xs
xsm
sm
md
lg

ชี้"แอปเปิ้ล"ก็ส่ง"โป๊"ขึ้นจอได้ ณัฏฐ์ขอโทษปธ.สภายันไม่ออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 26 เม.ย. ) มีการการประชุมกรรมาธิการ(กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณากรณีการปรากฏภาพไม่เหมาะสมขึ้นบนจอทีวี ในขณะที่มีการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา
ที่ประชุมได้เชิญตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายคัมภีรณ์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณีภาพโป๊ ปรากฏบนจอทีวีพลาสมาฯ เจ้าหน้าที่บริษัทแอลจี อิเล็คทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เจ้าหน้าที่บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
โดยนายคัมภีร์ ชี้แจงว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่ห้องควบคุมโทรทัศน์วงจรปิดรัฐสภานั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีความผิด เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังจอทีวีได้ และจากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ ที่เจ้าหน้าที่ใช้งานทั้งหมด 4 เครื่อง ก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

**ตรวจสอบที่มาภาพโป๊ยาก

ด้านนายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลว่า จอทีวีรุ่นดังกล่าว เป็นจอแอลอีดี รุ่น 6500 มีความสามารถส่งภาพ และเสียงเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ แท็บเล็ต และโน๊ตบุ๊กได้ โดยใช้เทคโนโลยี ดีแอลเอ็นเอ
ทั้งนี้ ต้องมีการใช้วงสัญญาณที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งการส่งภาพจากอุปกรณ์ใดๆ ขึ้นสู่จอทีวีได้ ต้องมีการค้นหาสัญญาณ (คอมแพร์ริ่ง) ก่อน โดยผ่านแอพพลิเคชั่น ที่รองรับการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี ดีแอลเอ็นเอ ทั้งนี้ตัวแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนั้น สมาร์ทโฟนทุกรุ่นสามารถมีได้ แต่จะใช้ชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น มือถือยี่ห้อแอลจี จะใช้ชื่อว่า สมาร์ทแชร์ ส่วนมือถือซัมซุง เรียกว่า ออลแชร์
นายธันยเชษฐ์ กล่าวอีกว่า วิธีการป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมปรากฏบนจนทีวี มี 2 วิธี คือ 1. แยกระบบเน็ตเวิร์กออกจากกัน และ 2. ทีวีพลาสมา รุ่นดังกล่าว มีคำสั่งตั้งค่าความปลอดภัย (เซฟตี้) หากเปิดใช้คำสั่งดังกล่าว จะสามารถป้องกันการส่งภาพแชร์ถึงกันได้
สำหรับการบันทึกข้อมูลจากจอทีวีพลาสมานั้น ระบบ ดีแอลเอ็นเอ ไม่สามารถบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ที่ส่งสัญญาณมายังจอทีวีได้ จะมีการบันทึกเพียงไอพี แอดเดรส เท่านั้น แต่เมื่อปิดเครื่องทีวี ข้อมูลดังกล่าวก็จะหายไป ไม่มีการเก็บไว้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพจิต ได้พยายามซักถามว่า กรณีที่ระบุก่อนหน้านั้นว่า มีสมาร์ทโฟน ยี่ห้อซัมซุง 86 เครื่อง เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตรัฐสภาได้ จะมีการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์จากสมาร์ทโฟนดังกล่าว ได้หรือไม่ นายคัมภีร์ ชี้แจงว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบอินเตอร์เน็ตรัฐสภา สามารถทำได้เพียงไอพีแอดเดรสเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่บริษัท กสท. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสำนักงาน ให้ตรวจสอบโดยกำหนดช่วงระยะเวลาที่ภาพโป๊ปรากฏ เพื่อตรวจหาไอพีแอดเดรส และนำไปตรวจหาหมายเลยโทรศัพท์ต่อไป แต่ได้รับคำชี้แจงว่า ต้องขอเวลาตรวจสอบเป็นเวลานาน

