อุบลราชธานี - “พิเชษฐ์ ทาบุตดา” หรือดีเจต้อย แกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มชักธงรบ อุบลราชธานี รุดกราบขอขมาที่นำมวลชนเผาเรือของชาวชุมชนราชธานีอโศก ระบุขอกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม ถูกตั้งข้อสังเกตที่ขอขมาเพราะอยู่ระหว่างสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. และอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในชั้นศาลหลายคดี
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา นายพิชษฐ์ ทาบุตดา หรือดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ นายอภิปัตย์ สืบศิรินุกูล หรืออาเธอร์ แกนนำกลุ่มเสรีชน พร้อมพวกอีก 3 คนเข้าไปที่ชุมชนราชธานีอโศก ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อขอขมาลาโทษที่ได้นำมวลชนคนเสื้อแดงบุกเผาเรือเอี้ยมจุ๊นใช้บรรทุกข้าวสารขนาดใหญ่ที่ชาวชุมชนนำมาจอดไว้บนบกเสียหาย 1 ลำ และเผาต้นไม้เพื่อให้ไฟลามไปยังกลุ่มเรือเล็กที่จอดอยู่ใกล้กัน
แต่ชาวราชธานีอโศกช่วยกันนำน้ำมาดับไฟได้ก่อน เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 25 เมษายน 2553 หลังเกิดเหตุตัวแทนชุมชนราชธานีอโศกได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายพิชษฐ์ ทาบุตดา และพวกที่วางเพลิงเผาทำลายทรัพย์สิน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานส่งฟ้องนายพิเชษฐ์กับพวก ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนายพิเชษฐ์ได้กล่าวกับสมณะและชาวชุมชนราชธานีอโศกที่มารอรับว่า จะขอกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ไม่ก่อเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก
ระหว่างนั้นสมณะฟ้าไทยได้สอบถามนายพิเชษฐ์ถึงสาเหตุที่นำมวลชนมาเผาเรือเพราะอะไร ซึ่งนายพิเชษฐ์ชี้แจงว่า วันดังกล่าวมีจุดประสงค์เพียงนำโลงศพ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเผาประท้วง เพราะไม่พอใจที่ พล.ต.จำลองเรียกร้องให้ทหารใช้กำลังปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมที่ราชประสงค์อย่างเด็ดขาด
โดยการมาประท้วงในวันนั้นมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมจำนวนมากทำให้ควบคุมมวลชนไม่อยู่ จนเกิดเหตุการณ์เผาเรือขึ้นดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ปัจจุบันนายพิเชษฐ์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะมีการลงคะแนนในเดือนมิถุนายนนี้ และอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีปลุกปั่นให้มวลชนเผาศาลากลางจังหวัด จึงต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตนเองใหม่
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา นายพิชษฐ์ ทาบุตดา หรือดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ นายอภิปัตย์ สืบศิรินุกูล หรืออาเธอร์ แกนนำกลุ่มเสรีชน พร้อมพวกอีก 3 คนเข้าไปที่ชุมชนราชธานีอโศก ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อขอขมาลาโทษที่ได้นำมวลชนคนเสื้อแดงบุกเผาเรือเอี้ยมจุ๊นใช้บรรทุกข้าวสารขนาดใหญ่ที่ชาวชุมชนนำมาจอดไว้บนบกเสียหาย 1 ลำ และเผาต้นไม้เพื่อให้ไฟลามไปยังกลุ่มเรือเล็กที่จอดอยู่ใกล้กัน
แต่ชาวราชธานีอโศกช่วยกันนำน้ำมาดับไฟได้ก่อน เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 25 เมษายน 2553 หลังเกิดเหตุตัวแทนชุมชนราชธานีอโศกได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายพิชษฐ์ ทาบุตดา และพวกที่วางเพลิงเผาทำลายทรัพย์สิน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานส่งฟ้องนายพิเชษฐ์กับพวก ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนายพิเชษฐ์ได้กล่าวกับสมณะและชาวชุมชนราชธานีอโศกที่มารอรับว่า จะขอกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ไม่ก่อเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก
ระหว่างนั้นสมณะฟ้าไทยได้สอบถามนายพิเชษฐ์ถึงสาเหตุที่นำมวลชนมาเผาเรือเพราะอะไร ซึ่งนายพิเชษฐ์ชี้แจงว่า วันดังกล่าวมีจุดประสงค์เพียงนำโลงศพ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเผาประท้วง เพราะไม่พอใจที่ พล.ต.จำลองเรียกร้องให้ทหารใช้กำลังปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมที่ราชประสงค์อย่างเด็ดขาด
โดยการมาประท้วงในวันนั้นมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมจำนวนมากทำให้ควบคุมมวลชนไม่อยู่ จนเกิดเหตุการณ์เผาเรือขึ้นดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ปัจจุบันนายพิเชษฐ์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะมีการลงคะแนนในเดือนมิถุนายนนี้ และอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีปลุกปั่นให้มวลชนเผาศาลากลางจังหวัด จึงต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตนเองใหม่
