เอเจนซีส์ - เกิดเหตุมือปืนบุกเดี่ยว สาดกระสุนอย่างบ้าคลั่งภายในบริเวณมหาวิทยาลัยขนาดเล็กแห่งหนึ่งใกล้ซานฟรานซิสโก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน บาดเจ็บอีก 10 คน นับเป็นเหตุกราดยิงที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาอเมริกันในรอบ 5 ปี
ตำรวจเผยว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 43 ปี สัญชาติเกาหลี-อเมริกัน ซึ่งยอมมอบตัว ในจุดใกล้เชนซูเปอร์มาร์เก็ตเซฟเวย์ ในเมืองอลาเมดา ห่างจากสถานที่เกิดเหตุคือมหาวิทยาลัยโออิคอส ในเมืองโอ๊กแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่กี่ไมล์ หลังจากขับรถของเหยื่อคนหนึ่งหลบหนีไปจนถึงสถานที่ดังกล่าว
โฮเวิร์ด จอร์แดน ผู้บัญชาการตำรวจโอ๊กแลนด์เผยว่า ผู้ต้องสงสัยชื่อว่า วัน โกห์ เป็นศิษย์เก่าของโออิคอส บุคคลผู้นี้เป็นชาวเกาหลีที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สถานกงสุลเกาหลีใต้ในซานฟรานซิสโกว่า มือปืนชื่อว่า โค วอนอิล เป็นพลเมืองอเมริกันสัญชาติเกาหลี
อย่างไรก็ดี ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจสำหรับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเดือนเดียวหลังจากนักเรียนมัธยมในโอไฮโอกราดยิงในโรงอาหารของโรงเรียน ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 3 คน อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเหตุใดโกห์จึงลาออกจากมหาวิทยาลัย
ตำรวจที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากผู้ตื่นตระหนกมากมาย ไม่สามารถบอกได้ทันทีว่า มือปืนใช้อาวุธปืนชนิดใด รวมถึงจำนวนอาวุธปืนที่ใช้
ขณะเกิดเหตุ มีผู้อยู่ภายในหรืออยู่ใกล้ๆ กับอาคารนั้นราว 35 คน ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า มือปืนเดินเข้าไปในส่วนต้อนรับของมหาวิทยาลัยในช่วงสายวันจันทร์ (2) และเปิดฉากยิงก่อนที่จะเดินเข้าไปสาดกระสุนห้องเรียน 1 ใน 2 ห้องและบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัย
พอล ซิงห์ เปิดเผยตามคำบอกเล่าของน้องสาววัย 19 ปีที่ถูกยิงที่แขนว่า มือปืนเป็นนักศึกษาเก่าที่หายหน้าไป 4 เดือน
“’เข้าแถว ไม่งั้นผมจะฆ่าพวกคุณให้หมด’ เขาพูดแบบนั้น น้องสาวผมบอกว่า ตอนแรกทุกคนคิดว่าเขาพูดเล่น”
เทชิ วังชุค เล่าว่า ภรรยาของเขาอยู่ในห้องเรียนห้องที่ 2 ตอนที่ได้ยินเสียงปืน
“ด้วยสัญชาตญาณ เธอล็อกประตูและปิดไฟ จากนั้นมือปืนเดินมาเคาะประตูและยิงใส่ประตูหลายนัดก่อนที่จะออกไปจากบริเวณ ตำรวจบอกว่า สิ่งที่เธอทำน่ายกย่องมาก”
แองจี้ จอห์นสัน วัย 52 ปี เล่าว่า เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกจากมหาวิทยาลัยโดยที่แขนขวาเปื้อนเลือดและร้องว่า "ฉันถูกยิง"
จอห์นสันสำทับว่า หญิงสาวคนนั้นยังบอกว่า มือปืนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนพยาบาลที่ยิงใส่หน้าอกเหยื่อคนแรกในระยะเผาขน ก่อนกราดยิงไปทั่วห้องอย่างบ้าคลั่ง
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุกราดยิงที่รุนแรงที่สุดในสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ นับจากปี 2007 ที่นักศึกษาเวอร์จิเนียเทค ก่อเหตุสังหารหมู่ 32 ศพก่อนฆ่าตัวตาย
ภาพข่าวจากทีวีเผยให้เห็นนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่วิ่งหนีออกจากมหาวิทยาลัยอย่างตื่นกลัว ขณะที่ตำรวจและหน่วยสวาทที่ถือปืนไรเฟิลสังหารกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
“ไม่มีนายกเทศมนตรีอเมริกันคนไหนอยากเจอสถานการณ์แบบนี้ นี่เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดและจะทิ้งคำถามไว้ในใจคนในชุมชนทั้งหมดไปอีกนาน” จีน ควอน นายกเทศมนตรีหญิงของโอ๊กแลนด์แถลง
ทั้งนี้ โออิคอสที่เปิดสอนวิชาเทววิทยา พยาบาล ดนตรี และการแพทย์เอเชีย อธิบายตัวเองในเว็บไซต์ว่า อยู่ในช่วงเริ่มต้นในการจัดหาการศึกษามาตรฐานสูงสุดควบคู่ไปกับค่านิยมและแรงบันดาลใจของคริสเตียน