** แอพเปิ้ล ก็ส่งสัญญาณภาพได้

จากนั้น นายจักรกฤษ โศธิธาดาเจริญ ตัวแทนของบริษัท กสท.ฯ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่า การส่งสัญญาณไปยังจอทีวี เพื่อส่งข้อมูล ไม่ได้มีเฉพาะสมาร์ทโฟนยี่ห้อซัมซุงเท่านั้น แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เช่น แอพเปิ้ล ก็ยังส่งสัญญาณเพื่อส่งภาพได้เช่นกัน เพียงแต่ภาพโป๊ที่เกิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีสัญลักษณ์ที่เป็นไอคอน ที่อยู่ในระบบของซัมซุงอยู่ ทำให้สันนิษฐานว่า ภาพดังกล่าวมาจากสมาร์ทโฟนยี่ห้อซัมซุง
ทั้งนี้ หากจะตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ สามารถตรวจสอบได้จากไอพี แอดเดรสได้ แต่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะมีจำนวนสมาร์ทโฟน ที่เชื่อมต่อสัญญาณไวไฟ มากกว่า 400 เครื่อง และการตรวจสอบหาไอพี แอดเดรส ต้องเริ่มต้นจากผู้นำเข้า ว่าใครเป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือที่มีไอพี แอดเดรส ดังกล่าวเข้ามา ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบในทางลึก ซึ่งตรวจสอบยาก และใช้เวลานาน
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการฯได้สอบถามถึงรัศมีการส่งภาพเข้ามายังจอทีวีในห้องประชุมว่า สามารถส่งสัญญาณมาจากนอกเขตพื้นที่อาคารรัฐสภาได้หรือไม่ โดยนายจักรกฤษ ชี้แจงว่า ตัวส่งสัญญาณไวไฟ พื้นที่รัฐสภา มีกว่า 70 จุด โดยจะมีระยะทางการส่งประมาณ 50 เมตร หากไม่มีสิ่งกีดขวาง จากการตรวจสอบการเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟ คาดว่าจะมีรัศมีไม่เกินขอบรั้วของรัฐสภา แต่หากจะพิสูจน์ว่า อยู่นอกเขตรั้วรัฐสภา และสามารถส่งสัญญาณเข้ามาได้หรือไม่ คงต้องลองวัดระยะรัศมีดูก่อน
ด้านนายไพจิต กล่าวว่า ประเด็นนี้อยากให้มีการตรวจสอบระบบส่งสัญญาณในรัฐสภา ทั้งกว่า 70 ตัว ว่าตัวไหนเป็นจุดที่ส่งสัญญาณขึ้นสู่จอทีวีพลาสมา นอกจากนั้นแล้วขอฝากให้บริษัท แอลจีฯ ไปช่วยหาวิธีให้มีการเก็บข้อมูลในตัวจอทีวี แม้จะมีการปิดเครื่องไปแล้วก็ตาม เพื่อให้ข้อมูลยังคงอยู่ นอกจากนั้นแล้วขอให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ช่วยดำเนินการสอบสวนในประเด็นดังกล่าวด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคคลอื่นมองว่า การสอบสวนประเด็นนี้ มีการฮั้วกัน

** "ณัฏฐ์"เผยขอโทษปธ.สภาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น นายไพจิต ได้ห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการประชุมอีก และได้เชิญ นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะที่เป็นผู้เปิดภาพโป๊ในมือถือ ระหว่างการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เข้าชี้แจง
ภายหลังการชี้แจง นายณัฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาชี้แจงใน 2 ประเด็น คือ
1. กรณีถูกสงสัยว่าเป็นผู้ส่งภาพจากโทรศัพท์มือถือไปยังจอทีวี พลาสมาฯ ในห้องประชุมสภาฯ ซึ่งตนได้ชี้แจงว่า ผลสอบที่ออกมาตนไม่มีความเกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้ใช้โทรศัพท์รุ่นที่สามารถส่งภาพไปยังจอทีวีได้
2. กรณีความไม่เหมาะสม การเปิดภาพโป๊ดูระหว่างการประชุมรัฐสภา ซึ่งตนได้ชี้แจงว่า มีเพื่อนส่งภาพดังกล่าวเข้ามา เมื่อเปิดดูก็ลบทิ้งทันที ไม่ได้ดูเพื่อความบันเทิง ซึ่งเพื่อนส.ส.หลายคน คิดว่าการใช้โทรศัพท์ โดยการพิมพ์ข้อความส่งตอบโต้กัน ที่ไม่ใช่การพูดคุยกัน จะเป็นการไม่รบกวนการประชุม แต่ในหลักการ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ ตนขอโทษในประเด็นนี้ สำหรับการชี้แจงกับกรรมาธิการ ทางกรรมาธิการฯ ไม่ติดใจในทั้ง 2 ประเด็น ส่วนตัว อยากให้ยุติการนำประเด็นไปตอบโต้ทางการเมือง เพราะทำให้ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน และส.ส.พรรครัฐบาล ต้องออกมาตอบโต้กัน ซึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจ และเสียใจ ไม่อยากให้ประเด็นนี้มาอยู่ในความสนใจของประชาชน มากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
" หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ผมได้เข้าไปกราบขอโทษ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นการส่วนตัว เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสภาฯ และขอกราบขอโทษผู้ใหญ่ทุกคน ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น ซึ่งผู้ใหญ่ก็ให้คำแนะนำว่า ขอให้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์ด้วย ส่วนตัวพร้อมเดินหน้าทำงานในฐานะเป็น ส.ส.ต่อไป จะไม่ลาออก" นายณัฏฐ์ กล่าว

** ป้อง"ณัฐฏ์"ไม่ต้องสอบจริยธรรม

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.30 น. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวถึง กรณีนายณัฐฏ์ ดูภาพหญิงสาวไม่เหมาะสมว่า ทางกมธ.ไม่ได้ติดใจเนื่องจากใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่คนละยี่ห้อกับข้อสันนิษฐาน โดยนายณัฐฏ์ ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อแอฟเปิ้ล และภาพที่ปรากฏเป็นคนละภาพกับที่ปรากฏในห้องประชุม นอกจากนี้ยังเปิดดูภาพดังกล่าว รวมถึงภาพและข้อมูลอื่นๆ ในช่วงเวลาหลังจากที่ปรากฏภาพบนจอในห้องประชุม โดยใช้เวลาในการเปิดดูภาพไม่นาน และทำการลบภาพดังกล่าว จึงไม่มีเจตนาที่จะดูภาพที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องส่งให้คณะกรรการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฏรตรวจสอบแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น