ASTVผู้จัดการรายวัน -”ยูไนเต็ดฟูดส์” ยอมแบกต้นทุน ไม่ปรับราคาสินค้า หันพึ่งพาเครื่องจักรมากขึ้น ทุ่ม 80 ล้านบาท ปรับภาพลักษณ์ เซี่ยงไฮ้ ให้ดูทันสมัย ขยายฐานวัยรุ่น ดันยอดขายโต 20% หลังอยู่ในตลาดมากว่า 38 ปี
นางสาวอจลา สุทธิสัมพัทน์ กรรการ บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มสินค้าเวเฟอร์ภายใต้แบรนด์เซียงไฮ้ และกลุ่มสินค้าบิตกิตแก็บมากขึ้น จากเดิมปีที่แล้วการทำตลาดเวเฟอร์และเยลลี่มากแล้ว เพราะตลาดเวเฟอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเวเฟอร์ภายใต้แบรนด์เซียงไฮ้ บริษัทจะรุกทำตลาดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มวัยรุ่นจากเดิมเน้นกลุ่มครอบครัว
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เซียงไฮ้มีส่วนแบ่งตลาด 30% จากตลาดรวมเวเฟอร์ 2,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะเติบโต 5-10% ซึ่งการเนตฃลาดเวเฟอรืคาดว่า ขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโตจากปี 2553 ที่ประมาณ 20%
แผนการตลาดปีนี้จะใช้งบรวม 80 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบรนด์เซี่ยงไฮ้ทั้งปี ล่าสุดแต่งตั้ง “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์เซียงไฮ้ ซึ่งถือเป็นการกลับมาใช้พรีเซ็นเตอร์อีกครั้งในรอบ 6-7 ปี จากที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 38 แล้วจึงทำให้บริษัทต้องปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อให้สินค้าดูทันสมัย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบการผลิตจะสูงขึ้น แต่บริษัทฯยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้าในขณะนี้ แต่หันมาใช้การปรับวิธีการผลิตแทน ด้วยการหันมาใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้ามากขึ้น เพื่อลดต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตที่โรงงานบางปะอินด้วย
นางสาวอจลา สุทธิสัมพัทน์ กรรการ บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มสินค้าเวเฟอร์ภายใต้แบรนด์เซียงไฮ้ และกลุ่มสินค้าบิตกิตแก็บมากขึ้น จากเดิมปีที่แล้วการทำตลาดเวเฟอร์และเยลลี่มากแล้ว เพราะตลาดเวเฟอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเวเฟอร์ภายใต้แบรนด์เซียงไฮ้ บริษัทจะรุกทำตลาดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มวัยรุ่นจากเดิมเน้นกลุ่มครอบครัว
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เซียงไฮ้มีส่วนแบ่งตลาด 30% จากตลาดรวมเวเฟอร์ 2,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะเติบโต 5-10% ซึ่งการเนตฃลาดเวเฟอรืคาดว่า ขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโตจากปี 2553 ที่ประมาณ 20%
แผนการตลาดปีนี้จะใช้งบรวม 80 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบรนด์เซี่ยงไฮ้ทั้งปี ล่าสุดแต่งตั้ง “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์เซียงไฮ้ ซึ่งถือเป็นการกลับมาใช้พรีเซ็นเตอร์อีกครั้งในรอบ 6-7 ปี จากที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 38 แล้วจึงทำให้บริษัทต้องปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อให้สินค้าดูทันสมัย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบการผลิตจะสูงขึ้น แต่บริษัทฯยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้าในขณะนี้ แต่หันมาใช้การปรับวิธีการผลิตแทน ด้วยการหันมาใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้ามากขึ้น เพื่อลดต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตที่โรงงานบางปะอินด้วย