“โศกนาฏกรรมที่โออิคอสเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและโศกสลด ความคิดคำนึงและคำสวดภาวนาของเรามอบแด่เหยื่อ ญาติมิตร และชุมชนทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงที่ไร้เหตุผลนี้” เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลง
ตำรวจเผยว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 43 ปี สัญชาติเกาหลี-อเมริกัน ซึ่งยอมมอบตัว ในจุดใกล้เชนซูเปอร์มาร์เก็ตเซฟเวย์ ในเมืองอลาเมดา ห่างจากสถานที่เกิดเหตุคือมหาวิทยาลัยโออิคอส ในเมืองโอ๊กแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่กี่ไมล์ หลังจากขับรถของเหยื่อคนหนึ่งหลบหนีไปจนถึงสถานที่ดังกล่าว
โฮเวิร์ด จอร์แดน ผู้บัญชาการตำรวจโอ๊กแลนด์เผยว่า ผู้ต้องสงสัยชื่อว่า วัน โกห์ เป็นศิษย์เก่าของโออิคอส บุคคลผู้นี้เป็นชาวเกาหลีที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สถานกงสุลเกาหลีใต้ในซานฟรานซิสโกว่า มือปืนชื่อว่า โค วอนอิล เป็นพลเมืองอเมริกันสัญชาติเกาหลี
อย่างไรก็ดี ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจสำหรับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเดือนเดียวหลังจากนักเรียนมัธยมในโอไฮโอกราดยิงในโรงอาหารของโรงเรียน ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 3 คน อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเหตุใดโกห์จึงลาออกจากมหาวิทยาลัย
ตำรวจที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากผู้ตื่นตระหนกมากมาย ไม่สามารถบอกได้ทันทีว่า มือปืนใช้อาวุธปืนชนิดใด รวมถึงจำนวนอาวุธปืนที่ใช้
ขณะเกิดเหตุ มีผู้อยู่ภายในหรืออยู่ใกล้ๆ กับอาคารนั้นราว 35 คน ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า มือปืนเดินเข้าไปในส่วนต้อนรับของมหาวิทยาลัยในช่วงสายวันจันทร์ (2) และเปิดฉากยิงก่อนที่จะเดินเข้าไปสาดกระสุนห้องเรียน 1 ใน 2 ห้องและบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัย
พอล ซิงห์ เปิดเผยตามคำบอกเล่าของน้องสาววัย 19 ปีที่ถูกยิงที่แขนว่า มือปืนเป็นนักศึกษาเก่าที่หายหน้าไป 4 เดือน
“’เข้าแถว ไม่งั้นผมจะฆ่าพวกคุณให้หมด’ เขาพูดแบบนั้น น้องสาวผมบอกว่า ตอนแรกทุกคนคิดว่าเขาพูดเล่น”
เทชิ วังชุค เล่าว่า ภรรยาของเขาอยู่ในห้องเรียนห้องที่ 2 ตอนที่ได้ยินเสียงปืน
“ด้วยสัญชาตญาณ เธอล็อกประตูและปิดไฟ จากนั้นมือปืนเดินมาเคาะประตูและยิงใส่ประตูหลายนัดก่อนที่จะออกไปจากบริเวณ ตำรวจบอกว่า สิ่งที่เธอทำน่ายกย่องมาก”
แองจี้ จอห์นสัน วัย 52 ปี เล่าว่า เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกจากมหาวิทยาลัยโดยที่แขนขวาเปื้อนเลือดและร้องว่า "ฉันถูกยิง"
จอห์นสันสำทับว่า หญิงสาวคนนั้นยังบอกว่า มือปืนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนพยาบาลที่ยิงใส่หน้าอกเหยื่อคนแรกในระยะเผาขน ก่อนกราดยิงไปทั่วห้องอย่างบ้าคลั่ง
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุกราดยิงที่รุนแรงที่สุดในสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ นับจากปี 2007 ที่นักศึกษาเวอร์จิเนียเทค ก่อเหตุสังหารหมู่ 32 ศพก่อนฆ่าตัวตาย
ภาพข่าวจากทีวีเผยให้เห็นนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่วิ่งหนีออกจากมหาวิทยาลัยอย่างตื่นกลัว ขณะที่ตำรวจและหน่วยสวาทที่ถือปืนไรเฟิลสังหารกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
“ไม่มีนายกเทศมนตรีอเมริกันคนไหนอยากเจอสถานการณ์แบบนี้ นี่เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดและจะทิ้งคำถามไว้ในใจคนในชุมชนทั้งหมดไปอีกนาน” จีน ควอน นายกเทศมนตรีหญิงของโอ๊กแลนด์แถลง
ทั้งนี้ โออิคอสที่เปิดสอนวิชาเทววิทยา พยาบาล ดนตรี และการแพทย์เอเชีย อธิบายตัวเองในเว็บไซต์ว่า อยู่ในช่วงเริ่มต้นในการจัดหาการศึกษามาตรฐานสูงสุดควบคู่ไปกับค่านิยมและแรงบันดาลใจของคริสเตียน
“โศกนาฏกรรมที่โออิคอสเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและโศกสลด ความคิดคำนึงและคำสวดภาวนาของเรามอบแด่เหยื่อ ญาติมิตร และชุมชนทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงที่ไร้เหตุผลนี้” เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลง