ASTVผู้จัดการรายวัน- “อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค” เตรียมขายหุ้นไอพีโอ ส.ค.นี้ 30 ล้านหุ้น หวังนำเงินระดมทุนซื้อเครื่องจักร ขยายกำลังผลิต คาดใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท “ผู้บริหาร”ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 25-30% จากปี 54 มีรายได้ 1 พันล้านบาท
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด หรือ ECF ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอรภายใต้แบรนด์ เอลลีก้า เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้นประมาณ 30 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)ไตรมาส3/55 ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปซื้อเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังผลิต และเพิ่มศักยภาพการผลิตให้ดีขึ้นจากเดิมนอกจากนี้เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากคู่ค้าของบริษัทโดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นบริษัทในต่างประเทศ
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการดำเนินการดังกล่าว 100 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25-30% จากปี2554ที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท และ คาดกำไรเติบโต 12% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท เนื่องจาก จากการขยายตลาดในต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งตลาดต่างประเทศปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขายในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น และตลาดในแถบอาเซียนจากการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน(AEC)ซึ่งมีประชากรรวมกัน 500 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีกำลังซื้อจำนวนมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าแล้วถึงเดือนมิถุนายน
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายต่างประเทศ70% แบ่งเป็น50% เป็นการขายในประเทศญี่ปุ่น ที่เหลือยุโรปและตะวันออกลาง และจำหน่ายในประเทศไทย 30% โดยในอีก 2 ปี บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศมากขึ้น เป็น 40% เพราะ ต่างประเทศมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ในประเทศไทยมีปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า หากไม่มีปัญหาการเมืองและน้ำท่วมและการขนส่งสะดวก นอกจากนี้บริษัทมีการเปิดร้านของตัวเอง และมีการขยายตลาดไปตามอินเด็กซ์เฟอร์นิเจอร์ และ ตามร้านค้าปลีกต่างๆ
“ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของ ECF มีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยในช่วงไตรมาส1/55 บริษัทมียอดคำสั่งซื้อสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้ารายเดิม และคาดว่าในปีหน้าจะยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณ 25% โดยหากปี54 ไม่มีปัญหาน้ำท่วมบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1.1-1.2 พันล้านบาท ”นายอารักษ์ กล่าว
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด หรือ ECF ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอรภายใต้แบรนด์ เอลลีก้า เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้นประมาณ 30 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)ไตรมาส3/55 ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปซื้อเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังผลิต และเพิ่มศักยภาพการผลิตให้ดีขึ้นจากเดิมนอกจากนี้เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากคู่ค้าของบริษัทโดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นบริษัทในต่างประเทศ
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการดำเนินการดังกล่าว 100 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25-30% จากปี2554ที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท และ คาดกำไรเติบโต 12% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท เนื่องจาก จากการขยายตลาดในต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งตลาดต่างประเทศปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขายในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น และตลาดในแถบอาเซียนจากการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน(AEC)ซึ่งมีประชากรรวมกัน 500 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีกำลังซื้อจำนวนมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าแล้วถึงเดือนมิถุนายน
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายต่างประเทศ70% แบ่งเป็น50% เป็นการขายในประเทศญี่ปุ่น ที่เหลือยุโรปและตะวันออกลาง และจำหน่ายในประเทศไทย 30% โดยในอีก 2 ปี บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศมากขึ้น เป็น 40% เพราะ ต่างประเทศมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ในประเทศไทยมีปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า หากไม่มีปัญหาการเมืองและน้ำท่วมและการขนส่งสะดวก นอกจากนี้บริษัทมีการเปิดร้านของตัวเอง และมีการขยายตลาดไปตามอินเด็กซ์เฟอร์นิเจอร์ และ ตามร้านค้าปลีกต่างๆ
“ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของ ECF มีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยในช่วงไตรมาส1/55 บริษัทมียอดคำสั่งซื้อสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้ารายเดิม และคาดว่าในปีหน้าจะยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณ 25% โดยหากปี54 ไม่มีปัญหาน้ำท่วมบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1.1-1.2 พันล้านบาท ”นายอารักษ์ กล่าว
