xs
xsm
sm
md
lg

CPFกำไร1.5หมื่นล.ปี55ยอดขายโต50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - “ซีพีเอฟ”ปี54กำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้าน เติบโตเฉลี่ย88% ในช่วง5ปี ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายปีมังกร 3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอีก50% ส่วนปี59 แตะ 6แสนล้าน จากธุรกิจในต่างประเทศที่เติบโตสูง

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รายงานผลการดำเนินงานปี 2554 ด้วยยอดขายจำนวน 206,099 ล้านบาท เติบโต 9%จากปี 2553 และกำไรสุทธิจำนวน 15,837 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน หรือคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.38 บาทต่อหุ้น ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2554 จำนวน 0.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีแรก ที่ได้มีการจ่ายไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจำนวน 0.60 บาทต่อหุ้น จึงรวมเป็นการจ่ายปันผลทั้งสิ้น 1.20 บาทต่อหุ้น

“ซีพีเอฟได้ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจไปสู่สินค้ามูลค่าเพิ่มหรือธุรกิจอาหารเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการหาโอกาสในการลงทุนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งวันนี้ซีพีเอฟมีประเทศภายใต้การบริหารงานถึง 12 ประเทศนอกไทย ได้แก่ อินเดีย มาเลย์เซีย รัสเซีย ลาว ฟิลลิปปินส์ ตุรกี ไต้หวัน อังกฤษ กัมพูชา และล่าสุด เวียดนามและสาธารณรัฐประชาชนจีน”นายอดิเรก กล่าว

ทั้งนี้ ด้วยแผนงานดังกล่าว ได้ส่งผลให้ซีพีเอฟสามารถสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อปีในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาได้ถึงประมาณ 88% ต่อปี ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้าปี 2555 นี้ยอดขายน่าจะทะลุ 3 แสนล้านบาท หรือเพิ่มมากขึ้นจากปี 2554 อย่างน้อย 50% ส่วนหนึ่งมาจากการขยายการลงทุนเข้าไปในประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งบริษัทได้รับมติอนุมัติให้เข้าลงทุนได้เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมธุรกิจในประเทศต่างๆ ที่ซีพีเอฟลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ครบวงจรอีกมาก อาทิเช่น ประเทศจีน เวียดนาม ลาว ฟิลิปปินส์ รัสเซีย มาเลเซีย และเขมร เนื่องจากประเทศเหล่านี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ให้มีความทันสมัยบนความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการคาดการณ์ในส่วนของอัตราการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มมากขึ้นในแต่ละประเทศเหล่านั้นด้วย

ส่วนกิจการในประเทศไทย ธุรกิจอาหารจะเป็นธุรกิจหลักที่ผลักดันการเติบโตของกิจการ โดยเฉพาะสินค้าอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราซีพี อีกทั้งปัจจุบันบริษัทได้มีการส่งออกสินค้าอาหารไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว จึงคาดว่าปีนี้การส่งออกน่าจะเติบโตได้อย่างน้อย 20% จากปีก่อน

“ด้วยแผนงานการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจอาหาร ทำให้บริษัทมั่นใจยอดขายจะเพิ่มจาก 3 แสนล้านในปีนี้เป็นมากกว่า 6 แสนล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยสัดส่วนยอดขายประมาณ 60% มาจากกิจการในต่างประเทศ”
กำลังโหลดความคิดเห็น