ASTVผู้จัดการรายวัน- โบรกเกอร์ซุ่มเจรจาควบรวม 3-4 แห่ง แต่การแข่งขันธุรกิจหลักทรัพย์ในช่วงนี้ไม่รุนแรงทำให้ดีลไม่คืบ รอดูสถานการณ์ครึ่งหลัง ชี้ บล.ยูโอบี ฯ เดินหน้าซื้อกิจการหากมีผู้สนใจขาย แหล่งข่าวแจง อาเซียนลิ้งคอาจเลื่อน เหตุ โบรกเกอร์ยังไม่พร้อมเปิดซื้อขายหุ้นระหว่างประเทศ ด้านเงินทุน –การทำบทวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศ
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เปิดเผยถึง แนวโน้มการควบรวมธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อรองรับการแข่งขัน ว่า ขณะนี้มีโบรกเกอร์ที่อยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการประมาณ 3-4 แห่ง แต่จากการที่การแข่งขันในช่วงนี้ถึงครึ่งปีแรกนั้นเชื่อว่าจะยังคงไม่แข่งขันรุนแรงมาก จากที่สมาคมโบรกเกอร์มีการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้โบรกเกอร์เน้นแข่งทางด้านคุณภาพการให้บริการดีกว่าแข่งขันราคาที่ทำให้ โบรกเกอร์อาจมีผลขาดุทนกันทำให้ต้องมีการขายกิจการ ดังนั้นอาจทำให้ยังไม่เห็นการดำเนินการควบรวมกัน แต่จะต้องรอดูแนวโน้มการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังก่อนพิจารณาตัดสินใจ
รายงานล่าสุด แจ้งว่า ขณะนี้ทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) สนใจที่จะมีการซื้อบล.เพิ่ม เพราะ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ยูโอบีเคย์เฮียนโฮดดิ้งในต่างประเทศนั้นมีการไปซื้อกิจการต่างๆอยู่แล้ว
ด้านความคืบหน้าการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นอาเซียนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พยายามที่จะมีการเตรียมระบบการซื้อขายให้ทันเพื่อเชื่อมต่อกับทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย แต่ในส่วนของทางสมาคมโบรกเกอร์เองอยากให้มีการเลื่อนการเชื่อมโยงการซื้อขายหุ้นอาเซียน ออกไปก่อนเพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันมากกว่า ในเรื่องของเงินทุน และ การจัดทำบทวิเคราะห์ ซึ่งต่างประเทศนั้นเช่น สิงคโปร์นั้นมีความพร้อมมากกว่าประเทศไทย
ทั้งนี้ในส่วนโบรกเกอร์ขนาดใหญ่นั้นมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าวอยู่แล้ว แต่โบรกเกอร์ขนาดเล็กขนาดเล็กยังไม่พร้อม ซึ่งทางสมาคมโบรกเกอร์อยากให้ทางโบรกเกอร์ของไทยทั้งหมดมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าวแล้วทำพร้อมกัน ซึ่งหากมีการเปิดซื้อขายระหว่างประเทศโบรกเกอร์ขนาดเล็กอาจจะลำบากในเบานฐานเงินทุนและ เรื่องการจัดทำบทวิเคราะห์ นักลงทุนไทยยังไม่รู้จัก แต่ต่างประเทศรู้จักประเทศไทยดี
“เรื่องอาเซียนลิ้งค์เกจ นั้นทางตลาดหลักทรัพย์ฯอยากที่จะเร่งดำเนนิการให้ทันเดือนส.ค.นี้ แต่ทางสมาคมโบรกเกอร์มีความกังวลว่าโบรกเกอร์ไทยมีความพร้อมในเรื่องดังกล่าวแค่ไหน และจะแข่งกับต่างประเทศได้หรือไม่ ในเรื่องของเงินทุน และเรื่องการทำบทวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศ ซึ่งโบรกเกอร์ขนาดใหญ่นั้นมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่โบรกเกอร์ขนาดเล็กนั้นอาจจะยังไม่พร้อม จึงมองว่าควรที่จะให้เราพร้อมมากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยเชื่อมกับต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศนั้นขาพร้อมมากกว่าเราอยู่แล้ว ” แหล่งข่าวกล่าวว่า
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เปิดเผยถึง แนวโน้มการควบรวมธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อรองรับการแข่งขัน ว่า ขณะนี้มีโบรกเกอร์ที่อยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการประมาณ 3-4 แห่ง แต่จากการที่การแข่งขันในช่วงนี้ถึงครึ่งปีแรกนั้นเชื่อว่าจะยังคงไม่แข่งขันรุนแรงมาก จากที่สมาคมโบรกเกอร์มีการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้โบรกเกอร์เน้นแข่งทางด้านคุณภาพการให้บริการดีกว่าแข่งขันราคาที่ทำให้ โบรกเกอร์อาจมีผลขาดุทนกันทำให้ต้องมีการขายกิจการ ดังนั้นอาจทำให้ยังไม่เห็นการดำเนินการควบรวมกัน แต่จะต้องรอดูแนวโน้มการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังก่อนพิจารณาตัดสินใจ
รายงานล่าสุด แจ้งว่า ขณะนี้ทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) สนใจที่จะมีการซื้อบล.เพิ่ม เพราะ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ยูโอบีเคย์เฮียนโฮดดิ้งในต่างประเทศนั้นมีการไปซื้อกิจการต่างๆอยู่แล้ว
ด้านความคืบหน้าการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นอาเซียนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พยายามที่จะมีการเตรียมระบบการซื้อขายให้ทันเพื่อเชื่อมต่อกับทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย แต่ในส่วนของทางสมาคมโบรกเกอร์เองอยากให้มีการเลื่อนการเชื่อมโยงการซื้อขายหุ้นอาเซียน ออกไปก่อนเพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันมากกว่า ในเรื่องของเงินทุน และ การจัดทำบทวิเคราะห์ ซึ่งต่างประเทศนั้นเช่น สิงคโปร์นั้นมีความพร้อมมากกว่าประเทศไทย
ทั้งนี้ในส่วนโบรกเกอร์ขนาดใหญ่นั้นมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าวอยู่แล้ว แต่โบรกเกอร์ขนาดเล็กขนาดเล็กยังไม่พร้อม ซึ่งทางสมาคมโบรกเกอร์อยากให้ทางโบรกเกอร์ของไทยทั้งหมดมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าวแล้วทำพร้อมกัน ซึ่งหากมีการเปิดซื้อขายระหว่างประเทศโบรกเกอร์ขนาดเล็กอาจจะลำบากในเบานฐานเงินทุนและ เรื่องการจัดทำบทวิเคราะห์ นักลงทุนไทยยังไม่รู้จัก แต่ต่างประเทศรู้จักประเทศไทยดี
“เรื่องอาเซียนลิ้งค์เกจ นั้นทางตลาดหลักทรัพย์ฯอยากที่จะเร่งดำเนนิการให้ทันเดือนส.ค.นี้ แต่ทางสมาคมโบรกเกอร์มีความกังวลว่าโบรกเกอร์ไทยมีความพร้อมในเรื่องดังกล่าวแค่ไหน และจะแข่งกับต่างประเทศได้หรือไม่ ในเรื่องของเงินทุน และเรื่องการทำบทวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศ ซึ่งโบรกเกอร์ขนาดใหญ่นั้นมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่โบรกเกอร์ขนาดเล็กนั้นอาจจะยังไม่พร้อม จึงมองว่าควรที่จะให้เราพร้อมมากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยเชื่อมกับต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศนั้นขาพร้อมมากกว่าเราอยู่แล้ว ” แหล่งข่าวกล่าวว่า