ASTVผู้จัดการรายวัน – พม่าเนื้อหอม “บีอีซี-เทโร” และ “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” สองบริษัทใหญ่ในไทย ดอดจีบ ยักษ์สื่อพม่า “ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป” หวังบูมตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หลังพบโอกาสทางธุรกิจมีสูง ล่าสุดร่วมจัดงาน Myanmar Academy Awards Ceremony 2010 “วิน มาว” เจ้าพ่อสื่อเมืองหม่อง มั่นใจหลังร่วททุน ปีนี้โตร่วม 50% แตะ 20 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟวิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนรุกตลาดในประเทศพม่า ล่าสุดได้ร่วมกับทางกลุ่มบริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป จำกัด กับบริษัทลูกคือ ฟอร์เอฟเวอร์ บอสซัม ที่ดูแลธุรกิจงานอีเว้นท์ กับการร่วมกันจัดงาน Myanmar Academy Awards Ceremony 2010 ครั้งที่ 45ขึ้นที่เมืองหลวง เนบิดอร์ เมื่อวันที่7 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้รู้ถึงทิศทางการเข้ามาทำธุรกิจที่นี่ได้ดียิ่งขึ้น
รวมทั้งเรียนรู้การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ และวัฒนธรรมการทำงานของที่นี่ ซึ่งงานนี้อินเด็กซ์เข้ามาให้ความร่วมมือในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่ ดูภาพรวมในการจัดงาน และโนวฮาวในจัดงาน พบว่าทั้งเจ้าของงานและรัฐมนตรีระดับสูงของพม่าต่างพอใจเป็นอย่างมาก จากที่ผ่านมารัฐบาลพม่าจะเป็นผู้จัดงานเอง ขณะที่ปีนี้เป็นปีแรกที่ให้เอกชนเข้ามาทำ และเป็นปีแรกที่จัดในเมืองเนบิดอร์ รวมทั้งมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมเป็นปีแรก ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวพม่าอย่างท่วมท้น จนทำให้สามารถจำหน่ายบัตรได้หมดทั้ง 3,000 ที่นั่งด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ในช่วงกลางเดือนก.พ. อินเด็กซ์ยังได้ร่วมกับทางฟอร์เอฟเวอร์ ในการจัดงาน “ยูเนี่ยนเดย์”ขึ้นอีก 1 งานด้วย รวมแล้วภายในช่วง 2 เดือนนี้ บริษัทจะมีการร่วมจัดงานในพม่าราว 3-4 งาน ทั้งนี้ตามแผนการดำเนินงานบริษัทวางเป้ารายได้จากต่างประเทศ คือ พม่า และเวียดนาม ในปีนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท ขณะที่ในเฟสแรกที่เข้ามารุกพม่านี้ ได้ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 20-30 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสสองนี้ จะมีการร่วมจอยท์เวนเจอร์กับทางฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป อย่างเต็มตัว มุ่งสร้างรายได้ 3 ทาง คือ 1.ซัพพรอตอีเว้นท์ลูกค้าไทยที่เข้ามาทำธุรกิจในพม่า 2.ครีเอทอีเว้นท์ใหม่ขึ้นมา และ3.ซัพพรอตอีเว้นท์ของทางภาครัฐ
***ฟอร์เอฟเวอร์จีบ “อินเด็กซ์-บีอีซี เทโร” ร่วมทุน ***
ด้านนายวิน มาว (Win Maw) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โดยรวมของพม่ามีมูลค่าราว 40 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตสูงสุดต่อเนื่องที่ 20-30% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น รัฐบาลเองพร้อมให้การสนับสนุน โดยมองว่าอีเว้นท์เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ออกสู่สายตาชาวโลกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทิศทางธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จึงมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจมากหลังจากนี้
ล่าสุดปีนี้ทางบริษัทตัดสินใจร่วมทุนกับ 2 บริษัทในไทย คือ 1. อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ สำหรับธุรกิจการจัดงานอีเว้นท์ คาดว่าในช่วงไตรมาสสองจะสรุปแผนการร่วมทุนได้ 2.บริษัท บีอีซี-เทโร จำกัด โดยได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา ในชื่อ บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ บีอีซี -เทโร จำกัด ในการผลิตคอนเท้นท์รายการโทรทัศน์ เช่น รายการประเภท มอร์นิ่งทอร์ค และละครพม่า ป้อนให้กับช่องฟรีทีวีใหม่ของฟอร์เอฟเวอร์ คือ ช่อง CH7 ที่จะเริ่มทดลองออกอากาศในเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป มั่นใจว่าจากแผนการร่วทุนดังกล่าว ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 50% หรือรวมแล้วจะมีรายได้ที่ 20 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ จากปกติต่อปีเติบโตเพียง 25% เท่านั้น และสัดส่วนรายได้กว่า 70-80% มาจากโฆษณา และ20-30% มาจากค่าสมาชิก
