ASTVผู้จัดการรายวัน-รวบโชเฟอร์แท็กซี่ติดเชื้อเอดส์ จี้ขืนใจชิงทรัพย์เหยื่อสาวใบ้ อ้างชำเราเหยื่อทุกครั้งจะใส่ถุงยางอนามัย โดยจะทำทีตีสนิทพอสบโอกาสจะพาเลี้ยวเข้าโรงแรม หรือย่ำยีภายในรถ สารภาพทำมากว่า 10 ครั้ง มีผู้เสียหายนับ 10 ราย
วานนี้ (20 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รักษาราชการแทน ผบก.น.1 พ.ต.ท.กฤษณะ สุกันทะ สว.สส.สน.พญาไท พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท แถลงการจับกุมนายแก้ว สังข์เมือง อายุ 43 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ พร้อมของกลางบัตรประชาชนผู้เสียหาย 9 ใบ ซิมการ์ดมือถือ 22 อัน และเอกสารอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นของบุคคลอื่น โดยก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนผู้โดยสาร ซึ่งมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนับ 10 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับได้ที่หน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ชิงทรัพย์ผู้โดยสาร โดยจะหลอกให้ผู้โดยสารลงจากรถแล้วให้วางทรัพย์สินไว้ในรถเมื่อผู้โดยสารหลงเชื่อจะขับรถหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สิน จากนั้นจะนำบัตรเอทีเอ็มที่ได้ไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวให้มาแจ้งความและชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.พญาไท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ทำมาแล้วกว่า 10 ครั้งซึ่งมีอาชีพเป็นคนขับรถรับจ้างของบริษัท แต่จะมาขับรถแท็กซี่แล้วแต่โอกาส โดยไม่ได้ขับแท็กซี่เป็นประจำ ซึ่งในแต่ละวันจะขับแท็กซี่ตั้งแต่ตีห้า ถึงสองทุ่ม ซึ่งจะเริ่มก่อเหตุโดยการตีสนิทกับผู้โดยสารพอได้โอกาสก็จะพาไปข่มขืนตามโรงแรมบ้าง หรือข่มขืนในรถแท็กซี่บ้าง หากผู้โดยสารขัดขืนจะใช้มีดคัตเตอร์ข่มขู่และบังคับขืนใจ พร้อมทั้งนำทรัพย์สินของผู้โดยสารไปด้วย เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอในการใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว
ด้าน พ.ต.ท.กฤษณะ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะหลอกลวงหญิงสาวไปร่วมหลับนอน โดยจากนั้นจะนำบัตรเอทีเอ็มของเหยื่อรายก่อนๆ ให้หญิงสาวรายที่โดนหลอกล่าสุดไปกดเงิน เพื่อให้เหยื่อเกิดความเชื่อใจก่อนขับรถหลบหนี ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุกับ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 20 ปี และ น.ส.ปาน (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งทั้งสองรายเป็นคนใบ้ โดยใช้มีดจี้ข่มขืนในรถ ก่อนได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งผู้เสียหาทั้งสองได้ไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว นอกจากนี้ โชเฟอร์แท็กซี่คันที่ก่อเหตุยังมีเชื้อเอชไอวี โดยโชเฟอร์แท็กซี่ได้บอกว่าจะใช้ถุงยางอนามัยกับเหยื่อทุกครั้งที่ข่มขืน เพราะทราบว่าตัวเองเป็นเอดส์ ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินจะนำไปขาย หรือจำนำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานตั๋วจำนำ ย่านสุขาภิบาล 3 โดยมีแหวน 2 วง และสร้อยทองที่คนร้ายนำไปจำนำไว้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร นำส่ง สน.พญาไท ดำเนินคดี ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเราจะส่งเรื่องไปดำเนินคดีที่ สน.ลาดพร้าว รวมถึงในพื้นที่อื่นๆที่เคยก่อเหตุด้วย.
วานนี้ (20 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รักษาราชการแทน ผบก.น.1 พ.ต.ท.กฤษณะ สุกันทะ สว.สส.สน.พญาไท พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท แถลงการจับกุมนายแก้ว สังข์เมือง อายุ 43 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ พร้อมของกลางบัตรประชาชนผู้เสียหาย 9 ใบ ซิมการ์ดมือถือ 22 อัน และเอกสารอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นของบุคคลอื่น โดยก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนผู้โดยสาร ซึ่งมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนับ 10 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับได้ที่หน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ชิงทรัพย์ผู้โดยสาร โดยจะหลอกให้ผู้โดยสารลงจากรถแล้วให้วางทรัพย์สินไว้ในรถเมื่อผู้โดยสารหลงเชื่อจะขับรถหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สิน จากนั้นจะนำบัตรเอทีเอ็มที่ได้ไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวให้มาแจ้งความและชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.พญาไท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ทำมาแล้วกว่า 10 ครั้งซึ่งมีอาชีพเป็นคนขับรถรับจ้างของบริษัท แต่จะมาขับรถแท็กซี่แล้วแต่โอกาส โดยไม่ได้ขับแท็กซี่เป็นประจำ ซึ่งในแต่ละวันจะขับแท็กซี่ตั้งแต่ตีห้า ถึงสองทุ่ม ซึ่งจะเริ่มก่อเหตุโดยการตีสนิทกับผู้โดยสารพอได้โอกาสก็จะพาไปข่มขืนตามโรงแรมบ้าง หรือข่มขืนในรถแท็กซี่บ้าง หากผู้โดยสารขัดขืนจะใช้มีดคัตเตอร์ข่มขู่และบังคับขืนใจ พร้อมทั้งนำทรัพย์สินของผู้โดยสารไปด้วย เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอในการใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว
ด้าน พ.ต.ท.กฤษณะ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะหลอกลวงหญิงสาวไปร่วมหลับนอน โดยจากนั้นจะนำบัตรเอทีเอ็มของเหยื่อรายก่อนๆ ให้หญิงสาวรายที่โดนหลอกล่าสุดไปกดเงิน เพื่อให้เหยื่อเกิดความเชื่อใจก่อนขับรถหลบหนี ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุกับ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 20 ปี และ น.ส.ปาน (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งทั้งสองรายเป็นคนใบ้ โดยใช้มีดจี้ข่มขืนในรถ ก่อนได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งผู้เสียหาทั้งสองได้ไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว นอกจากนี้ โชเฟอร์แท็กซี่คันที่ก่อเหตุยังมีเชื้อเอชไอวี โดยโชเฟอร์แท็กซี่ได้บอกว่าจะใช้ถุงยางอนามัยกับเหยื่อทุกครั้งที่ข่มขืน เพราะทราบว่าตัวเองเป็นเอดส์ ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินจะนำไปขาย หรือจำนำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานตั๋วจำนำ ย่านสุขาภิบาล 3 โดยมีแหวน 2 วง และสร้อยทองที่คนร้ายนำไปจำนำไว้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร นำส่ง สน.พญาไท ดำเนินคดี ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเราจะส่งเรื่องไปดำเนินคดีที่ สน.ลาดพร้าว รวมถึงในพื้นที่อื่นๆที่เคยก่อเหตุด้วย.