กลุ่มแอร์เอเชียรุกคืบ ธุรกิจบัตรสะสมแต้มและ Pre-Paid Card ในประเทศไทย เปิดตัว “บิ๊กการ์ด”ชู รอยัลตี้โปรแกรม ที่เหนือกว่า บัตรสายการบินอื่น ด้วยความหลากหลายของพันธมิตร ตอกย้ำบริการ แอร์เอเชีย หนีคู่แข่งขัน ตั้งเป้าปีแรก 1 ล้านใบ และ 3 ล้านใบใน 3 ปี
นายโจฮาน อลิส อิสบราฮิม ผู้บริหารของบิ๊กการ์ด กล่าวว่า ได้เปิดตัว “โครงการบิ๊กการ์ด” ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ธิงค์ บิ๊ก ดิจิตัล มีแอร์เอเชียถือหุ้น 50% และทูนส์ มันนี อีก 50% โดยทูนมันนีเป็นบริษัทบริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงินของทูน กรุ๊ป
จุดประสงค์โครงการบิ๊กการ์ด เพื่อต้องการให้ ลูกค้าทั่วไป มีโอกาสได้บินฟรีกับแอร์เอเชีย พร้อมนำแต้มที่สะสมได้ ไปแลกสินค้าที่ระลึก คูปองเงินสด ห้องพักโรงแรม ตลอดจนสินค้าอื่นๆ ที่ร่วมรายการ วิธีการ เหมือนบัตรสะสมแต้ม “รอยัลตี้ โปรแกรม” ของสายการบินทั่วๆไปที่มี แต่ การสะสมแต้มของ บิ๊กการ์ด จะอิงกับค่าใช้จ่ายของลูกค้า แทนที่จะรอสะสมไมล์เพียงอย่างเดียว เกณฑ์การแลกแต้ม คือ 40 บาท ต่อ 1 บิ๊กพอยต์ (คะแนน)
บริษัทได้วางกลยุทธ์ ให้ต่างจากบัตรรอยัลตี้โปรแกรมอื่นๆ คือ เน้นจัดโปรโมชั่นถี่ตลอดปีเช่นเดียวกับการทำตลาดของแอร์เอเชีย โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมตั้งแต่ 0 ถึง 500 คะแนน เพื่อแลกตั๋วเครื่องบิน โดยจะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา และช่วงเปิดตัวนี้บริษัทจัดโปรโมชั่น เพิ่มคะแนน 250 บิ๊กพอยต์ทันที และเพิ่มเป็น 2
เท่าสำหรับทุกการใช้จ่ายกับแอร์เอเชียและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.55 นอกจากนี้ยังให้สิทธิใช้ 500 คะแนนแลกตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย ได้ตั้งแต่วันที่ 23-27 ก.พ. สำหรับเดินทางตั้งแต่ 3 พ.ค. – 30 มิ.ย.
เงื่อนไขการใช้บริการ ผู้สนใจต้องสมัครเป็นสมาชิกโดยเสียค่าแรกเข้า 100 บาท ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.tune2big.com หักเงินจากบัตรเครดิต เว็บนี้จะรวมการทำธุรกิจต่างๆ ของสมาชิก อีกหนึ่งจุดขายสำคัญที่ทำให้บิ๊กการ์ด ต่างจากรอยัลตี้โปรแกรมของสายการบินอื่นๆ คือ มีพันธมิตร เข้าร่วมจำนวนมาก นอกเหนือจากแอร์เอเชีย เช่น ฮาร์ดร็อคค่าเฟ่ โรงแรม ฮาร์ดร็อค ดีแทค เดอะวันการ์ด แบล็คแคนยอน นอกจากนั้นยังเจรจากับ ธนาคารชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่ง รวมถึงการเข้าใช้บริการโรงแรมในกลุ่มของทูน โฮเต็ลส์
“เรามีพันธมิตรในไทยราว 25 ราย ตั้งเป้าถึงปลายปี เพิ่มเป็น 100 ราย และมีแผนว่า ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะปรับรูปแบบบัตรเป็นบัตรเงินสด หรือ Pre-Paid Card โดยโมเดลนี้ ได้ดำเนินการไปแล้ว ที่ประเทศมาเลเซีย นอกจากนั้นยังมีแผนทำเว็บชอปปิ้งออนไลน์ รวมร้านค้ากว่า 2,000 แห่งทั่วโลกมาบริการสมาชิก ตั้งเป้าหมายถึงปลายปีนี้ บิ๊กการ์ดจะมีสมาชิกคนไทย 1 ล้านใบ ในอีก 2-3 ปี จะเพิ่มเป็น 3 ล้านใบ บิ๊กการ์ค เปิดตัวไปแล้วคือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย”
ทางด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า บัตรบิ๊กการ์ดจะช่วยให้ลูกค้าของไทยแอร์เอเชีย ได้รับความสะดวกมากขึ้น สามารถสะสมแต้ม และร่วมแคมเปญส่งเสริมการขายได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 22 ก.พ. นี้ แอร์เอเชีย จะปรับลดราคาค่าฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ขนาด 15 ก.ก. และ 20 ก.ก. เมื่อลูกค้าลงทะเบียนฝากสัมภาระล่วงหน้าทางออนไลน์ ทำให้ประหยัดได้ถึง 48% พร้อมกับเพิ่มทางเลือกน้ำหนัก 35 ก.ก. กับ 40 ก.ก.อีกด้วย
นายโจฮาน อลิส อิสบราฮิม ผู้บริหารของบิ๊กการ์ด กล่าวว่า ได้เปิดตัว “โครงการบิ๊กการ์ด” ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ธิงค์ บิ๊ก ดิจิตัล มีแอร์เอเชียถือหุ้น 50% และทูนส์ มันนี อีก 50% โดยทูนมันนีเป็นบริษัทบริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงินของทูน กรุ๊ป
จุดประสงค์โครงการบิ๊กการ์ด เพื่อต้องการให้ ลูกค้าทั่วไป มีโอกาสได้บินฟรีกับแอร์เอเชีย พร้อมนำแต้มที่สะสมได้ ไปแลกสินค้าที่ระลึก คูปองเงินสด ห้องพักโรงแรม ตลอดจนสินค้าอื่นๆ ที่ร่วมรายการ วิธีการ เหมือนบัตรสะสมแต้ม “รอยัลตี้ โปรแกรม” ของสายการบินทั่วๆไปที่มี แต่ การสะสมแต้มของ บิ๊กการ์ด จะอิงกับค่าใช้จ่ายของลูกค้า แทนที่จะรอสะสมไมล์เพียงอย่างเดียว เกณฑ์การแลกแต้ม คือ 40 บาท ต่อ 1 บิ๊กพอยต์ (คะแนน)
บริษัทได้วางกลยุทธ์ ให้ต่างจากบัตรรอยัลตี้โปรแกรมอื่นๆ คือ เน้นจัดโปรโมชั่นถี่ตลอดปีเช่นเดียวกับการทำตลาดของแอร์เอเชีย โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมตั้งแต่ 0 ถึง 500 คะแนน เพื่อแลกตั๋วเครื่องบิน โดยจะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา และช่วงเปิดตัวนี้บริษัทจัดโปรโมชั่น เพิ่มคะแนน 250 บิ๊กพอยต์ทันที และเพิ่มเป็น 2
เท่าสำหรับทุกการใช้จ่ายกับแอร์เอเชียและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.55 นอกจากนี้ยังให้สิทธิใช้ 500 คะแนนแลกตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย ได้ตั้งแต่วันที่ 23-27 ก.พ. สำหรับเดินทางตั้งแต่ 3 พ.ค. – 30 มิ.ย.
เงื่อนไขการใช้บริการ ผู้สนใจต้องสมัครเป็นสมาชิกโดยเสียค่าแรกเข้า 100 บาท ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.tune2big.com หักเงินจากบัตรเครดิต เว็บนี้จะรวมการทำธุรกิจต่างๆ ของสมาชิก อีกหนึ่งจุดขายสำคัญที่ทำให้บิ๊กการ์ด ต่างจากรอยัลตี้โปรแกรมของสายการบินอื่นๆ คือ มีพันธมิตร เข้าร่วมจำนวนมาก นอกเหนือจากแอร์เอเชีย เช่น ฮาร์ดร็อคค่าเฟ่ โรงแรม ฮาร์ดร็อค ดีแทค เดอะวันการ์ด แบล็คแคนยอน นอกจากนั้นยังเจรจากับ ธนาคารชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่ง รวมถึงการเข้าใช้บริการโรงแรมในกลุ่มของทูน โฮเต็ลส์
“เรามีพันธมิตรในไทยราว 25 ราย ตั้งเป้าถึงปลายปี เพิ่มเป็น 100 ราย และมีแผนว่า ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะปรับรูปแบบบัตรเป็นบัตรเงินสด หรือ Pre-Paid Card โดยโมเดลนี้ ได้ดำเนินการไปแล้ว ที่ประเทศมาเลเซีย นอกจากนั้นยังมีแผนทำเว็บชอปปิ้งออนไลน์ รวมร้านค้ากว่า 2,000 แห่งทั่วโลกมาบริการสมาชิก ตั้งเป้าหมายถึงปลายปีนี้ บิ๊กการ์ดจะมีสมาชิกคนไทย 1 ล้านใบ ในอีก 2-3 ปี จะเพิ่มเป็น 3 ล้านใบ บิ๊กการ์ค เปิดตัวไปแล้วคือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย”
ทางด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า บัตรบิ๊กการ์ดจะช่วยให้ลูกค้าของไทยแอร์เอเชีย ได้รับความสะดวกมากขึ้น สามารถสะสมแต้ม และร่วมแคมเปญส่งเสริมการขายได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 22 ก.พ. นี้ แอร์เอเชีย จะปรับลดราคาค่าฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ขนาด 15 ก.ก. และ 20 ก.ก. เมื่อลูกค้าลงทะเบียนฝากสัมภาระล่วงหน้าทางออนไลน์ ทำให้ประหยัดได้ถึง 48% พร้อมกับเพิ่มทางเลือกน้ำหนัก 35 ก.ก. กับ 40 ก.ก.อีกด้วย