นายราเมศ รัตนะเชวง ตัวแทนทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์ ในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และพวกรวม 83 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ประกอบมาตรา 106(6) และมาตรา266 (1) หรือไม่ เนื่องจากใช้ตำแหน่งหน้าที่ เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในกรณีให้ผู้ราชการจังหวัดพิษณุโลก นำถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน จำนวน 500 ถุง มาให้ตนเองแจกจ่ายกับผู้ประสบอุทกภัยในจ.พิษณุโลก ได้นำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของนายอภิสิทธิ์ เป็นเอกสารจำนวน 10 หน้า และนพ.วรงค์ จำนวน 13 หน้า มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลฯได้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. และมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมาภายใน 15 วัน
นายราเมศ กล่าวว่า คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของทั้งนายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์ ที่ยื่นต่อศาลฯนั้น ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการกระทำตามที่มีการกล่าวหา โดยไม่ได้มีการใช้สถานะ หรือตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรก แซงการปฏิบัติราชการของผู้ว่าฯพิษณุโลก หรือกระทำการอื่นใด เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แต่เป็นการกระทำโดยยึดหลักเกณฑ์ความซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา โดยถุงยังชีพ ที่มีการนำมาแจกจ่ายนั้น ก็ยังคงเป็นถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ไม่ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
นายราเมศ กล่าวว่า คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของทั้งนายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์ ที่ยื่นต่อศาลฯนั้น ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการกระทำตามที่มีการกล่าวหา โดยไม่ได้มีการใช้สถานะ หรือตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรก แซงการปฏิบัติราชการของผู้ว่าฯพิษณุโลก หรือกระทำการอื่นใด เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แต่เป็นการกระทำโดยยึดหลักเกณฑ์ความซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา โดยถุงยังชีพ ที่มีการนำมาแจกจ่ายนั้น ก็ยังคงเป็นถุงยังชีพของกระทรวงพลังงาน ไม่ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด