วานนี้ ( 26 มี.ค.) ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า มีกระแสข่าวจะขยายเวลาประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติออกไปจากกำหนดสิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย.เป็นเดือนพ.ค. ซึ่งหากเลื่อนปิดสมัยประชุมออกไปเกรงว่าจะมีปัญหาเนื่องจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.)หลายคณะมีกำหนดจะเดินทางไปดูงานในต่างประเทศโดยได้มีการวางแผนการเดินทางไว้แล้ว ไม่ทราบว่าการเลื่อนเวลาสมัยประชุมออกไปเพราะจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใช้หรือไม่
พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไมทราบเป็นทางการว่าจะมีการขยายเวลาปิดประชุมสภาออกไปหรือไม่ แต่ทราบว่าอาจจะมีการเลื่อนการปิดสมัยประชุมตลอดเดือน เม.ย. จึงขอให้สมาชิกที่มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปเป็นเดือน พ.ค. ส่วนรายละเอียดจะให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาประสานกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ได้ความชัดเจนเพื่อแจ้งกับสมาชิก
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในฐานะคณะกรรมาธิการ ( กมธ.)พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจะขยายเวลาสมัยประชุมออกไปหรือจะปิดสมัยประชุมไปก่อนไปก่อนแล้วขอเปิดประชุสมัยวิสามัญอีกครั้ง
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่หากการทำงานของ กมธ.เสร็จทันจะขยายเวลาปิดสมัยประชุมออกไป แต่ถ้าไม่ทันจะปิดไปก่อนเพื่อเปิดวิสามัญอีกครั้ง อย่างไรก็ดีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญโดยธรรมเนียมปฏิบัติจะเปิดได้ครั้งเดียว เท่าที่ทราบสภาผู้แทนราษฏรยังมีกำหนดจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 13-14 มิ.ย.ซึ่งหากกรอบเวลาปิดเปิดประชุมเป็นไปตามปกติจะไม่มีปัญหาแต่หากเลื่อนวันปิดสมัยประชุมออกไปจะกระทบกับกำหนดการเดินทั้งหมด
ทั้งนี้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ3 ต้องมีเวลาพิจารณาห่างกัน 15 วันจึงคาดว่าจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในช่วงเดือน เม.ย.ประมาณ 1 เดือน
ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมลงรายละเอียดมากขึ้น หลังจากรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงการแปรญัตติของเพื่อนสมาชิกที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการ พร้อมทั้งมั่นใจว่าจะมีการประชุมพิจารณาลงมติได้ครบถ้วน และน่าจะเสร็จทันตามกรอบเวลา สามารถนำเข้าสู่สภาและผ่านวาระ 2 ได้ก่อนที่จะปิดสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ในวันที่ 18 เมษายนนี้ ส่วนวาระ 3 นั้น ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่า จะขยายเวลาประชุมเพิ่มหรือจะขอเปิดการประชุมสมัยวิสามัญต่อไป
พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไมทราบเป็นทางการว่าจะมีการขยายเวลาปิดประชุมสภาออกไปหรือไม่ แต่ทราบว่าอาจจะมีการเลื่อนการปิดสมัยประชุมตลอดเดือน เม.ย. จึงขอให้สมาชิกที่มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปเป็นเดือน พ.ค. ส่วนรายละเอียดจะให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาประสานกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ได้ความชัดเจนเพื่อแจ้งกับสมาชิก
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในฐานะคณะกรรมาธิการ ( กมธ.)พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจะขยายเวลาสมัยประชุมออกไปหรือจะปิดสมัยประชุมไปก่อนไปก่อนแล้วขอเปิดประชุสมัยวิสามัญอีกครั้ง
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่หากการทำงานของ กมธ.เสร็จทันจะขยายเวลาปิดสมัยประชุมออกไป แต่ถ้าไม่ทันจะปิดไปก่อนเพื่อเปิดวิสามัญอีกครั้ง อย่างไรก็ดีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญโดยธรรมเนียมปฏิบัติจะเปิดได้ครั้งเดียว เท่าที่ทราบสภาผู้แทนราษฏรยังมีกำหนดจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 13-14 มิ.ย.ซึ่งหากกรอบเวลาปิดเปิดประชุมเป็นไปตามปกติจะไม่มีปัญหาแต่หากเลื่อนวันปิดสมัยประชุมออกไปจะกระทบกับกำหนดการเดินทั้งหมด
ทั้งนี้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ3 ต้องมีเวลาพิจารณาห่างกัน 15 วันจึงคาดว่าจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในช่วงเดือน เม.ย.ประมาณ 1 เดือน
ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมลงรายละเอียดมากขึ้น หลังจากรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงการแปรญัตติของเพื่อนสมาชิกที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการ พร้อมทั้งมั่นใจว่าจะมีการประชุมพิจารณาลงมติได้ครบถ้วน และน่าจะเสร็จทันตามกรอบเวลา สามารถนำเข้าสู่สภาและผ่านวาระ 2 ได้ก่อนที่จะปิดสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ในวันที่ 18 เมษายนนี้ ส่วนวาระ 3 นั้น ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่า จะขยายเวลาประชุมเพิ่มหรือจะขอเปิดการประชุมสมัยวิสามัญต่อไป