xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดรับสร้างเสี่ยงถดถอย! แรงงานส่อขาดแคลนชูทางรอดพัฒนา'องค์กร'สอนอาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.ไทยรับสร้างบ้าน (THCA) แจงผลสำรวจกำลังซื้อผู้บริโภคในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปี 55 สะท้อนภาวะตลาดรับสร้างบ้านยังไม่ฟื้นจริง ชี้ปัญหาแรงงานขาดแคลนอยู่ในระดับวิกฤต อาจฉุดมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านปีนี้ถดถอย หรือหมายถึง ผู้บริโภคอาจเสี่ยงไม่ได้บ้าน! แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัวเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภค ชูสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน ฝึกบุคลากรป้อนผู้ประกอบการแก้ปัญหาแรงงานระยะยาว จับตาตลาดรับสร้างบ้านตจว.บูม รับดีมานด์พุ่ง

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) กล่าวถึงตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า แม้จะยังซึมต่อเนื่องจากไตรมาสสี่ปีที่แล้ว แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงท้ายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ พบว่า กลุ่มผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจเริ่มกลับเข้ามาพูดคุยเรื่องสร้างบ้านมากขึ้น รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีแผนจะสร้างบ้านภายในปีนี้ก็เข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่เริ่มคลายกังวลบ้างแล้ว

สำหรับในแง่ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2555 นี้ สมาคมฯ ได้ทำการสอบถามความเห็นสมาชิกและผู้ประกอบการทั่วไป โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 52% เชื่อว่าความต้องการหรือกำลังซื้อมีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 32% เชื่อว่ากำลังซื้อใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ตอบจำนวน 16% เชื่อว่ากำลังซื้อลดลง จากผลสำรวจดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีความกังวลและไม่มั่นใจว่าภาวะตลาดจะกลับมาเติบโตได้จริง โดยชี้ว่าปัจจัยทีมีผลกระทบสำคัญๆ 3 อันดับแรกได้แก่ 1.ความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อปัญหาน้ำท่วม 2.ปัญหาแรงงานขาดแคลน และ 3.ต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากค่าแรงและราคาน้ำมัน

" อย่างไรก็ดี สมาคมฯ ประเมินว่าแนวโน้มกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้จะฟื้นตัวกลับมา แต่อาจไม่ช่วยให้มูลค่าแท้จริงตลาดรับสร้างบ้านเติบโตได้มากนัก ทั้งนี้ เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถเร่งรัดการก่อสร้างบ้านได้เป็นปกติ ด้วยเหตุที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ซึ่งปีนี้สถานการณ์รุนแรงกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังใช้ระบบหล่อโครงสร้างแบบเดิมๆ ส่งผลให้การรับรู้รายได้และจำนวนบ้านที่สร้างเสร็จไม่เติบโต"

ทั้งนี้ จากสถานการณ์และแนวโน้มที่กล่าวข้างต้น สมาคมฯประเมินว่าปริมาณและมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรกน่าจะอยู่ในภาวะทรงตัว ฉะนั้นจำเป็นที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้จะต้องเร่งวางกลยุทธ์ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกำลังซื้อกลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งในแง่การพัฒนาสินค้าและบริการ เช่น ออกแบบบ้านน้ำไม่ท่วม การเลือกใช้วัสดุทนน้ำ ฯลฯ เป็นต้น รวมถึงควรหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป แทนการก่อสร้างระบบเดิมมากขึ้น เพื่อลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน

" ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจก่อสร้างและรับสร้างบ้าน ทั้งแรงงานระดับวิชาชีพและช่างฝีมือจัดอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว โดยแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว สมาคมฯ มองว่าผู้ประกอบการจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ที่จะผลิตบุคลากรหรือพัฒนาแรงงานฝีมือขึ้นมาป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจของตัวเอง อาจจะเป็นรูปแบบการเปิดโรงเรียนหรือสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน โดยมีหลักสูตรการสอนในสาขาอาชีพที่ผู้ประกอบการมีความต้องการบุคลากรสาขานั้นๆ เช่น ช่างเขียนแบบ นักประเมินราคา ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ขาย ช่างฉาบปูน ช่างปูกระเบื้อง ฯลฯ เป็นต้น โดยวางกรอบไว้สำหรับผู้ที่เรียนจบหลักสูตร ผู้ประกอบการพร้อมรับเข้าปฏิบัติงานทันที ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างมีระบบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นโครงการหนึ่ง ที่สมาคมฯ กำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านประเทศไทย โดยจะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2555 นี้เป็นต้นไป"

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯได้ระบุถึงผลพวงจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากกังวลกับการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต้องการมีบ้านสำรองเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลปีนี้ลดลงเหลือ 5,018 ล้านบาท จาก 5,576 ล้านบาท ในปีที่แล้ว

ขณะที่มูลค่าตลาดรวมในต่างจังหวัดปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,624 ล้านบาท แต่ปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,284 ล้านบาท และเติบโตในอัตราเดียวกันนี้ต่อเนื่องไปถึงปี 2558 และทำให้มูลค่าการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และในต่างจังหวัดมีมูลค่าใกล้เคียงกันที่ประมาณ 6,000 ล้านบาทในอนาคต.
กำลังโหลดความคิดเห็น