไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา และไม่ได้เชื่อมโยงกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้การเยือนดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะหารือเพื่อความร่วมมือด้านพลังงานและการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของบาห์เรน เช่น การก่อสร้างท่าอากาศยานประจำประเทศ และการปรับปรุงเมือง ซึ่งรัฐบาลบาห์เรนได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ(จีซีซี) ไทยโดยบริษัทก่อสร้าง จะช่วยออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมฐานทัพของกองกำลังผสมทางทะเลนานาชาติ ที่สหรัฐอเมริกาเป็นหัวหน้ากองเรือ ซึ่งไทยเข้าร่วมด้วยในการปราบปรามโจรสลัด
สำหรับการเยือนกาตาร์นั้น จะเน้นความร่วมมือต่อการมีส่วนร่วมในการก่อสร้างสนามฟุตบอลประจำชาติ และสาธารณูปโภคต่างๆ เพราะกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (พ.ศ.2565) จำเป็นต้องจัดเตรียมระบบแพทย์ที่ได้มาตรฐาน เป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะนำเสนอร่วมมือทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดกระดูกที่ได้มาตรฐานและอยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก ขณะเดียวกัน กาตาร์สนใจที่จะมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ และชาวกาตาร์ยังนิยมมาท่องเที่ยวในไทยในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนประเทศบาห์เรน และกาตาร์ ระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ค.นี้ การเยือนบาห์เรนของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเยือนครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นครั้งสำคัญ เนื่องจากบาห์เรนเป็นมิตรประเทศที่ดี และยังสนับสนุนไทยในเวทีองค์การความร่วมมืออิสลาม(โอไอซี) ในการชี้แจงสถานการณ์ความเป็นจริงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยให้ประเทศสมาชิกโอไอซีได้ทราบและมีความเข้าใจว่าไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา และไม่ได้เชื่อมโยงกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้การเยือนดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะหารือเพื่อความร่วมมือด้านพลังงานและการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของบาห์เรน เช่น การก่อสร้างท่าอากาศยานประจำประเทศ และการปรับปรุงเมือง ซึ่งรัฐบาลบาห์เรนได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ(จีซีซี) ไทยโดยบริษัทก่อสร้าง จะช่วยออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมฐานทัพของกองกำลังผสมทางทะเลนานาชาติ ที่สหรัฐอเมริกาเป็นหัวหน้ากองเรือ ซึ่งไทยเข้าร่วมด้วยในการปราบปรามโจรสลัด
สำหรับการเยือนกาตาร์นั้น จะเน้นความร่วมมือต่อการมีส่วนร่วมในการก่อสร้างสนามฟุตบอลประจำชาติ และสาธารณูปโภคต่างๆ เพราะกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 (พ.ศ.2565) จำเป็นต้องจัดเตรียมระบบแพทย์ที่ได้มาตรฐาน เป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะนำเสนอร่วมมือทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดกระดูกที่ได้มาตรฐานและอยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก ขณะเดียวกัน กาตาร์สนใจที่จะมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ และชาวกาตาร์ยังนิยมมาท่องเที่ยวในไทยในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