ปัจจุบันบริษัทมีช่องฟรีทีวีอยู่ 1 ช่อง คือ MRTV-4 โดยจะเปิดเพิ่มอีก 1 ช่อง คือ CH7 ใช้งบลงทุนราว 10 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีช่องโทรทัศน์ ระบบเคเบิลทีวี 70 ช่อง ปีนี้จะเพิ่มอีก 10 ช่อง โดยกว่า 7 ช่องเป็นระบบ HD อีกทั้งยังมีคลื่นวิทยุอีก 2 คลื่นด้วย
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟวิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนรุกตลาดในประเทศพม่า ล่าสุดได้ร่วมกับทางกลุ่มบริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป จำกัด กับบริษัทลูกคือ ฟอร์เอฟเวอร์ บอสซัม ที่ดูแลธุรกิจงานอีเว้นท์ กับการร่วมกันจัดงาน Myanmar Academy Awards Ceremony 2010 ครั้งที่ 45ขึ้นที่เมืองหลวง เนบิดอร์ เมื่อวันที่7 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้รู้ถึงทิศทางการเข้ามาทำธุรกิจที่นี่ได้ดียิ่งขึ้น
รวมทั้งเรียนรู้การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ และวัฒนธรรมการทำงานของที่นี่ ซึ่งงานนี้อินเด็กซ์เข้ามาให้ความร่วมมือในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่ ดูภาพรวมในการจัดงาน และโนวฮาวในจัดงาน พบว่าทั้งเจ้าของงานและรัฐมนตรีระดับสูงของพม่าต่างพอใจเป็นอย่างมาก จากที่ผ่านมารัฐบาลพม่าจะเป็นผู้จัดงานเอง ขณะที่ปีนี้เป็นปีแรกที่ให้เอกชนเข้ามาทำ และเป็นปีแรกที่จัดในเมืองเนบิดอร์ รวมทั้งมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมเป็นปีแรก ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวพม่าอย่างท่วมท้น จนทำให้สามารถจำหน่ายบัตรได้หมดทั้ง 3,000 ที่นั่งด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ในช่วงกลางเดือนก.พ. อินเด็กซ์ยังได้ร่วมกับทางฟอร์เอฟเวอร์ ในการจัดงาน “ยูเนี่ยนเดย์”ขึ้นอีก 1 งานด้วย รวมแล้วภายในช่วง 2 เดือนนี้ บริษัทจะมีการร่วมจัดงานในพม่าราว 3-4 งาน ทั้งนี้ตามแผนการดำเนินงานบริษัทวางเป้ารายได้จากต่างประเทศ คือ พม่า และเวียดนาม ในปีนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท ขณะที่ในเฟสแรกที่เข้ามารุกพม่านี้ ได้ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 20-30 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสสองนี้ จะมีการร่วมจอยท์เวนเจอร์กับทางฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป อย่างเต็มตัว มุ่งสร้างรายได้ 3 ทาง คือ 1.ซัพพรอตอีเว้นท์ลูกค้าไทยที่เข้ามาทำธุรกิจในพม่า 2.ครีเอทอีเว้นท์ใหม่ขึ้นมา และ3.ซัพพรอตอีเว้นท์ของทางภาครัฐ
***ฟอร์เอฟเวอร์จีบ “อินเด็กซ์-บีอีซี เทโร” ร่วมทุน ***
ด้านนายวิน มาว (Win Maw) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โดยรวมของพม่ามีมูลค่าราว 40 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตสูงสุดต่อเนื่องที่ 20-30% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น รัฐบาลเองพร้อมให้การสนับสนุน โดยมองว่าอีเว้นท์เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ออกสู่สายตาชาวโลกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทิศทางธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จึงมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจมากหลังจากนี้
ล่าสุดปีนี้ทางบริษัทตัดสินใจร่วมทุนกับ 2 บริษัทในไทย คือ 1. อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ สำหรับธุรกิจการจัดงานอีเว้นท์ คาดว่าในช่วงไตรมาสสองจะสรุปแผนการร่วมทุนได้ 2.บริษัท บีอีซี-เทโร จำกัด โดยได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา ในชื่อ บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ บีอีซี -เทโร จำกัด ในการผลิตคอนเท้นท์รายการโทรทัศน์ เช่น รายการประเภท มอร์นิ่งทอร์ค และละครพม่า ป้อนให้กับช่องฟรีทีวีใหม่ของฟอร์เอฟเวอร์ คือ ช่อง CH7 ที่จะเริ่มทดลองออกอากาศในเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป มั่นใจว่าจากแผนการร่วทุนดังกล่าว ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 50% หรือรวมแล้วจะมีรายได้ที่ 20 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ จากปกติต่อปีเติบโตเพียง 25% เท่านั้น และสัดส่วนรายได้กว่า 70-80% มาจากโฆษณา และ20-30% มาจากค่าสมาชิก
ปัจจุบันบริษัทมีช่องฟรีทีวีอยู่ 1 ช่อง คือ MRTV-4 โดยจะเปิดเพิ่มอีก 1 ช่อง คือ CH7 ใช้งบลงทุนราว 10 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีช่องโทรทัศน์ ระบบเคเบิลทีวี 70 ช่อง ปีนี้จะเพิ่มอีก 10 ช่อง โดยกว่า 7 ช่องเป็นระบบ HD อีกทั้งยังมีคลื่นวิทยุอีก 2 คลื่นด้วย