xs
xsm
sm
md
lg

“แคริ่ง”ปรับทัพรับเออีซี ดึงมิสยูนิเวิร์สกรุยทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แคริ่ง” ตื่นปลุกแบรนด์ ปรับทัพรับเออีซี รอบ 40 ปี ดึงอดีตนางงามจักรวาลเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทุ่ม 40 ล้านบาทขยายผลิต หวังปูพรม 10 ประเทศอาเซียน

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด และฝ่ายขาย บริษัท แคริ่ง-พี.ซี.แอล.จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและจัดแต่งทรงผม แบรนด์ “แคริ่ง” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมการเข้าสู่เออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้ ด้วยการปรับตัวครั้งใหญ่ ทำแบรนด์รีไวทัลไลเซชั่น หรือการปลุกพลังเพิ่มชีวิตชีวาให้กับแบรนด์ และต้องเร่งเข้าไป สร้างตลาดไว้ก่อน

แนวทางการทำแบรนด์รีไวทัลไลเซชั่น จะเน้นการสร้างภาพ ลักษณ์สินค้าให้เป็นแบรนด์พรีเมี่ยม ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุก 3-4 เดือน วางแผนที่จะรุกตลาด ต่อเนื่องทั้งปี ซึ่งปีนี้วางงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท และได้เลือก นาตาลี เกลโบว่า อดีตนางงามจักรวาล มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นคนแรกให้กับแบรนด์แคริ่งในรอบ 40 ปี หลังจากนี้จะเพิ่มงบทำตลาดทุกปีๆละ 20% เพื่อผลักดันให้แบรนด์แคริ่งเป็นแบรนด์ ผู้นำผลิตภัณฑ์เส้นผมในตลาดอาเซียนภายใน 10 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ตลาดรวมดูแลเส้นผมและจัดแต่งทรงผมในภูมิภาคอาเซียนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท (ไม่รวมตลาดแชมพู และคอนดิชั่นเนอร์) แต่พบว่าเป็นแบรนด์ของประเทศในอาเซียนแค่ 1-2 แบรนด์เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นแบรนด์อินเตอร์ ที่ยึดครองตลาดรวม ทั้งในไทยด้วย ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรที่ด้านการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า คาดว่าจะสรุปได้ช่วงครึ่งปีหลังนี้ เบื้องต้นพุ่งเป้าหมายไปที่ 2 ประเทศก่อนคือ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และจะทยอยเพิ่ม ประเทศใหม่ๆวางเป้าหมายจะครบ 10 ประเทศภายใน 3 ปี

นอกจากนั้นจะต้องลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทเพื่อใช้ขยาย กำลังผลิตในช่วง 3 ปีนี้ เพื่อรองรับตลาดอาเซียน โดยปัจจุบันมีโรงงาน ผลิตเองที่จ.นครราชสีมา และยังมีพื้นที่ให้ขยาย ไลน์การผลิตเพิ่มได้กว่า 50% ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้วบริษัทได้ปรับช่องทางจำหน่ายใหม่ จากเดิมเน้นช่องทางร้านเสริมสวยและร้านซาลอน แต่ปัจจุบันเน้นช่องทางร้านค้าปลีกในสัดส่วน 60% และที่เหลือ 40% เป็นช่องทางร้านเสริมสวยและร้านซาลอน ส่งผลให้ยอดขายแคริ่ง เติบโตต่อเนื่อง

โดยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้เติบโต 30% และตั้งเป้าหมายทั้งปีนี้จะเติบโต 30%มากกว่าตลาดรวมดูแลและตกแต่งเส้นผมที่เติบโตเพียง 7% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 14,000 ล้านบาท (รวมตลาดแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์)
สำหรับสัดส่วนยอดขายมาจาก กลุ่มทำความสะอาดเส้นผม 10% กลุ่มบำรุงเส้นผม 30% กลุ่มจัดแต่งทรงผม 40% กลุ่มยืด-ดัดเปลี่ยนสีผม 20% และกลุ่มเครื่องมือสำหรับช่างทำผม 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น