เชียงราย - ทหารพม่าลุยค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเสพติด หลังไทยประสานช่วยสางคดียิงตำรวจไทย ยึดของกลางได้เพียบ เฉพาะยาบ้ากว่า 8 ล้านเม็ด เฮโรอีนมากถึง 52.8 กก. พร้อมอาวุธปืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารพม่าใน จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย นำโดย พ.อ.ขิ่น หม่อง โซ ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำกำลังทหารเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพื้นที่เป้าหมายยาเสพติดในหมู่บ้านป่าคา ต.ดอยต่อคำ จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง
ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทางคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ได้ประสานขอความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไปยังทางการพม่า โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงตำรวจไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะไปปฏิบัติการตรวจสอบยาเสพติดที่ชายแดนบริเวณเดียวกัน
ในครั้งนี้ทหารพม่าได้เข้าปฏิบัติการใน 3 พื้นที่ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก คือ จุดที่หนึ่งเข้าตรวจค้นบ้านของนายอามู ไม่มีนามสกุล พบของกลางยาบ้าฝังซุกซ่อนเอาไว้ใต้ดินบริเวณใกล้ตัวบ้านจำนวน 2,394,000 เม็ด แต่นายอามู ได้หลบหนีออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ทหารพม่าจึงจับกุมตัวนางมีจู ภรรยาของนายอามู ซึ่งอยู่ในบ้านเอาไว้
ส่วนอีกจุดได้ตรวจค้นบ้านของนายอาก่า ไม่มีนามสกุล ได้ของกลางยาบ้า 1,856,000 เม็ด และบ้านของนายอากา ไม่มีนามสกุล ได้ยาบ้า 4,468,400 เม็ด โดยทั้งหมดถูกฝังเอาไว้ใต้ดินเหมือนกัน แต่นายอาก่า และนายอากา หลบหนีไปได้
เมื่อนำยาบ้าทั้งหมดมารวมกันพบว่า สามารถตรวจยึดได้กว่า 8,718,400 เม็ด
นอกจากนี้ วันเดียวกันเจ้าหน้าทหารพม่า ได้กระจายกำลังออกตรวจค้นตามจุดต่างๆ สามารถยึดของกลางได้หลายรายการประกอบไปด้วยอาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนเล็กยาว เอเค 47 หรืออาก้า จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกกรดยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เฮโรอีนประมาณ 52.8 กิโลกรัม
สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยถูกยิงดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านจะลอ ม.10 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ตรงกันข้ามบ้านผาขาว จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า โดยทำให้ ร.ต.ต.ศิรวิทย์ พูนกำลัง รอง สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง อายุ 44 ปี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย อายุ 39 ปีพลขับสายตรวจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิตในฝั่งไทย 1 ศพ และฝั่งพม่า 1 ศพ และหลบหนีไปได้อีกหลายคน โดยคนร้ายเป็นกองกำลังติดอาวุธที่มาจากฝั่งประเทศพม่าและก่อเหตุขณะตำรวจตั้งจุดตรวจบริเวณถนนริมชายแดนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารพม่าใน จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย นำโดย พ.อ.ขิ่น หม่อง โซ ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำกำลังทหารเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพื้นที่เป้าหมายยาเสพติดในหมู่บ้านป่าคา ต.ดอยต่อคำ จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง
ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทางคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ได้ประสานขอความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไปยังทางการพม่า โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงตำรวจไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะไปปฏิบัติการตรวจสอบยาเสพติดที่ชายแดนบริเวณเดียวกัน
ในครั้งนี้ทหารพม่าได้เข้าปฏิบัติการใน 3 พื้นที่ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก คือ จุดที่หนึ่งเข้าตรวจค้นบ้านของนายอามู ไม่มีนามสกุล พบของกลางยาบ้าฝังซุกซ่อนเอาไว้ใต้ดินบริเวณใกล้ตัวบ้านจำนวน 2,394,000 เม็ด แต่นายอามู ได้หลบหนีออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ทหารพม่าจึงจับกุมตัวนางมีจู ภรรยาของนายอามู ซึ่งอยู่ในบ้านเอาไว้
ส่วนอีกจุดได้ตรวจค้นบ้านของนายอาก่า ไม่มีนามสกุล ได้ของกลางยาบ้า 1,856,000 เม็ด และบ้านของนายอากา ไม่มีนามสกุล ได้ยาบ้า 4,468,400 เม็ด โดยทั้งหมดถูกฝังเอาไว้ใต้ดินเหมือนกัน แต่นายอาก่า และนายอากา หลบหนีไปได้
เมื่อนำยาบ้าทั้งหมดมารวมกันพบว่า สามารถตรวจยึดได้กว่า 8,718,400 เม็ด
นอกจากนี้ วันเดียวกันเจ้าหน้าทหารพม่า ได้กระจายกำลังออกตรวจค้นตามจุดต่างๆ สามารถยึดของกลางได้หลายรายการประกอบไปด้วยอาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนเล็กยาว เอเค 47 หรืออาก้า จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกกรดยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เฮโรอีนประมาณ 52.8 กิโลกรัม
สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยถูกยิงดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านจะลอ ม.10 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ตรงกันข้ามบ้านผาขาว จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า โดยทำให้ ร.ต.ต.ศิรวิทย์ พูนกำลัง รอง สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง อายุ 44 ปี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ ด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย อายุ 39 ปีพลขับสายตรวจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิตในฝั่งไทย 1 ศพ และฝั่งพม่า 1 ศพ และหลบหนีไปได้อีกหลายคน โดยคนร้ายเป็นกองกำลังติดอาวุธที่มาจากฝั่งประเทศพม่าและก่อเหตุขณะตำรวจตั้งจุดตรวจบริเวณถนนริมชายแดนดังกล่าว
