ASTVผู้จัดการรายวัน - "ธงทอง" สรุปยอดยื่นของเงินเยียวยาทั่วประเทศ 2,129 ราย สั่งแบงก์ออมสินจ่ายเงินเด็กจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ส่วน 2 ชาวต่างชาติจ่ายเงินก้อนผ่าน "บัวแก้ว"
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเยียวยาทางแพ่งและฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่น แถลงภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ว่า ได้มีการพิจารณาความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปลายปี 48-53 โดยผู้ที่ยื่นคำร้องตั้งแต่ วันที่ 8-16 มี.ค. ยอดรวมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 2,129 ราย โดยการลงทะเบียนในกรุงเทพฯ เมื่อแยกประเภทความเสียหาย มีกรณีผู้เสียชีวิต 187 ราย ทุพลภาพ 70 ราย สูญเสียอวัยวะสำคัญ 91 ราย บาดเจ็บสาหัส 138 ราย บาดเจ็บ 430 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 736 ราย และอื่นๆ 392 ราย
ทั้งนี้ ในกรณีผู้เสียชีวิตนั้น ครอบครัวที่มารับเงินอาจจะมีเด็กด้วย จึงมีการพิจารณาเพื่อที่จะดูแลผลประโยชน์ของเด็กในระยะยาว โดยการจ่ายในส่วนของ 4.5 ล้านบาท จะนำไปให้ธนาคารออมสินช่วยดูแล โดยเอาจำนวนเงินเป็นตัวตั้ง และนำบุคคลในครอบครัวที่มีสิทธิ์รับเงินมาหาร ซึ่งลักษณะการจ่าย จะเป็นการจ่ายเป็นสลากออมสินที่มีกำหนด 3 ปี ทั้งนี้สามารถที่จะไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนดเวลา
สำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะนำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารออมสิน ประเภทบัญชีเผื่อเรียกพิเศษ และบัญชีฝากประจำ โดยจะจ่ายเดือนละ 5,000 บาท คูณกับจำนวนเดือนที่เหลือ ที่ผู้ได้รับเงินช่วยเหลือจะบรรลุนิติภาวะ จากนั้นกรรมการก็จะพิจารณาเรื่องที่มีการยื่นเข้ามา ซึ่งกรณีที่มีปัญหาซับซ้อน ก็จะส่งมาให้อนุกรรมการฯ เป็นผู้ดู
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตชาวต่างประเทศ 2 ราย หลักการจะจ่ายเป็นเงินก้อน 7.5 ล้านบาท ให้ผู้ที่มีสิทธิ์รับเลย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ประสานเรื่องนี้
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 12 เม.ย. คาดว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับผู้ยื่นในกรณีที่ไม่มีปัญหาได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม ยังได้มีการแจ้งให้คณะกรรมการชุดที่ 3 ซึ่งมีหน้าดูแลผู้ประกอบการ ให้รายงานข้อมูลเข้ามาในที่ประชุมครั้งหน้า โดยคาดว่า อนุกรรมการฯ จะประชุมครั้งต่อไปในปลายเดือน เม.ย.นี้.
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเยียวยาทางแพ่งและฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่น แถลงภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ว่า ได้มีการพิจารณาความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปลายปี 48-53 โดยผู้ที่ยื่นคำร้องตั้งแต่ วันที่ 8-16 มี.ค. ยอดรวมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 2,129 ราย โดยการลงทะเบียนในกรุงเทพฯ เมื่อแยกประเภทความเสียหาย มีกรณีผู้เสียชีวิต 187 ราย ทุพลภาพ 70 ราย สูญเสียอวัยวะสำคัญ 91 ราย บาดเจ็บสาหัส 138 ราย บาดเจ็บ 430 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 736 ราย และอื่นๆ 392 ราย
ทั้งนี้ ในกรณีผู้เสียชีวิตนั้น ครอบครัวที่มารับเงินอาจจะมีเด็กด้วย จึงมีการพิจารณาเพื่อที่จะดูแลผลประโยชน์ของเด็กในระยะยาว โดยการจ่ายในส่วนของ 4.5 ล้านบาท จะนำไปให้ธนาคารออมสินช่วยดูแล โดยเอาจำนวนเงินเป็นตัวตั้ง และนำบุคคลในครอบครัวที่มีสิทธิ์รับเงินมาหาร ซึ่งลักษณะการจ่าย จะเป็นการจ่ายเป็นสลากออมสินที่มีกำหนด 3 ปี ทั้งนี้สามารถที่จะไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนดเวลา
สำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะนำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารออมสิน ประเภทบัญชีเผื่อเรียกพิเศษ และบัญชีฝากประจำ โดยจะจ่ายเดือนละ 5,000 บาท คูณกับจำนวนเดือนที่เหลือ ที่ผู้ได้รับเงินช่วยเหลือจะบรรลุนิติภาวะ จากนั้นกรรมการก็จะพิจารณาเรื่องที่มีการยื่นเข้ามา ซึ่งกรณีที่มีปัญหาซับซ้อน ก็จะส่งมาให้อนุกรรมการฯ เป็นผู้ดู
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตชาวต่างประเทศ 2 ราย หลักการจะจ่ายเป็นเงินก้อน 7.5 ล้านบาท ให้ผู้ที่มีสิทธิ์รับเลย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ประสานเรื่องนี้
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 12 เม.ย. คาดว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับผู้ยื่นในกรณีที่ไม่มีปัญหาได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม ยังได้มีการแจ้งให้คณะกรรมการชุดที่ 3 ซึ่งมีหน้าดูแลผู้ประกอบการ ให้รายงานข้อมูลเข้ามาในที่ประชุมครั้งหน้า โดยคาดว่า อนุกรรมการฯ จะประชุมครั้งต่อไปในปลายเดือน เม.ย.นี้.
