ASTVผู้จัดการรายวัน-รถยนต์กระบะติดหลังคาแครี่บอย ซิ่งยางระเบิดบนโทลล์เวล์ เสียหลักพุ่งชนขอบทาง หลังคาหลุด หอบคนนั่งท้ายตกลงด้านล่างเสียชีวิตคาที่ ตำรวจระบุรถคันเกิดเหตุได้ปฎิบัติตามกฏระเบียบในการขึ้นทางด่วนทุกประการ
วานนี้ (27 มี.ค.) พ.ต.ท.สมคิด ศรีนาเมือง พงส.(สบ 2) สน.วิภาวดี ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะ ประสบอุบัติเหตุชนขอบทางโทลล์เวย์ขาเข้า เป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่นั่งท้ายกระบะร่วงตกลงมายังถนนวิภาวดีด้านล่าง เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณก่อนถึงบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ประมาณ 100 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบศพนายสายหยุด ผาสุก อายุประมาณ 40 ปี ชาว จ.สระบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกทั่วร่าง ศีรษะแตกเสียชีวิตคาที่ อยู่บริเวณขอบปูนช่องทางด่วน ถ.วิภาวดี ใกล้กันพบหลังคากระบะแครี่บอยร่วงลงมาด้วยกันจนพังยับเยิน เศษกระจกแตกกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนั้น ยังมีเบาะที่นั่งด้านหลัง อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี ที่ตกลงมาเกลื่อนถนน
ด้านบนทางด่วนโทลล์เวย์ พบรถโตโยต้า ไฮลักซ์วีโก้ สีขาว ทะเบียน อว 9428 กทม. สภาพพังยับเยิน บริเวณยางล้อหลังด้านขวาแตก มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน คือ นายสุภจิต สายมายา อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว และนายสุเมธ นามหมื่นจัด อายุ 40 ปี ที่นั่งด้านหน้าคู่คนขับ
จากการสอบสวนนายสุภจิต ทราบว่า ทั้ง 3 คนเป็นช่างของ บริษัท สามเรือน จำกัด ที่รับติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี ขับรถมาจาก อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อเดินทางมายัง กทม.2 ที่ดินแดง เพื่อทำการติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีรถน้ำของ กทม.จำนวน 10 คัน โดยขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ มาจากบริเวณด่านหน้าโรงกษาปณ์เพื่อจะมาลงที่ดินแดง โดยขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุยางล้อหลังด้านขวาได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นจนทำให้รถเสียหลักไปชนขอบทางด้านบนโทลล์เวย์ จนหลังคากระบะด้านหลังกระเด็นหลุดออกมา เป็นเหตุให้นายสายหยุด ที่นั่งด้านหลังกระบะกระเด็นตกลงมาด้านล่าง เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถจักรยานยนต์ อยู่ริมถนนวิภาวดี จังหวะดังกล่าวได้ยินเสียงคล้ายระเบิด ก่อนจะเห็นหลังคาแครี่บอยสีขาวลอยลงมาจากทางด่วนโทลล์เวย์ และเห็นมีคนเกาะหลังคาดังกล่าวลงมาด้วย ก่อนจะตกกระแทกพื้นถนนวิภาวดี ช่องทางด่วนเสียชีวิตคาที่
พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. เปิดเผยถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า รถคันที่เกิดเหตุได้ปฎิบัติตามกฏระเบียบในการขึ้นทางด่วนทุกประการ เนื่องจากมีหลังคาคลุมกระบะด้านท้ายอย่างถูกต้อง ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อนุญาติให้ผ่านขึ้นทางด่วนไปได้
อย่างไรก็ตาม ขณะที่รถกระบะคันที่ประสบเหตุ วิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ล้อด้านหลังได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว เกิดการเสียหลัก พุ่งชนกับขอบทางของทางด่วน แต่เนื่องจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว บวกกับแรงกระแทรกอย่างรุนแรง จึงอาจทำให้หลังคาที่อยู่ด้านท้ายหลุดออกมา และทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังกระเด็นออกมาจากกระบะท้าย และตกลงมาจากทางด่วน จนทำให้เสียชีวิต
"เรื่องกฏระเบียบ หรือข้อปฎิบัติของรถกระบะ ที่จะต้องขึ้นทางด่วนนั้น ตามปกติแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลงานจราจรบนทางด่วน ก็ได้ควบคุมและเข้มงวดในเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากพบว่ารถกระบะคันใดไม่มีหลังคา ตามที่กฏระเบียบระบุไว้ ก็จะไม่ให้ใช้ทางด่วนโดยเด็ดขาด"พ.ต.ท.พิทักษ์ กล่าว
วานนี้ (27 มี.ค.) พ.ต.ท.สมคิด ศรีนาเมือง พงส.(สบ 2) สน.วิภาวดี ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะ ประสบอุบัติเหตุชนขอบทางโทลล์เวย์ขาเข้า เป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่นั่งท้ายกระบะร่วงตกลงมายังถนนวิภาวดีด้านล่าง เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณก่อนถึงบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ประมาณ 100 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบศพนายสายหยุด ผาสุก อายุประมาณ 40 ปี ชาว จ.สระบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกทั่วร่าง ศีรษะแตกเสียชีวิตคาที่ อยู่บริเวณขอบปูนช่องทางด่วน ถ.วิภาวดี ใกล้กันพบหลังคากระบะแครี่บอยร่วงลงมาด้วยกันจนพังยับเยิน เศษกระจกแตกกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนั้น ยังมีเบาะที่นั่งด้านหลัง อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี ที่ตกลงมาเกลื่อนถนน
ด้านบนทางด่วนโทลล์เวย์ พบรถโตโยต้า ไฮลักซ์วีโก้ สีขาว ทะเบียน อว 9428 กทม. สภาพพังยับเยิน บริเวณยางล้อหลังด้านขวาแตก มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน คือ นายสุภจิต สายมายา อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว และนายสุเมธ นามหมื่นจัด อายุ 40 ปี ที่นั่งด้านหน้าคู่คนขับ
จากการสอบสวนนายสุภจิต ทราบว่า ทั้ง 3 คนเป็นช่างของ บริษัท สามเรือน จำกัด ที่รับติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี ขับรถมาจาก อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อเดินทางมายัง กทม.2 ที่ดินแดง เพื่อทำการติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีรถน้ำของ กทม.จำนวน 10 คัน โดยขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ มาจากบริเวณด่านหน้าโรงกษาปณ์เพื่อจะมาลงที่ดินแดง โดยขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุยางล้อหลังด้านขวาได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นจนทำให้รถเสียหลักไปชนขอบทางด้านบนโทลล์เวย์ จนหลังคากระบะด้านหลังกระเด็นหลุดออกมา เป็นเหตุให้นายสายหยุด ที่นั่งด้านหลังกระบะกระเด็นตกลงมาด้านล่าง เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถจักรยานยนต์ อยู่ริมถนนวิภาวดี จังหวะดังกล่าวได้ยินเสียงคล้ายระเบิด ก่อนจะเห็นหลังคาแครี่บอยสีขาวลอยลงมาจากทางด่วนโทลล์เวย์ และเห็นมีคนเกาะหลังคาดังกล่าวลงมาด้วย ก่อนจะตกกระแทกพื้นถนนวิภาวดี ช่องทางด่วนเสียชีวิตคาที่
พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. เปิดเผยถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า รถคันที่เกิดเหตุได้ปฎิบัติตามกฏระเบียบในการขึ้นทางด่วนทุกประการ เนื่องจากมีหลังคาคลุมกระบะด้านท้ายอย่างถูกต้อง ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อนุญาติให้ผ่านขึ้นทางด่วนไปได้
อย่างไรก็ตาม ขณะที่รถกระบะคันที่ประสบเหตุ วิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ล้อด้านหลังได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว เกิดการเสียหลัก พุ่งชนกับขอบทางของทางด่วน แต่เนื่องจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว บวกกับแรงกระแทรกอย่างรุนแรง จึงอาจทำให้หลังคาที่อยู่ด้านท้ายหลุดออกมา และทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังกระเด็นออกมาจากกระบะท้าย และตกลงมาจากทางด่วน จนทำให้เสียชีวิต
"เรื่องกฏระเบียบ หรือข้อปฎิบัติของรถกระบะ ที่จะต้องขึ้นทางด่วนนั้น ตามปกติแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลงานจราจรบนทางด่วน ก็ได้ควบคุมและเข้มงวดในเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากพบว่ารถกระบะคันใดไม่มีหลังคา ตามที่กฏระเบียบระบุไว้ ก็จะไม่ให้ใช้ทางด่วนโดยเด็ดขาด"พ.ต.ท.พิทักษ์ กล่าว